ขาดการติดต่อ พิกัดสุดท้ายชายแดนไทย-เมียนมา พลันกระแสข่าวการหายตัวไปของนายหวัง ซิง หรือซิงซิง นักแสดงหนุ่มชาวจีน ที่แฟนสาวโพสต์ผ่านบัญชี “เว่ยป๋อ” ขอความช่วยเหลือดังข้ามแดน หลังเดินทางมาแคสงานแสดงในประเทศไทยแล้วหายตัว จุดกระแสคำถามถึง“ความปลอดภัย”ระดับประเทศ
แม้เรื่องราวจะจบลงด้วยดี เพราะสามารถติดตามพบตัว แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ทิ้งหลายข้อสงสัยน่าขบคิด โดยเฉพาะความเป็นไปได้ที่จะเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ ไปจนถึงความเชื่อมโยงอาชญากรรมทุนสีเทา อย่างคาสิโน หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ย้อนรอยจากวันเดินทาง จวบจนสูญหาย ก่อนตามพบตัว เริ่มจากปลายปี 67 ซิงซิงได้รับการชักชวนผ่านกลุ่มนักแสดงใน WeChat ให้มาออดิชั่นในประเทศไทย มีการอ้างชื่อบริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่อย่าง GMM Grammy ซิงซิงส่งวีดิโอ “ออดิชัน” ทางไลน์ก่อนรับแจ้งว่าผ่านอย่างรวดเร็ว
แม้จากนั้นจะมีข้อสงสัยเรื่องที่ถ่ายทำและปฏิเสธการเดินทาง แต่อีกฝั่งโน้มน้าวไม่อยากให้เสียโอกาสใหญ่ ซิงซิงจึงตัดสินใจเดินทาง
เส้นทางเข้าประเทศไทยเป็นไปตามปกติ มีการบินตรงจากสนามบินเซียงไฮ้ ผู่ตง เมื่อเวลา 10.00 น.ของวันที่ 2 ม.ค.68 หรือตรงกับเวลา 21.00 น.ตามเวลาประเทศไทย ปลายทางสนามบินสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ
ซิงซิงเดินทางมาถึงเวลาประมาณ 03.00 น.ของวันที่ 3 ม.ค. ก่อนเช้าวันเดียวกันกล้องวงจรปิดจับภาพมีรถเก๋งขับพาซิงซิงออกไป ผ่านจังหวัดชัยนาท ผ่านด่านห้วยยะอุ อ.ด่านแม่ละเมา , อ.แม่สอด จ.ตาก กระทั่งเวลา 11.00 น. เจียเจียซึ่งเป็นแฟนสาวไม่สามารถติดต่อซิงซิงได้ ทั้งที่ตลอดการเดินทางมีการสื่อสารกันตลอดเวลา
วันที่ 5 ม.ค. จึงนำมาสู่การโพสต์แจ้งข่าวซิงซิงหายตัว เพื่อขอความช่วยเหลือ ต่อมาวันที่ 6 ม.ค. เกิดกระแสความสนใจในวงกว้าง ตำรวจมีการติดตามตัวผู้ที่ขับรถพาซิงซิงออกจากสนามบิน พบมีการว่าจ้างให้มารับไปส่งปลายทางแม่สอด ก่อนมีรถกระบะอีกคันรับออกไปส่งช่องทางธรรมชาติ ต่อมาทราบว่าเป็นรถที่ถูกว่าจ้างจากคนในฝั่งเมียวดี ของเมียนมา และมีคนมารับพานั่งเรือข้ามแม่น้ำเมยเข้าฝั่งเมียนมาไปยังเขตเศรษฐกิจพิเศษ ค่ำวันที่ 6 ม.ค. มีกระแสข่าวพบตัวซิงซิงแล้วที่เมียนมาแต่ยังไม่มีการยืนยันชัดเจน
จวบจนรุ่งขึ้นวันที่ 7 ม.ค. ยืนยันพบตัว พร้อมปรากฎภาพถ่ายถูกโกนผม ใบหน้าอิดโรย แต่อยู่ในสภาพปลอดภัยโดยการควบคุมของกองกำลังพิทักษ์ชายแดนกะเหรี่ยง (BGF) อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นการเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย แต่สุดท้ายมีการประสานงานร่วมกันของสองฝ่าย จนสามารถเข้าไปรับตัวซิงซิงข้ามกลับมาฝั่งประเทศไทย มีการสอบถามข้อมูลเบื้องต้น และนำตัวเข้ากทม. เพื่อเข้าสู่กระบวนการคัดกรองที่ศูนย์คัดแยกและส่งต่อผู้เสียหายระดับชาติ (Thailand Victim Identification & Referal Center)
เพราะหนึ่งในข้อสงสัยคือตกเป็นเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์หรือไม่???
ผลการคัดกรองชัดเจนว่า ซิงซิงเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ แม้สมัครใจเดินทางมาประเทศไทยแต่เพราะถูกหลอกว่ามีงานแสดง ทำให้การเดินทางเข้ามามีการผ่านด่านตรวจต่างๆปกติ ไม่มีท่าทีถูกบังคับ กระทั่งข้ามฝั่งออกไปเมียนมา เจ้าตัวจึงพบว่าถูกหลอกไปทำงานอื่น แต่ไม่กล้าขัดขืน
การหายตัวไปของซิงซิง ไม่เพียงสร้างความสนใจในฐานะคนมีชื่อเสียง แต่สะท้อนถึงสภาพปัญหาขบวนการอาชญากรรมที่ใช้ไทยเป็นช่องทางผ่าน
ซิงซิงไม่ใช่ทั้งเหยื่อรายแรกและรายสุดท้าย แต่เป็นเพียง “ยอดภูเขาน้ำแข็ง” ที่โผล่ออกมา และเรียกความสนใจได้ ถือเป็น “โอกาส” ใน “วิกฤติ” เพราะทันทีที่เรื่องราวเส้นทางของซิงซิงถูกเปิดเผย ปรากฎว่ามีข้อมูลรายอื่นๆที่เคยมีประสบการณ์ชักชวนลักษณะเดียวกันเปิดเผยออกมาต่อเนื่อง
เรื่องราวของซิงซิงอาจไม่เรียกว่าความสำเร็จได้เต็มปาก เพราะหากมองให้ลึกถึงปัญหาเหยื่อค้ามนุษย์ ความช่วยเหลือที่ยังไม่เกิดขึ้น หรือไปไม่ถึงยังมีอีกมากและไม่ควรเงียบหาย หลังซิงซิงเดินทางกลับประเทศอย่างปลอดภัยเพียงคนเดียว.
ทีมข่าวอาชญากรรม รายงาน
crimedn@dailynews.co.th
——————————————————————————————————————————-
ที่มา : เดลินิวส์ / วันที่เผยแพร่ 11 ม.ค.68
Link : https://www.dailynews.co.th/articles/4274702/