นักกิจกรรมด้านความเป็นส่วนตัวเตือนคนที่อพยพจาก TikTok ที่ถูกทางการสหรัฐฯ สั่งแบน หันไปใช้ RedNote ว่าให้ระวัง RedNote ในเรื่องการถูกสอดแนม โดยมีคนหันไปใช้แอพ RedNote เพิ่มขึ้นมากกว่า 700,000 บัญชี อย่างไรก็ตาม TikTok ยังคงกลับมาใช้งานได้ในสหรัฐฯ หลังจากที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศยกเลิกการแบนชั่วคราว
ก่อนหน้านี้หลังจากที่คำสั่งแบน TikTok ในสหรัฐฯ มีผลบังคับใช้ ทำให้ร้านค้าแอพฯ ถอด TikTok ออกจากร้านค้าตัวเอง และทำให้ผู้ใช้งานในสหรัฐฯ เข้าแอพฯ TikTok ไม่ได้เป็นเวลา 14 ชั่วโมง แต่หลังจากนั้น TikTok ก็กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง หลังจากที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนใหม่ประกาศว่าจะยกเลิกคำสั่งแบนและหาทางยับยั้งกฎหมายแบน TikTok ในสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม อนาคตของ TikTok ในสหรัฐฯ ยังคงคลุมเครือและเต็มไปด้วยคำถามทั้งทางกฎหมายและทางการเมือง หนึ่งในนั้นคือความเป็นไปได้ที่ว่า จะมีการขายกิจการ TikTok ให้กับผู้ซื้อรายใหญ่ที่เป็นชาวอเมริกันหรือไม่
โดยที่เมื่อวันที่ 20 มกราคม ที่ผ่านมา โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งพิเศษ ขยายเวลา 75 วันให้ ByteDance ขายกิจการ TikTok ในสหรัฐฯ ให้กับเจ้าของที่ไม่ใช้ชาวจีน ทำให้กลายเป็นการปลดคำสั่งแบนชั่วคราวไปด้วย ซึ่งถ้าหาก ByteDance จะขายกิจการ TikTok ในสหรัฐฯ ก็จะมีมูลค่าถึง 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ทั้งนี้ หลังจากที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามคำสั่งพิเศษเรื่องการขยายเวลาขาย TikTok ทางการจีนก็มีท่าทีโอนอ่อนลงจากเดิมที่เคยต่อต้านการขายกิจการ TikTok ซึ่งโฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน เหมาหนิง กล่าวว่าทางการจีนอาจจะอนุญาตให้ ByteDance ขายกิจการส่วนหนึ่งให้
บิล ฟอร์ด ซีอีโอของเจอเนรัลแอตแลนติก ผู้ที่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ ByteDance และเป็นกรรมการบอร์ดผู้อำนวยการ เชื่อว่าจะมีการตกลงขาย TikTok เกิดขึ้นจริง ซึ่งจะเป็นทางออกแทนการถอนทุนกิจการ TikTok แต่ก็มีคำถามว่าแล้วใครล่ะที่จะมาเป็นผู้ซื้อกิจการ TikTok ในสหรัฐฯ
สื่อรายงานว่ามีความเป็นไปได้ที่ผู้มีอิทธิพลหลายคนในสหรัฐฯ กำลังสนใจที่จะซื้อกิจการ TikTok ไม่ว่าจะเป็น อีลอน มักส์ ผู้ที่เพิ่งซื้อทวิตเตอร์แล้วเปลี่ยนชื่อเป็น X เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา หรือ แลร์รี เอลลิสัน ประธานของบริษัทไอทีที่ใหญ่เป้นอันดับที่สามของโลกคือ ออราเคิล หรือ แม้กระทั่ง จิมมี โดนัลด์สัน ผู้สร้างเนื้อหาชื่อดังที่รู้จักกันในนาม “มิสเตอร์บีสต์” ก็พูดในทำนองว่าเขาเล็งที่จะเป็น “ซีอีโอคนใหม่” ของ TikTok อยู่เช่นกัน
