สมาร์ตโฟน ถือเป็นอุปกรณ์ติดตัวเราใน “ยุคดิจิจทัล” ไปแล้ว ถือเป็นอุปกรณ์พกพาเป็นอันดับแรก ที่จะขาดไม่ได้
สมาร์ตโฟน ถือเป็นอุปกรณ์ติดตัวเราใน “ยุคดิจิจทัล” ไปแล้ว ถือเป็นอุปกรณ์พกพาเป็นอันดับแรก ที่จะขาดไม่ได้ในการดำรงชีวิตประจำวัน
โดยปัจจุบัน มีผู้ใช้มือถือมากกว่า 5.75 พันล้านคนทั่วโลก มี สมาร์ตโฟนมากกว่า 7 พันล้านเครื่องที่ใช้งาน และผู้ใช้อินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่ 96.2% ใช้สมาร์ตโฟนเพื่อเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ชี้ให้เห็นว่าคนทั่วโลกพึ่งพาเทคโนโลยีมือถือมากขึ้น วันนี้ คอลัมน์ชีวืตติด TECH มีเทรนด์เทคโนโลยีมือถือ หรือ สมาร์ตโฟน มาเล่าให้ฟังกัน
เทรนด์ สมาร์ตโฟน ในปี 2025 จะยังเป็นสมาร์ตโฟน AI โดยนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และแมชชีนเลิร์นนิ่ง (ML) เข้ามาอยู่ในมือถือมากขึ้น ดังที่ได้เห็นในช่วงปลายปี 2024 ที่ผ่านมา เมื่อ แอปเปิล ได้เริ่มนำ Apple Intelligence ซึ่ง เป็น AI ที่ แอปเปิล พัฒนาขึ้นมาใน ไอโฟน 16 และคาดว่าจะสามารถใช้ได้เต็มรูปแบบในปีนี้ ขณะที่ทางฝั่ง แอนดรอยด์ ของ กูเกิล ก็ Gemini ที่จะช่วยให้สมาร์ตโฟนในมือ มีความอัจฉริยะมากขึ้น เป็นธรรมชาติและเหมือนมนุษย์มากขึ้นด้วย
ขณะที่แอปพลิเคชันที่พัฒนาขึ้น ก็มีมีแชตบอท เป็นเสมือนผู้ช่วยเข้ามา สามารถสั่งงานด้วยเสียง ธุรกิจต่างๆ พัฒนาแอปขึ้นมารองรับ อย่างเช่นในสหรัฐอเมริกา แอป Starbucks มีแชตบอทที่ให้ลูกค้าสั่งกาแฟได้โดยใช้เสียงหรือข้อความ ช่วยอำนวยความสพดวกและสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้ามากขึ้น
ภาพ apple.com
หรืออย่าง Canva ที่สามารถสร้างเนื้อหาวิดีโอโดยอัตโนมัติ หรือออกแบบกราฟิก ด้วยเทมเพลตที่ขับเคลื่อนด้วย AI ช่วยให้สร้างภาพคุณภาพสูงได้อย่างรวดเร็ว โดยผู้ใช้ไม่ต้องมีทักษะการออกแบบกราฟิกขั้นสูง เป็นต้น
ขณะที่กล้อง ก็จะมีการนำ AI มาช่วยให้การถ่ายภาพ และรูปภาพมีความสวยงามมากขึ้น ดังเช่นที่เห็นในปี 2024 ที่ผ่านมา ที่มีสมาร์ตโฟนบางแบรนด์ ได้เน้นพัฒนาในเรื่องนี้ โดย เทคโนโลยี AI จะเป็นตัวชูโรง ให้ผู้ผลิตมือถือแบรนด์ต่างๆ นำมาสร้างความแตกต่างในสมาร์ตโฟนของตนเอง เพื่อแข่งขันและขายในตลาด
โดยสมาร์ตโฟนที่วางขาย จะรองรับ 5G โดยรายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด คาดการณ์ว่า สิ้นปี 2024 ที่ผ่านมา จะมียอดผู้ใช้บริการ 5G ทั่วโลก สูงเกือบ 2.3 พันล้านราย คิดเป็น 25% ของผู้ใช้บริการมือถือทั้งหมดทั่วโลก และคาดว่ายอดผู้ใช้บริการ 5G จะเติบโตแซงหน้าผู้ใช้ 4G ทั่วโลกในช่วงปี 2027
นอกจากนี้ระหว่างปี 2024 จนถึงสิ้นปี 2030 ปริมาณการใช้ดาต้าเน็ตบนเครือข่ายมือถือทั่วโลกจะเติบโตเกือบ 200% และในอีกหกปีข้างหน้า คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการ 5G ทั่วโลกอยู่ที่ 6.3 พันล้านราย
ภาพ samsung.com/th
