คึกคัก! สหรัฐฯ ส่งเนชันแนลการ์ด 8 พันคนอารักขา”ทรัมป์” ในพิธีสาบานตน ผู้นำต่างชาติตบเท้าเป็นสักขีพยานแต่ไร้เงา EU-อังกฤษ-ฝรั่งเศส-เยอรมนี

เอเจนซีส์/เอพี – สหรัฐฯ มีรายงานส่งทหารเนชันแนลการ์ดรวม 8,000 นายติดอาร์มแขนพิเศษ “always ready, always there” เพื่อปกป้องพิธีสาบานตนประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.วันจันทร์ (20 ม.ค.) สื่อสหรัฐฯ ชี้ ทรัมป์ทำลายประเพณีการเมืองสหรัฐฯ เชิญผู้นำต่างชาติร่วมพิธี พบรายชื่อแขกผู้นำเป็นนักการเมืองประชานิยมขวาจัดส่วนใหญ่มาจากแดนละตินอเมริกา ไร้เงามหาอำนาจตะวันตกโปรเสรีภาพและประชาธิปไตยทั้ง EU อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี แคนาดา

ยูโรนิวส์รายงานวันอาทิตย์ (19 ม.ค.) ว่า การรักษาความปลอดภัยพิธีสาบานตนผู้นำอเมริกันคนใหม่เป็นไปอย่างเข้มงวด มีรายงานการส่งทหารเนชันแนลการ์ด 8,000 นายเข้าร่วมจาก 40 รัฐมายังกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.

ทั้งนี้พบว่ากองกำลังเนชันแนลการ์ดจากรัฐคอนเนกติกัต รัฐเวอร์จิเนีย และรัฐเพนซิลเวเนีย เพื่อตั้งอารักขาความปลอดภัยโดยรอบหอศิลป์แห่งชาติกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.เมื่อวันเสาร์ (18) ก่อนหน้าวันจริง

ทหารเนชันแนลการ์ดนอกจากจะประจำจุดปลอดภัยแล้ว ยังรวมไปถึงการควบคุมการจราจรและการเดินลาดตระเวนสถานีรถไฟใต้ดินเมโทรต่างๆ

เอพีรายงานว่า สิ่งที่พิเศษคือทหารเนชันแนลการ์ดสหรัฐฯ จะสวมอาร์มแขนพิเศษโดยคำขวัญว่า “พร้อมเสมอ อยู่ที่นั่นเสมอ” (always ready, always there) เพื่อเป็นการบ่งบอกให้รู้ว่ามีความแตกต่างของทหารเนชันแนลการ์ดจากตำรวจ

ทั้งนี้ เมื่อต้นวันเสาร์ (18) มีผู้ประท้วงหลายพันคนเดินลงถนนประท้วงเพื่อสิทธิสตรีและความอยุติธรรมทางเชื้อชาติ และภัยคุกคามอื่นๆ ที่มาจากรัฐบาลทรัมป์ 2.0

แต่ทว่าการประท้วงรอบนี้เล็กกว่าพิธีสาบานตนทรัมป์เมื่อปี 2017 จากการที่ฝ่ายพรรคเดโมแครตแพ้การเลือกตั้งเมื่อพฤศจิกายนปีที่แล้วอย่างถล่มทลาย

ยูโรนิวส์รายงานว่า ตามปกติพิธีสาบานตนจะจัดขึ้นที่บันไดของรัฐสภาสหรัฐฯ เดอะแคปิตอล (the Capitol) แต่ทว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงในนาทีสุดท้ายให้ย้ายพิธีเข้าไปด้านในสำหรับปีนี้เนื่องมาจากสภาพอากาศหนาวจัดในสหรัฐฯ

