สาวช่างสักร้อง “สายไหมต้องรอด” ข้อมูลส่วนตัวรั่วไปถึงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเขมร ตามไปตรวจสอบกับกรมการปกครองถึงกับอึ้ง มีชื่อนายตำรวจระดับ รอง สว.ใน จ.ชลบุรี เข้าไปเอาข้อมูลออกไป รีบเข้าแจ้งความร้องทุกข์พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ให้ตรวจสอบเพราะรู้สึกไม่ปลอดภัย แต่ให้แค่ลงบันทึกประจำวัน อ้างว่ายังไม่เกิดความเสียหาย
ช่างสักสาวโร่ร้องเรียนสายไหมต้องรอดสงสัย ตำรวจ ข้อมูลส่วนตัวหลุดถึงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นที่ที่ทำการเพจสายไหมต้องรอด เขตสายไหม เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 7 ม.ค. น.ส.มนัสปญา ม่วงทอง อายุ 25 ปี ชาว จ.สมุทรปราการ พร้อมสามี เดินทางเข้าพบนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความช่วยเหลือ กรณีถูกนายตำรวจระดับรองสารวัตร สังกัด สภ.บ่อวิน จ.ชลบุรี แอบสืบค้นข้อมูลทะเบียนราษฎรไปเผยแพร่ ผู้เสียหายเข้าแจ้งความพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ไว้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค. แต่คดีไม่มีความคืบหน้า
น.ส.มนัสปญา กล่าวว่า ตนและสามีมีอาชีพเป็นช่างสัก รับงานสักทั้งในไทยและที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา เดินทางไปทำงานที่กัมพูชาบ่อยครั้ง มีพาสปอร์ตเดินทางอย่างถูกต้อง จากนั้นเข้าไปเป็นสมาชิกในเพจกลุ่มคนไทยที่ทำงานอยู่ในกัมพูชา เป็นเพจเปิดสาธารณะสามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และซื้อขายสินค้ากันได้ แต่จู่ๆ มีคนนำข้อมูลทะเบียนราษฎรของตนและของพ่อตนมาโพสต์ และส่งข้อมูลมาในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊กส่วนตัวในทำนองเยาะเย้ยว่า มีข้อมูลของตนและคนในครอบครัว ทำให้รู้สึกว่าถูกคุกคาม
“ส่วนคนที่มาคุกคามนั้น เชื่อว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ไปทำงานอยู่ในกัมพูชา ที่ไม่ชอบหน้าหรือหมั่นไส้ฉัน เนื่องจากคนไทยที่ไปทำงานในกัมพูชาจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มที่ทำงานโดยสุจริต และกลุ่มที่ทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทั้ง 2 กลุ่มไม่ค่อยถูกกันและไม่คบหากัน จนเกิดความหมั่นไส้ เข้าใจว่าฉันอยู่ในกลุ่มคนที่ต่อต้านแก๊งคอลเซ็นเตอร์เลยถูกกล่ันแกล้ง โดยการโพสต์และส่งข้อมูลทะเบียนราษฎรมาเยาะเย้ย” น.ส.มนัสปญากล่าว
ช่างสักสาวกล่าวต่อว่า หลังจากกลับมาเมืองไทยไปตรวจสอบที่กรมการปกครองว่าใครเป็นคนเข้ามาตรวจสอบข้อมูลส่วนตัว ปรากฏว่าเป็นผู้ชายใช้คำนำหน้า ว่าที่ร้อยตรี เป็นนายตำรวจระดับรองสารวัตร สังกัด สภ.บ่อวิน จ.ชลบุรี เป็นผู้ขอข้อมูลทะเบียนราษฎรของตนที่กรมการปกครอง ทำให้เชื่อว่างานนี้มีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยแน่นอน อาจเป็นเครือข่ายให้ความช่วยเหลือ หรือขายข้อมูลทะเบียนราษฎรประชาชนให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ไปแจ้งความที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ แต่พนักงานสอบสวนไม่รับแจ้ง ให้แค่ลงบันทึกประจำวัน อ้างว่ายังไม่เกิดความเสียหาย
ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นถือเป็นภัยความมั่นคง เพราะมีเจ้าหน้าที่รัฐไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ฝากถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้ระมัดระวัง เฝ้าสอดส่องพฤติกรรมตำรวจนอกรีตที่อาจเกี่ยวข้องหรือรับผลประโยชน์แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และจะประสานขอให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ตรวจสอบตำรวจรายนี้ อีกทั้งจะประสานไปยัง ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อติดตามคดีที่เกิดขึ้นด้วย
—————————————————————————————————————————————
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 8 ม.ค.68
Link : https://www.thairath.co.th/news/local/2834979