ก่อนหน้านี้รัฐบาลสหรัฐฯ มีคำสั่งแบน TikTok เพราะกังวลเรื่องความมั่นคงกับการรั่วไหลของข้อมูล โดยอ้างว่าบริษัท ByteDance เจ้าของ TikTok อาจจะยอมให้รัฐบาลจีนเข้าถึงข้อมูลของพวกเขาได้ ในขณะที่ซีอีโอของ ByteDance ให้การปฏิเสธ อย่างไรก็ตามมีการเสนอทางออกอีกแบบหนึ่งคือการขายกิจการ TikTok ในสหรัฐฯ ให้กับอเมริกา
อย่างไรก็ตามมีข้อกังขาจาก สส. บางส่วนในสหรัฐฯ และจากผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายว่า ทรัมป์จะปฏิบัติตามเงื่อนไขทางกฎหมายในการยับยั้งการสั่งแบนได้จริงหรือไม่ ทั้งนี้ Shou Zi Chew ซีอีโอของ TikTok ยังเคยให้สัมภาษณ์ต่อสื่อไว้เมื่อเดือน เมษายน 2567 ว่าพวกเขาหวังจะชนะคดีสั่งแบนมากกว่า และยอมให้ปิดกิจการในสหรัฐฯ ดีกว่าที่จะขายให้ เตือนชาวอเมริกันแห่หนีไปใช้ RedNote ระวังถูกสอดแนม
ในช่วงที่มีการแบน TikTok เกิดขึ้น ก็มีชาวอเมริกันมากกว่า 700,000 ราย พากันดาวน์โหลดแอพ RedNote มาใช้แทน ซึ่งแอพ RedNote มีอีกชื่อหนึ่งว่า “เสี่ยวหงชู” เป็นแอพโซเชียลมีเดียจีนยอดนิยมอีกแอพหนึ่ง อย่างไรก็ตามแอพพลิเคชั่นนี้ดูจะไม่ค่อยต้อนรับเนื้อหาที่มีความอ่อนไหวทางการเมืองเท่าใดนัก
แหล่งข่าวที่รับรู้เรื่องการหารือกันระหว่าง RedNote กับเจ้าหน้าที่สำนักงานบริหารไซเบอร์สเปซของจีน เปิดเผยต่อสื่อว่า เจ้าหน้าที่ทางการจีนมีความกังวลเรื่องที่มีความอ่อนไหวทางการเมือง และมีการกำชับให้ RedNote ทำให้แน่ใจว่าผู้ใช้งานในจีนจะมองไม่เห็นโพสต์ของผู้ใช้งานในสหรัฐฯ
นอกจากนี้ยังมีนักกิจกรรมด้านสิทธิความเป็นส่วนตัวอย่าง คูเปอร์ ควินติน จากมูลนิธิอิเล็กโทรนิคฟรอนเทียร์ EFF เตือนให้ผู้ที่หันไปใช้ RedNote ระวังเรื่องการสอดแนม หรือ ข้อมูลส่วนตัวรั่วไหล เนื่องจาก RedNote ยังคงเป็นแอพพลิเคชั่นที่ไม่ได้รับการตรวจสอบพิจารณาจากคนที่อยู่ภายนอกประเทศจีนมากพอ และมองว่า RedNote อาจจะแชร์ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานให้กับโซเชียลมีเดียทุนใหญ่อย่างเครือข่ายโฆษณาของ Facebook และ Google ด้วย
เรียบเรียงจาก
With Trump’s TikTok extension, new potential U.S. buyers emerge, NBC News, 23-01-2025
ByteDance director says TikTok deal will get done ,Axios, 22-01-2025
Algorithms not for sale: ByteDance may shut down TikTok in the U.S. if legal options fail, Fast Company, 25-04-2025
TikTok is back online in the U.S., following Trump’s promise to pause the ban, NPR, 19-01-2025
As Americans flock to RedNote, privacy advocates warn about surveillance, The Verge, 17-01-2025
————————————————————————————————————————————————————————–
ที่มา : ประชาไท / วันที่เผยแพร่ 26 มกราคม 2568
Link : https://prachatai.com/journal/2025/01/112028