กรมควบคุมโรคแจงข่าวลือวัคซีน HPV เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ยันมีมาตรฐาน-ปลอดภัย
กรณีมีการเผยแพร่ข้อมูลบนสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับวัคซีน HPV ป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก เป็นอันตรายต่อสุขภาพ มีการฟ้องร้องเรื่องการไม่เปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับอันตรายจากการฉีดวัคซีน และอาจถูกเพิกถอนในสหรัฐอเมริกานั้น
วันนี้ (31 มกราคม 2568) นพ.ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า กรมควบคุมโรค ได้ตรวจสอบข้อมูล พร้อมทั้งประสานงานกับ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และองค์การอาหารและยาสหรัฐ (U.S. FDA) พบว่า ปัจจุบันยังไม่มีการเพิกถอนทะเบียนวัคซีน HPV แต่อย่างใด
นพ.ภาณุมาศ กล่าวว่า องค์การอนามัยโลก, ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐอเมริกา (US CDC) และอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคของประเทศไทย ยังคงแนะนำให้มีการฉีดวัคซีน HPV อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการติดเชื้อ HPV และลดความเสี่ยงของมะเร็งปากมดลูก โดยอ้างอิงผลงานวิจัยและการศึกษาทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับวัคซีนโดยคณะผู้เชี่ยวชาญจากหลายๆสาขา และหลายประเทศขององค์การอนามัยโลก (Strategic Advisory Group of Expert on Immunization: SAGE) ระบุว่า วัคซีนนี้มีความปลอดภัย
“ข้อมูลจากการฉีดกว่า 500 ล้านโดส ตั้งแต่ปี 2549 พบรายงานผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นมักเป็นอาการที่ไม่ร้ายแรง เช่น ปวดบริเวณที่ฉีด บางส่วนมีไข้ มีรายงานอาการแพ้รุนแรงแต่เกิดขึ้นน้อยมากๆ ส่วนอาการทางระบบประสาท เช่น ภาวะการอักเสบของเส้นประสาท (Guillain Barre Syndrome หรือ Bell palsy) ข้อมูลจากการศึกษาพบว่า วัคซีนไม่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะดังกล่าว” นพ.ภาณุมาศ กล่าว
อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในประเทศไทยมีระบบเฝ้าระวังอาการภายหลังได้รับวัคซีน (AEFI) โดยกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ร่วมกับโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชน อย. รวมถึงเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งข้อมูลปัจจุบัน ไม่พบความผิดปกติที่เป็นเหตุให้ต้องระงับหรือเพิกถอนวัคซีน นอกจากนี้ อย.ยังคงดำเนินการติดตามความปลอดภัยของวัคซีนอย่างใกล้ชิด และขณะนี้ ยังไม่มีรายงานการเรียกคืนวัคซีนดังกล่าว ขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสาร และติดตามข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น เว็บไซต์ของ อย., สธ. หรือ องค์การอนามัยโลก เพื่อป้องกันความเข้าใจผิด ที่อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในวัคซีนและมาตรการสาธารณสุข หากมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422
วันเดียวกัน สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ออกเอกสารชี้แจงเกี่ยวกับข้อกังวลของข้อมูลที่มีการเผยแพร่
ในประเด็นการฟ้องร้องเรื่องความปลอดภัยของการใช้วัคซีน HPV ระบุว่า สืบเนื่องจากกรณีการฟ้องร้องบริษัทผู้ผลิตวัคชีน HPV ในต่างประเทศ เกี่ยวกับประเด็นความปลอดภัยของการใช้วัคซีน HPV ซึ่งมีการเผยแพรในสื่อสังคมออนไลน์ และได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างมากนั้น สถาบันวัคซีนฯ ยืนยันว่า ความปลอดภัยและประสิทธิผลของการใช้วัคซีน HPV เป็นสิ่งที่ได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มงวดจากองค์การอนามัยโลก และหน่วยงานควบคุมกำกับคุณภาพยาและวัคซีนในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วยเช่นกัน ซึ่งวัคซีน HPV ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า สามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัส HPV ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของมะเร็งปากมดลูกได้อย่างมีประสิทธิผล และมีการใช้วัคซีนอย่างแพร่หลายทั่วโลกมานานกว่าทศวรรษ โดยข้อมูลทางวิชาการชี้ว่า ประโยชน์ของการได้รับวัคซีนมีมากกว่าความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
อย่างไรก็ตาม สถาบันวัคซีนฯ ตระหนักถึงข้อกังวลของประชาชน ต่อรายงานกรณีอาการไม่พึง
ประสงค์จากวัคซีน HPV ตามข่าวที่มีการเผยแพร่ และขอยืนยันว่า หน่วยงานด้านสาธารณสุขของไทยมี
ระบบเฝ้าระวังความปลอดภัยของวัคซีนอย่างเข้มงวด ซึ่งหากมีข้อมูลด้านความปลอดภัยเพิ่มเติมที่ส่งผล
ต่อแนวทางการใช้วัคซีน สถาบันวัคซีนฯ จะเร่งดำเนินการตรวจสอบและแจ้งข้อมูลแก่ประชาชนโดยเร็วที่สุด
ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า นโยบายการใช้วัคซีนของประเทศไทยตั้งอยู่บนพื้นฐานของหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ ซึ่งหากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม ขอให้รับข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ เช่น สธ. องค์การอนามัยโลก แพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้อง รวมถึงแพลตฟอร์มการตรวจสอบข้อเท็จจจริงของข้อมูลข่าวสารของประเทศ เช่น ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ชัวร์ก่อนแชร์ เป็นต้น นอกจากนี้ สถาบันวัคซีนฯ เป็นหน่วยงานหนึ่งที่ท่านสามารถตรวจสอบข้อสงสัย หรือข้อกังวลของการใช้วัคซีนได้เช่นกัน
ทั้งนี้ สถาบันวัคซีนฯ และหน่วยงานด้านสาธารณสุขของประเทศ ยังคงมุ่งมั่นที่จะปกป้องสุขภาพของประชาชน และขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับวัคซีน เพื่อให้ประชาชนไม่พลาดโอกาสในการปกป้องตนเอง รวมถึงบุคคลที่ท่านรัก จากโรคที่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีนได้ต่อไป
——————————————————————————————————————–
ที่มา : มติชน / วันที่เผยแพร่ 31 ม.ค. 68
Link : https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_5026541?utm_source=msn_news&utm_medium=footer_click