สหรัฐฯ จับกุมชายชาวจีนรายหนึ่งซึ่งจัดหาและขนส่งอาวุธยุทโธปกรณ์จากสหรัฐฯ ไปให้เกาหลีเหนือ เผยอาวุธเหล่านี้อาจจะใช้ในการโจมตีเกาหลีใต้
เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ รายงานว่า สามารถจับกุม “เหวิน เชิงฮวา” ชายชาวจีนรายหนึ่ง ซึ่งได้ช่วยเหลือรัฐบาลเกาหลีเหนือในแผนการอันซับซ้อนที่มีเป้าหมายเพื่อให้ได้มาซึ่งอาวุธและเทคโนโลยีทางทหารอย่างผิดกฎหมาย
กระทรวงยุติธรรมกล่าวหาว่า เหวิน ซึ่งปัจจุบันอาศัยอยู่ในเมืองออนแทรีโอของรัฐแคลิฟอร์เนียอย่างผิดกฎหมาย ได้รับงานจากเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือเพื่อจัดหาสิ่งของต้องห้าม ก่อนจะเดินทางมายังสหรัฐฯ ในฐานะนักศึกษาในปี 2012
ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) เหวินให้การว่า “เชื่อว่ารัฐบาลเกาหลีเหนือต้องการอาวุธ กระสุน และอุปกรณ์ทางทหารอื่น ๆ เพื่อเตรียมการโจมตีเกาหลีใต้” และระบุเพิ่มเติมว่า รัฐบาลเกาหลีเหนือจ่ายเงินให้เขา 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 68 ล้านบาท) เพื่อแลกกับการจัดหาสิ่งของดังกล่าว
นอกจากอาวุธและยุทโธปกรณ์แล้ว เหวินยังบอกกับเอฟบีไอว่า เกาหลีเหนือยังมอบหมายให้เขาจัดหาเครื่องแบบทหารในสหรัฐ ซึ่ง “กองทัพเกาหลีเหนือจะใช้เพื่อปลอมตัวทหารของตนเพื่อโจมตีเกาหลีใต้แบบไม่ทันตั้งตัว”
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีทหารสหรัฐฯ หลายพันนายประจำการอยู่ในเกาหลีใต้เพื่อช่วยเสริมความมั่นคงและเสถียรภาพในภูมิภาค ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่จะมีแผนการแฝงตัวเข้าไปเป็นทหารสหรัฐฯ ในเกาหลีใต้
อัยการยังกล่าวหาว่า เหวินได้จัดตั้งบริษัทส่งออกในเท็กซัส ซึ่งจัดหาอาวุธปืนและกระสุนปืนและขนส่งไปยังพื้นที่ลอสแอนเจลิส จากนั้นจึงบรรจุในตู้คอนเทนเนอร์บรรทุกสินค้าที่มีใบกำกับสินค้าปลอมเพื่อส่งไปยังเกาหลีเหนือเมื่อปี 2023
ขณะดำเนินการค้นบ้านของเหวิน เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดกระสุนปืนได้ 50,000 นัด อุปกรณ์ตรวจจับสารเคมีที่ซับซ้อน และอุปกรณ์ที่ใช้ตรวจจับอุปกรณ์ดักฟัง ซึ่งเหวินถูกกล่าวหาว่าเขาตั้งใจจะส่งสิ่งเหล่านี้ไปยังเกาหลีเหนือด้วย
ขณะที่ระหว่างการค้นโทรศัพท์มือถือของเขา เอฟบีไอพบข้อความจำนวนมาก “ระหว่างเหวินกับผู้สมรู้ร่วมคิดชาวเกาหลีเหนือ ในการพูดคุยกับหลายคนมีการแนบรูปภาพของอาวุธปืนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์”
มาร์ติน เอสตราดา อัยการสหรัฐฯ กล่าวว่า “ไม่มีใครบอกได้ว่า เหวินอาจสร้างความเสียหายเพิ่มเติมอะไรได้อีกหากไม่มีการแทรกแซงจากเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย”
เอสตราดาเผยว่า หากถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานละเมิดพระราชบัญญัติอำนาจเศรษฐกิจฉุกเฉินระหว่างประเทศ เขาอาจต้องเผชิญกับโทษจำคุกสูงสุด 20 ปี
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมกล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความวุ่นวายทางการเมืองภายในประเทศเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ซึ่งมีการประกาศกฎอัยการศึก
เรียบเรียงจาก CNN
———————————————————————————————————————————————————————————
ที่มา : PPTV / วันที่เผยแพร่ 4 ธ.ค.67
Link : https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/237988