โพลิติโกของสหรัฐฯ รายงานว่า มีการเชื้อเชิญผู้นำต่างชาติเข้าร่วม สื่อการเมืองชื่อดังสหรัฐฯ ชี้ว่า เป็นที่น่าสังเกตว่ารายชื่อแขกผู้นำของทรัมป์ล้วนเต็มไปด้วยกลุ่มนักการเมืองประชานิยมขวาจัดไร้เงาจากแดนละตินอเมริกา ไร้เงามหาอำนาจ ตะวันตกทั้ง EU อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี แคนาดา ซึ่งหนังสือพิมพ์ยูเอสเอทูเดย์ก่อนหน้าเมื่อวันที่ 9 ม.ค.ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่า ทรัมป์เป็นนักการเมืองอเมริกันแต่กลับทำลายขนบธรรมเนียมการเมืองอเมริกันชนด้วยการออกเทียบผู้นำต่างชาติเข้าร่วม

อัลญะซีเราะห์ของกาตาร์รายงานวันอาทิตย์ (19) ว่า รายชื่อผู้นำได้แก่

(1) ประธานาธิบดีอาร์เจนตินา ฆาบิเอร์ มิเลย์ ที่ชื่นชอบในตัวทรัมป์ได้ยืนยันการเข้าร่วม

(2) ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ได้รับเชิญแต่ไม่ได้เดินทางเข้าร่วม อย่างไรก็ตาม.ได้ส่งรองประธานาธิบดีจีน หาน เจิ้ง (Han Zheng) มาเข้าร่วมแทน

(3) นายกรัฐมนตรีอิตาลี จอร์เจีย เมโลนี ซึ่งก่อนหน้าได้เดินทางมาพบทรัมป์ถึงคฤหาสน์มาราลาโก (Mar-a-Lago) ที่เมืองปาล์มบีช รัฐฟลอริดา ทำเนียบนายกฯ อิตาลีแถลงว่า คาดว่าเมโลนีน่าจะสามารถเข้าร่วมพิธีได้หากไม่มีหมายอื่นมาขั้น

(4) นายกรัฐมนตรีฮังการี วิคเตอร์ ออร์แบนใกล้ชิดทรัมป์และเชื่อว่าทรัมป์จะเป็นคนทำให้สงครามยูเครนยุติ แต่ออร์แบนติดภารกิจต้องแถลงเป็นทางการต่อฮังการีไม่สามารถเดินทางมาเข้าร่วมได้

(5) นายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทรา โมดี ได้รับเชิญแต่ส่งรัฐมนตรีต่างประเทศอินเดีย สุพรหมณยัม ชัยศังกระ (Subrahmanyam Jaishankar) เข้าร่วมพิธีสำคัญนี้แทน

(6) ประธานาธิบดีเอกวาดอร์ ดาเนียล โนบัว (Daniel Noboa) ทำเนียบประธานาธิบดีเอกวาดอร์ยืนยันว่า โนบัวจะหยุดการหาเสียงไว้ชั่วคราวเพื่อเดินทางเข้าร่วมที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.

(7) ประธานาธิบดีเอลซัลวาดอร์ นายิบ บูเคเล (Nayib Bukele) ยังไม่ยืนยันการเข้าร่วม อย่างไรก็ตาม บูเคเลเป็นเพื่อนของบุตรชายทรัมป์ ดอน จูเนียร์ ที่บินเข้าเกาะกรีนแลนด์ก่อนหน้า พบว่าในปี 2024 ดอน จูเนียร์เข้าร่วมพิธีสาบานตนของเขาที่กรุงซานซัลวาดอร์

(8) อดีตประธานาธิบดีบราซิล ฌาอีร์ โบลโซนารู ฉายาทรัมป์แห่งโซนทรอปิกได้รับเชิญเช่นกัน แต่ทว่า เขาโดนสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศหลังการสอบสวนและหนังสือเดินทางโดนยึดไม่สามารถเดินทางมาร่วมเป็นสักขีพยานได้

(9) อดีตนายกรัฐมนตรีโปแลนด์ มาเตอุสซ์ โมราเวียค (Mateusz Morawieck) ล่าสุดกลายเป็นผู้นำสายการเมืองปีกขวายุโรปและพรรครีฟอร์มิสต์ในรัฐสภายุโรปจะเดินทางเข้าร่วม

อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้นำชาติมหาอำนาจพันธมิตรของสหรัฐฯ ทั้งอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และสหภาพยุโรปกลับพบว่าไม่ได้รับเชิญเข้าร่วม