ขณะเดียวกัน AI รวมถึงแอปพลิเคชัน Generative AI ที่ถูกผสานรวมไว้ในสมาร์ตโฟน แล็ปท็อป นาฬิกา ที่อาจส่งผลต่อการรับส่งข้อมูลในเครือข่าย ผลักดันการเติบโตของปริมาณการใช้ดาต้าเน็ตบนมือถือให้สูงเกินกว่าการคาดการณ์พื้นฐาน ณ ปัจจุบัน
ส่วนในไทยก็เช่นกันสมาร์ตโฟนที่ออกมาวางขายจะรองรับ 5G เกือบทั้งหมด เนื่องจากปัจจุบันผู้ให้บริการมือถือ ได้ขยายโครงข่ายครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศแล้ว และผู้บริโภคก็อยากใช้ 5G ด้วยประสบการณ์การเชื่อมต่อที่ดี เร็วและแรงกว่า ทำให้สมาร์ตโฟน 5G จะได้รับความนิยมจากผู้บริโภค มากกว่าสมาร์ตโฟนที่รองรับแค่ 4G
สิ่งที่น่าจับตาในเรื่องการออกแบบดีไซน์ คือ สมาร์ตโฟนหน้าจอพับ 3 ทบ หลังจากที่ หัวเว่ย ได้เผยโฉม HUAWEI Mate XT ที่หน้าจอกางได้สูงสุด 10.2 นิ้ว เครื่องแรกของโลกออกมาเมื่อช่วงปลายปี 2024 ว่าจะได้รับความนิยม จนมีการออกมือถือรูปแบบดีไซน์นี้ออกสู่ตลาดเพิ่มและราคาจะถูกลงหรือไม่?
หลังจากที่ช่วง 3-4 ปี ที่ผ่านมาหลายๆ แบรนด์มีการออกสมาร์ตโฟนจอพับออกมาสู่ตลาดอีกครั้ง ทั้งซัมซุง ออปโป้ หัวเว่ย เน้นจับกลุ่มคนที่ชอบแฟชั่น แต่ดูเหมือนว่ายอดขายอาจจะยังไม่ปังเปรี้ยงปร้าง
อย่างไรก็ตามอีกสิ่งหนึ่งที่คาดว่าแบรนด์สมาร์ตโฟนต่างๆ จะให้ความสำคัญเพิ่มขึ้น คือ เรื่อง ซีเคียวริตี้ และความเป็นส่วนตัว หลังจากที่ปัจจุบันภัยคุกคามทางไซเบอร์ ได้เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา การรักษาความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นให้กับผู้ใช้งานจึงเป็นสิ่งจำเป็น ทำให้ได้จะเห็นการพัฒนานวัตกรรม หรือฟีเจอร์ต่างๆ เพื่อรักษาความปลอดภัยอุปกรณ์ โดยเฉพาะการเข้ารหัส การใช้ระบบยืนยันตัวตนแบบไบโอเมตริก และการนำ AI มาตรวจจับภัยคุกคามบนอุปกรณ์แบบเรียลไทม์ และการนำการตรวจสอบสิทธิหลายปัจจัยมาใช้ เป็นต้น
ขณะเดียวกันสิ่งที่แบรนด์สมาร์ตโฟนต่างๆ จะให้ความสำตัญเพิ่มมากขึ้น คือเรื่องความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า มือถือ หรือสมาร์ตโฟน ทำให้เกิดขยะอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมากในแต่ละปี ผู้ผลิตจึงหันมาสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อม ใช้วัสดุรีไซเคิล มาใช้ผลิตสมาร์ตโฟนมากขึ้น การใช้ไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด และการขนส่งที่ปล่อยคาร์บอนต่ำ เพื่อมีส่วนช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้โลกของเรา
อีกสิ่งหนึ่งที่จะได้เห็นคือการพัฒนาเรื่องแบตเตอรี่ ทั้งเรื่องความอีดยาวนานในการใช้งาน และการชาร์จที่เร็วขึ้น โดยทาง Apple จะใช้โคบอลต์รีไซเคิล 100% ในแบตเตอรี่ทั้งหมดที่ออกแบบโดย Apple ภายในปี 2025 นี้ ขณะที่ทาง ซัมซุง กำลังพัฒนาแบตเตอรี่โซลิดสเตตที่ใช้กับรถไฟฟ้าออกมาแล้ว
