ชายวัย 50 ชาวซาอุฯก่อคดีสะพรึงในเยอรมนี ขับรถเอสยูวีพุ่งเข้าไปในตลาดกลางเมืองมักเดบวร์ก ชนกวาดผู้คนที่เดินจับจ่ายใช้สอยเตรียมงานวันคริสต์มาสเป็นระยะทางยาวเกือบครึ่ง กม. จนมีผู้เสียชีวิต 5 ศพ 1 ในนั้นมีเด็กเล็กด้วย ส่วนผู้บาดเจ็บมีอย่างน้อย 205 ราย ในจำนวนนี้สาหัสถึง 41 คน ขณะที่ผู้ก่อเหตุถูกตำรวจจับเป็นโดยมีคลิปจับนาทีระทึกไว้ได้ เผยผู้ก่อเหตุมีอาชีพเป็นที่ปรึกษาด้านจิตเวชได้รับสถานะเป็นผู้ลี้ภัยในปี 59 ด้านสำนักข่าวหลายแห่งรายงานตรงกัน คนร้ายมีพฤติกรรมต่อต้านอิสลามโพสต์เนื้อหารุนแรงในโซเชียล แฉซาอุฯเคยเตือนเรื่องดังกล่าวไปยังรัฐบาลเยอรมนีให้ระวังเกี่ยวกับพฤติกรรมผู้ต้องหา แต่สุดท้ายเกิดเหตุจนได้
เหตุสะพรึงในช่วงก่อนเทศกาลคริสต์มาสไม่กี่วันครั้งนี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อเวลา 19.00 น. ของวันที่ 20 ธ.ค. ตามเวลาท้องถิ่น เกิดเหตุคนร้ายขับรถพุ่งชนผู้คนที่ใช้เวลาร่วมกับครอบครัวจับจ่ายในตลาดคริสต์มาส กลางเมืองมักเดบวร์ก ย่านดิโอลด์มาร์เก็ต ติดกับศาลากลางรัฐซัคเซิน-อันฮัลท์ ใกล้แม่น้ำเอลเบ ทางตะวันตกของกรุงเบอร์ลินของเยอรมนีราว 150 กิโลเมตร เหตุดังกล่าวส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 ศพ รวมเด็กเล็กและผู้ใหญ่ บาดเจ็บอย่างน้อย 205 ราย ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 41 ราย
หลังเกิดเหตุ สำนักข่าวท้องถิ่นเผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิดขณะเกิดเหตุ พบรถยนต์เอสยูวี ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยูสีเข้ม วิ่งตะบึงมาด้วยความเร็วสูงตรงเข้ามาที่ซอยหนึ่งในตลาดคริสต์มาส พุ่งชนฝูงชนที่กำลังเดินจับจ่ายใช้สอย ท่ามกลางบรรยากาศเทศกาลวันคริสต์มาสเป็นจำนวนมากเป็นระยะกว่า 400 เมตร ทำให้ประชาชนที่เคราะห์ร้ายถูกชนล้มลงกับพื้นตามความแรงของรถ มีบางคนสามารถวิ่งกระโดดหลบได้อย่างฉิวเฉียด ขณะที่บางส่วนรีบวิ่งหนีตายออกมาด้วยความหวาดกลัวท่ามกลางเสียงหวีดร้องจากผู้คนในบริเวณที่เกิดเหตุ ในเส้นทางที่รถวิ่งผ่านมีเลือดไหลนองบนพื้น เศษซากของข้าวของและกระจกที่ได้รับความเสียหายกระจัดกระจายเกลื่อนกลาด เป็นภาพสยดสยองไม่ต่างจากในภาพยนตร์
ขณะเดียวกัน สำนักข่าวเอ็มดีอาร์ของเยอรมนีเผยคลิปขณะตำรวจเข้าจับกุมชายต้องสงสัยใส่แว่น ไว้หนวดเคราที่ขับรถเอสยูวีบีเอ็มดับเบิลยูสีดำ พุ่งชนอยู่บนถนนสี่แยกในเมืองมักเดบวร์ก ไม่ไกลจากทางเข้าตลาดคริสต์มาส โดยตำรวจในคลิปได้ตะโกนบอกให้ชายคนดังกล่าวนอนราบลงไปที่พื้นและอย่าขยับ พร้อมถือปืนเล็งไปที่ชายคนดังกล่าวที่ก้มตัวหมอบลงกับพื้นข้างๆรถยนต์คันก่อเหตุ มีสภาพความเสียหายทั้งกระจกแตก และประตูบุบ
มีรายงานว่าจากการตรวจค้นภายในรถทราบในเวลาต่อมาว่าเป็นรถเช่า โดยพบกระเป๋าภายในเป็นวัตถุต้องสงสัยว่าเป็นระเบิด นอกจากนี้ยังได้เข้าตรวจค้นบ้านพักของชายดังกล่าวในเมืองเบิร์นบวร์ก ทางใต้ของเมืองมักเดบวร์ก เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม
ต่อมานายไรเนอร์ ฮาเซลอฟฟ์ ผู้ว่าการรัฐซัคเซิน-อันฮัลท์ เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุเป็นชายชาวซาอุดีอาระเบีย วัย 50 ปี มีอาชีพเป็นที่ปรึกษาด้านจิตเวชและจิตบำบัด อาศัยอยู่ที่เยอรมนีมาตั้งแต่ปี 2549 และได้รับสถานะเป็นผู้ลี้ภัยในปี 2559 เชื่อว่าก่อเหตุเพียงลำพัง โดยสื่อท้องถิ่นเยอรมนีระบุชื่อผู้ก่อเหตุคือนายทาเลบ อับดุลจาวัด
อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่ทราบแรงจูงใจในการก่อเหตุที่ชัดเจน และยังไม่มีข้อมูลว่าชายดังกล่าวเป็นกลุ่มอิสลามิสต์หรือผู้มีแนวคิดอิสลามแบบสุดโต่งหรือไม่ แต่มีรายงานว่าในโซเชียลมีเดียของชายคนนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์ศาสนาอิสลาม รวมถึงสำนักข่าวรอยเตอร์ยังรายงานอ้างแหล่งข่าวซาอุดีอาระเบียด้วยว่า รัฐบาลซาอุดีอาระเบียได้มีคำเตือนไปยังรัฐบาลเยอรมนีก่อนหน้านี้เกี่ยวกับผู้ก่อเหตุ เนื่องจากโพสต์ข้อความที่มีแนวคิดรุนแรงสุดโต่งในโซเชียลมีเดียเอ็กซ์ กล่าวอ้างถึงความอันตรายของการเผยแพร่ศาสนาอิสลามเข้ามาในเยอรมนี สอดคล้องกับรายงานของหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลของสหรัฐฯที่ระบุว่า ผู้ต้องสงสัยรายนี้เป็นนักเคลื่อนไหวต่อต้านอิสลาม มักแชร์เนื้อหาสนับสนุนอิสราเอลบนโซเชียลมีเดียหลังเหตุการณ์ที่กองกำลังติดอาวุธปาเลสไตน์ กลุ่มฮามาสบุกโจมตีทางใต้ของอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ปีที่แล้ว ทั้งยังเปิดเว็บไซต์และช่องทางโซเชียลมีเดียที่เตือนภัยเรื่องศาสนาอิสลามและประเด็นเกี่ยวกับสิทธิสตรี
นอกจากนี้ ตำรวจเยอรมนีได้ประกาศขอความร่วมมือให้ประชาชนส่งข้อมูลเบาะแสที่เกี่ยวข้องกับเหตุดังกล่าวมาให้ทางเว็บไซต์ของทางการ รวมถึงตรึงกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อรักษาความปลอดภัยในตลาดคริสต์มาสด้วยเช่นกัน แม้ว่าตลาดดังกล่าวจะปิดทำการ ไร้แสงสีและบรรยากาศของเทศกาลคริสต์มาสตั้งแต่เกิดเหตุรุนแรงที่สร้างความขวัญผวาให้แก่ประชาชน ขณะที่ทางการเมืองมักเดบวร์กได้จัดพิธีไว้อาลัยที่โบสถ์เซนต์จอห์น ใกล้จุดเกิดเหตุในเวลาประมาณ 19.00 น. ของวันที่ 21 ธ.ค. ตามเวลาท้องถิ่น มีประชาชนนำดอกไม้ รวมถึงจุดเทียนไว้อาลัยแก่เหยื่อมาวางไว้หน้าประตูโบสถ์จำนวนมาก
ด้านนายโอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนีแถลงผ่านโซเชียลมีเดียว่า เหตุที่เกิดขึ้นในเมืองมักเดบวร์ก สร้างความหวาดกลัวให้แก่ผู้คนอย่างมาก ขอยืนเคียงข้างชาวมักเดบวร์กทุกคน รวมถึงขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างสุดความสามารถ ทั้งนี้ นายโชลซ์ยังได้เดินทางไปยังเมืองดังกล่าวพร้อมกับ น.ส.แนนซี เฟเซอร์ รมว.กลาโหมเยอรมนีในวันที่ 21 ธ.ค. ขณะที่กระทรวงต่างประเทศของซาอุดีอาระเบียแถลงประณามการก่อเหตุรุนแรงจนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บอีกจำนวนมากในเมืองมักเดบวร์กของเยอรมนี และขอเป็นกำลังใจให้เยอรมนี พร้อมแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวเหยื่อ และขอให้ผู้ได้รับบาดเจ็บสามารถฟื้นตัวได้โดยเร็ว รวมถึงย้ำจุดยืนว่าซาอุดีอาระเบียไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรง
เยอรมนีเคยเผชิญกับเหตุสลดในลักษณะเดียวกันมาก่อนแล้วเมื่อ 19 ธ.ค.2559 โดยชายชาวตูนีเซียรายหนึ่ง ขับรถบรรทุกพุ่งชนตลาดคริสต์มาสในกรุงเบอร์ลิน จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตถึง 13 ศพ และบาดเจ็บมากกว่า 70 ราย ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะหนีไปยังประเทศอิตาลี และถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรมในเวลาต่อมา
——————————————————————————————————————
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 22 ธ.ค.67
Link : https://www.thairath.co.th/news/foreign/2832305