วัยรุ่นรายหนึ่งเปิดฉากยิงที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในรัฐวิสคอนซิน สหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ (9 ธ.ค.) ปลิดชีพเพื่อนนักเรียน 1 ราย ครูอีกคน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 6 ราย ก่อนตำรวจพบผู้ต้องสงสัยเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ท่ามกลางรายงานข่าวของสื่อมวลชนที่ระบุว่าผู้ก่อเหตุลั่นไกลปลิดชีพตนเอง
เหตุยิงกันล่าสุดที่นำพาความโศกเศร้ามาสู่ชุมชนหนึ่งในสหรัฐฯ เกิดขึ้นที่โรงเรียน Abundant Life Christian สถาบันการศึกษาเอกชนที่มีนักเรียนราว 400 คน ตั้งแต่อนุบาลไปจนถึงเกรด 12 ตั้งอยู่ในเมืองแมดิสัน เมืองเอกของรัฐวิสคอนซิน ที่มีประชากรราว 270,000 คน
ฌอน บาร์นส์ ผู้บัญชาการตำรวจแมดิสัน กล่าวระหว่างแถลงข่าวว่าในบรรดาผู้ได้รับบาดเจ็บนั้น มีนักเรียน 2 คนที่มีอาการร้ายแรงเสี่ยงต่อการเสียชีวิต ส่วนที่เหลือซึ่งแบ่งเป็นครู 1 คน และนักเรียน 3 คน ได้รับบาดเจ็บไม่รุนแรงมากนัก ในนั้น 2 ราย ได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว
มือปืนซึ่งเป็นเด็กนักเรียนของโรงเรียนและใช้ปืนสั้นในการก่อเหตุ ถูกพบเสียชีวิตภายในโรงเรียน โดยพวกเจ้าหน้าที่ที่รุดเข้าไปยังสถาบันการศึกษาแห่งนี้ทันทีที่ไปถึง จากการเปิดเผยของตำรวจ อย่างไรก็ตามพวกเจ้าหน้าที่ปฏิเสธเปิดเผยชื่อ อายุหรือเพศของมือปืน หรือตัวตนของเหยื่อ
กระนั้นสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นและสำนักข่าวเอพี อ้างแหล่งข่าวตำรวจซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม รายงานว่า มือปืนเป็นเด็กผู้หญิงอายุ 17 ปี ซึ่งลั่นไกลปลิดชีพตนเองหลังก่อเหตุ ในขณะที่รอยเตอร์ไม่ยืนยันรายงานข่าวนี้
ถ้าข่าวนี้ได้รับการยืนยัน มันจะถือเป็นเหตุการณ์ที่หาได้ยากมากๆ โดยจากผลการศึกษาต่างๆ ที่ผ่านมาพบว่า ในบรรดาเหตุกราดยิงหมู่ทั้งหลายนั้น มีเพียงแค่ 3% ที่ลงมือโดยผู้หญิง
ตำรวจระบุว่ายังไม่ทราบแรงจูงใจของคนร้าย และทางครอบครัวของมือปืนกำลังให้ความร่วมมือกับการสืบสวน “วันนี้เป็นวันที่น่าเศร้า ไม่ใช่แค่กับชาวแมดิสัน แต่สำหรับประเทศของเราทั้งมวล ประเทศที่ผู้บัญชาการตำรวจอีกคนแล้วที่ต้องออกมาแถลงข่าว พูดเกี่ยวกับความรุนแรงในชุมชนของเรา” บาร์นส์กล่าว “เด็กทุกคน ทุกๆ คนที่อยู่อาคารดังกล่าวล้วนเป็นเหยื่อ และจะเป็นเหยื่อไปตลอดกาล รูปแบบของบาดแผลนี้จะไม่มีวันเลือนหายไป”
อ้างอิงเว็บไซต์ฐานข้อมูล K-12 School Shooting Database พบว่า ในปีนี้มีเหตุยิงกันในโรงเรียนต่างๆ ในสหรัฐฯ แล้ว 322 กรณี ถือว่าสูงสุดเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่ปี 1996 เป็นรองเพียงปีที่แล้ว ที่มีเหตุยิงกันในโรงเรียนรวมทั้งสิ้น 346 กรณี
ในเหตุการณ์ล่าสุด พวกเจ้าหน้าที่เผยว่ามือปืนเดินทางมาถึงโรงเรียนตรงเวลา และชักปืนสั้นออกมาหลังจากการเรียนการสอนผ่านไปแล้วราว 3 ชั่วโมง “ครั้งที่เสียงปืนดังขึ้น พวกนักเรียนพากันขังตัวเองอยู่ภายในห้อง และดูแลตัวเองกันอย่างยอดเยี่ยม” บาร์บารน ไวเออร์ส ผู้อำนวยการฝ่ายประถมศึกษาและความสัมพันธ์ในโรงเรียนเผย
ไวเออร์ส บอกว่าพวกนักเรียนปฏิบัติตามในสิ่งที่ควรทำในกรณีที่มีเหตุยิงกัน และตามปกติมักได้รับแจ้งว่า “มันเป็นการซักซ้อม” แต่คราวนี้ “ชัดเจนว่าพวกเขากลัวมาก ตอนที่ได้ยินเสียงให้ล็อกดาวน์ ล็อกดาวน์ พวกเขาไม่รู้อะไรอย่างอื่นเลย นอกเหนือจากว่ามันเป็นเหตุการณ์ยิงกันจริงๆ”
ในเวลาต่อมาพวกนักเรียนถูกพาตัวออกจากโรงเรียนไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง บริเวณที่พวกเขาได้พบปะกับพ่อแม่ผู้ปกครอง ที่เดินทางมารอรับด้วยความวิตกกังวล
การควบคุมอาวุธปืนและความปลอดภัยในโรงเรียน กลายเป็นประเด็นหลักทั้งทางการเมืองและสังคมในสหรัฐฯ ดินแดนที่เหตุยิงกันในโรงเรียนพุ่งสูงขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ท่ามกลางความรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืนกำลังระบาดอย่างหนักในโรงเรียนรัฐและโรงเรียนเอกชน ทั้งในตัวเมือง แถบชานเมือง หรือกระทั่งตามชุมชนชนบท
เหตุยิงกันในวิสคอนซินครั้งนี้เกิดขึ้นราว 12 ปีกับ 2 วัน ตามหลังเหตุกราดยิงในโรงเรียนอันโด่งดังในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ นั่นคือเหตุสังหารหมู่ในโรงเรียนประถมแซนดี ฮุค ในเมืองนิวทาวน์ รัฐเคอนเนคทิคัต โดยมือปืนอายุ 20 ปีรายหนึ่งใช้ปืนไรเฟิลอัตโนมัติกราดยิงปลิดชีพเด็กนักเรียน 20 คน และผู้ใหญ่ 6 คน ที่ทำงานในโรงเรียนดังกล่าว
(ที่มา : รอยเตอร์)
—————————————————————————————————–
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 17 ธ.ค.67
Link : https://m.mgronline.com/around/detail/9670000120839