อย่างไรก็ตาม หากมองในเรื่องตัวเลขการจัดส่งและยอดการเติบโตแบบปีต่อปีของสมาร์ตโฟนหลากหลายแบรนด์ทั่วโลก ของ Canalys ที่เป็นบริษัทวิจัยตลาดอุตสาหกรรมเทคโนโลยีนั้น ตัวเลขล่าสุดในไตรมาส 3 ปี 2024 ที่ผ่านมา ที่ได้เปิดเผยอออกมานั้น พบว่ามียอดจัดส่งรวมกันกว่า 309.9 ล้านเครื่อง ซัมซุงมียอดการจัดส่งมากที่สุด 57.5 ล้านเครื่อง ครองส่วนแบ่ง 19% ทั่วโลก
ภาพ apple.com
ขณะเดียวกันสิ่งที่แบรนด์สมาร์ตโฟนต่างๆ จะให้ความสำตัญเพิ่มมากขึ้น คือเรื่องความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า มือถือ หรือสมาร์ตโฟน ทำให้เกิดขยะอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมากในแต่ละปี ผู้ผลิตจึงหันมาสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อม ใช้วัสดุรีไซเคิล มาใช้ผลิตสมาร์ตโฟนมากขึ้น การใช้ไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด และการขนส่งที่ปล่อยคาร์บอนต่ำ เพื่อมีส่วนช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้โลกของเรา
อีกสิ่งหนึ่งที่จะได้เห็นคือการพัฒนาเรื่องแบตเตอรี่ ทั้งเรื่องความอีดยาวนานในการใช้งาน และการชาร์จที่เร็วขึ้น โดยทาง Apple จะใช้โคบอลต์รีไซเคิล 100% ในแบตเตอรี่ทั้งหมดที่ออกแบบโดย Apple ภายในปี 2025 นี้ ขณะที่ทาง ซัมซุง กำลังพัฒนาแบตเตอรี่โซลิดสเตตที่ใช้กับรถไฟฟ้าออกมาแล้ว
อย่างไรก็ตาม หากมองในเรื่องตัวเลขการจัดส่งและยอดการเติบโตแบบปีต่อปีของสมาร์ตโฟนหลากหลายแบรนด์ทั่วโลก ของ Canalys ที่เป็นบริษัทวิจัยตลาดอุตสาหกรรมเทคโนโลยีนั้น ตัวเลขล่าสุดในไตรมาส 3 ปี 2024 ที่ผ่านมา ที่ได้เปิดเผยอออกมานั้น พบว่ามียอดจัดส่งรวมกันกว่า 309.9 ล้านเครื่อง ซัมซุงมียอดการจัดส่งมากที่สุด 57.5 ล้านเครื่อง ครองส่วนแบ่ง 19% ทั่วโลก
ภาพ samsung.com/th
รองลงมาคือ แอปเปิล ที่จัดส่งไป 54.5 ล้านเครื่อง ครองส่วนแบ่ง 18% ส่วนอันดับ 3 คือ เสี่ยวหมี่ มียอดจัดส่งกว่า 42.8 ล้านเครื่องทั่วโลก ครองส่วนแบ่งกว่า 14% รองลงมาจะเป็นมือถือแบรนด์จีน ได้แก่ ออปโป้ และ วีโว่ ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าในไตรมาส 4 แอปเปิล จะขึ้นมาครองอันดับ 1 หลังจากได้เปิดตัว ไอโฟน 16 แล้ว
นอกจากนี้ Canalys ยังคาดว่า ในปี 2025 ตลาดมือถือที่เติบโตเต็มที่ อย่าง สหรัฐอเมริกา จีน และยุโรปตะวันตก กลุ่มสมาร์ตโฟนระดับพรีเมียมที่มีการขับเคลื่อนด้วย AI จะเห็นการเติบโตอย่างชัดเจน
สุดท้ายแล้วสิ่งที่ต้องจับตาในปีนี้ คือ ของสองค่ายมือถือยักษ์ใหญ่ คือ แอปเปิล และซัมซุง ที่จะมีการเปิดตัวสทาร์ตโฟนรุ่นเรือธงของตัวเอง เริ่มจากซัมซุง ที่จะมีการเปิดตัว “ซัมซุง กาแลคซี เอส 25” ในช่วงปลายเดือน ม.ค. นี้ ขณะที่แอปเปิล ตาดว่าจะเปิดตัว ไอโฟน 17 ในช่วงเดือน ก.ย. นี้ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีข่าวลือเกี่ยวกับสองรุ่นนี้ออกมามากมาย
ต้องติดตามว่าเมื่อเปิดตัวแล้วจะมีเทคโนโลยีใหม่ๆ อะไรให้ร้อง “ว้าวว” กันบ้าง!?!
Cyber Daily
————————————————————————————————————————————-
ที่มา : เดลินิวส์ / วันที่เผยแพร่ 4 ม.ค.68
Link : https://www.dailynews.co.th/news/4254756/