งานศพของอดีตประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์ถือเป็นเป้าหมายที่น่าสนใจ “สำหรับกลุ่มหัวรุนแรงที่จะโจมตี” โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเหตุการณ์รถยนต์พุ่งชนที่นิวออร์ลีนส์จนมีผู้เสียชีวิต 14 ราย แม้ว่าจะไม่มีรายงานภัยคุกคามใดๆ ในงานศพก็ตาม จากเอกสารการประเมินความปลอดภัยใหม่ที่ ABC News ได้รับมา
เอกสารดังกล่าวระบุว่า แบบรัฐพิธีถือเป็นงานที่ไม่มีการแจ้งล่วงหน้า ซึ่งทำให้ระยะเวลาในการวางแผนสำหรับบุคคลที่มีแนวโน้มจะเป็นปฏิปักษ์ลดน้อยลงอย่างมาก อย่างไรก็ตาม แบบรัฐพิธียังคงเป็นเป้าหมายที่น่าสนใจ เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐ บุคคลสำคัญจากต่างประเทศ และหัวหน้าหน่วยงานของรัฐเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก รวมถึงสถานที่จัดงานที่เป็นสัญลักษณ์ ซึ่งคาดว่าอาจมีสื่อมวลชนเข้าร่วมการรายงานข่าวเป็นจำนวนมาก
นายคาร์เตอร์ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 29 ธันวาคมขณะมีอายุได้ 100 ปี จะได้รับเกียรติให้มีการจัดพิธีศพแบบรัฐพิธีที่อาสนวิหารแห่งชาติวอชิงตันในวันพฤหัสบดีประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะกล่าวคำไว้อาลัย และคาดว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้าร่วมพิธีด้วย
พิธีรำลึกถึงนายคาร์เตอร์จะเริ่มในวันเสาร์นี้ เมื่อเขาถูกย้ายจากบ้านเกิดของเขาที่เมืองเพลนส์ รัฐจอร์เจียไปยังแอตแลนตา โดยพิธีจะจัดขึ้นที่ศูนย์ประธานาธิบดีคาร์เตอร์ในเมืองแอตแลนตาในบ่ายวันเสาร์ ร่างของคาร์เตอร์จะถูกย้ายไปยังกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในวันอังคาร จากนั้น ร่างของเขาจะถูกนำไปตั้งไว้ที่รัฐสภาตั้งแต่วันอังคารถึงวันพฤหัสบดี หลังจากพิธีที่อาสนวิหารแห่งชาติวอชิงตันแล้ว ร่างของคาร์เตอร์จะถูกส่งกลับไปที่เมืองเพลนส์ รัฐจอร์เจีย
การประเมินดังกล่าวยังระบุถึงเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยอื่นๆ ที่ได้รับการกำหนดเป็นพิเศษในเดือนนี้ด้วย รวมถึงการรับรองคณะผู้เลือกตั้งในวันที่ 6 มกราคม และการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์ในวันที่ 20 มกราคม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมกันนี้ “อาจเพิ่มการรับรู้ถึงสภาพแวดล้อมที่มีเป้าหมายมากมายสำหรับผู้ก่อภัยคุกคามหลากหลาย” เอกสารดังกล่าวระบุ
“นอกจากนี้ เป้าหมายอาจรวมถึงกิจกรรมพิเศษและพิธีที่เกี่ยวข้องกับงานศพแบบรัฐพิธีและกิจกรรมที่ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่ 1 ที่เกี่ยวข้องกับพิธีเหล่านี้” การประเมิน ระบุว่า “แม้จะไม่มีข้อบ่งชี้ว่า ความเชื่อมโยงกันของทั้งสองเหตุการณ์นี้จะนำไปสู่ภาพรวมของภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้น แต่ประชาชนจำนวนมากที่อาจเข้าร่วมในทั้งสองเหตุการณ์อาจเป็นเป้าหมายที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการก่อภัยคุกคาม”
เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายกล่าวว่า ไม่มีภัยคุกคามที่ทราบแน่ชัดต่อกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. แต่เมืองนี้จะยังคงเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่มีภัยคุกคามรุนแรงตลอดทั้งเดือน
กองกำลังป้องกันประเทศของกรุงวอชิงตันดีซี ระบุว่า หน่วยได้เริ่มปฏิบัติการแล้วและหน่วยข่าวกรองระบุว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงานภาคสนามทั่วประเทศเพื่อเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ ตำรวจนครบาลของกรุงวอชิงตันดีซี ได้เริ่มปฏิบัติการเต็มรูปแบบแล้วเช่นเดียวกัน และจะมีเจ้าหน้าที่เพิ่มขึ้น จำนวนประมาณ 4,000 นาย จากทั่วประเทศเพื่อช่วยเหลือในการปฏิบัติหน้าที่ตำรวจสำหรับเหตุการณ์พิเศษ
โฆษกทำเนียบขาว คารีน ฌอง-ปิแอร์ กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (United States Department of Homeland Security) และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของรัฐบาลกลางได้เตรียมการมาเป็นระยะเวลาหลายเดือน เพื่อรับประกันความปลอดภัยของการจัดงานและความปลอดภัยของผู้เข้าร่วมงาน โดยมีมาตรการที่กำหนดไว้อย่างชัดเจน
เอกสารดังกล่าวยังกล่าวถึงการโจมตีในช่วงปีใหม่ที่เมืองนิวออร์ลีนส์ โดยระบุว่า “การใช้การพุ่งชนโดยรถยนต์เพียงอย่างเดียวหรือร่วมกับวิธีการอื่นๆได้กลายเป็นวิธีการที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ซึ่งผู้ก่ออาชญากรรมคุกคามในพื้นที่ฝั่งตะวันตกนิยมใช้”
เอกสารดังกล่าวยังระบุเพิ่มเติมอีกว่า “ประชาชนจำนวนมากที่รวมตัวกันในสถานที่สาธารณะ สามารถเข้าไปเพื่อสังเกตการณ์หรือเข้าร่วมงานศพแบบรัฐพิธีอาจกลายเป็นเป้าหมายของการโจมตีด้วยรถยนต์”ใกล้เคียงกับการมีผู้เสียชีวิต 14 รายและได้รับบาดเจ็บอีกหลายสิบรายเมื่อชายคนหนึ่งขับรถบรรทุกพุ่งเข้าใส่ประชาชนบนถนนบูร์บงในช่วงเช้าของวันปีใหม่นั้น ผู้ต้องสงสัยที่เสียชีวิตจากการโจมตีครั้งนี้ได้โพสต์วิดีโอหลายรายการผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ “ประกาศสนับสนุนไอเอส” รวมถึงระบุว่าตนจะเข้าร่วมกับกลุ่มไอเอสก่อนฤดูร้อนนี้ตามรายงานของสำนักงานสอบสวนกลาง (Federal Bureau of Investigation : FBI)
———————————————————————————————————————————-
ที่มา : abcnews / วันที่เผยแพร่ 4 ม.ค.68
Link : https://abcnews.go.com/US/jimmy-carters-funeral-attractive-target-violent-extremists-attack/story?id=117302145