TP-Link อาจถูกแบนในสหรัฐ ตาม TikTok หลังส.ส.เผย เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคง ชี้ รัฐบาลจีน อาจใช้เราเตอร์TP-Link โจมตีสหรัฐ
วันที่ 26 มกราคม 2568 สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า TP-Linkแบรนด์เราเตอร์ชื่อดังของจีน กำลังถูกเพ่งเล็งโดยหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐ เนื่องจากมีความกังวลว่าอาจเป็นภัยคุกคามต่อโครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐ และผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าจีนอาจใช้ประโยชน์จากเราเตอร์เหล่านี้ในการโจมตีและขโมยข้อมูลที่ละเอียดอ่อน
นายราชา กฤษณมูรติ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเดโมแครตประจำรัฐอิลลินอยส์ และนายจอห์น มูเลนาร์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรครีพับลิกันประจำรัฐมิชิแกน ได้ส่งจดหมายถึงกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐเกี่ยวกับความกังวลดังกล่าวเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งนำไปสู่การสอบสวนและเรียกร้องให้ดำเนินการ
จดหมายดังกล่าวเน้นย้ำถึงช่องโหว่ที่ไม่ปกติ ในเราเตอร์TP-Link และการปฏิบัติตามกฎหมายของรัฐบาลจีนที่น่ากังวล นอกจากนี้แล้ว จดหมายดังกล่าวยังระบุถึงการที่รัฐบาลจีนใช้เราเตอร์สำนักงานขนาดเล็กและสำนักงานที่บ้าน เช่น เราเตอร์จากTP-Link ในการดำเนินการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหญ่ในสหรัฐ
เราเตอร์TP-Link ยังเชื่อมโยงกับเหตุการณ์สำคัญต่างๆ มากมาย รวมถึงการแฮ็กที่กำหนดเป้าหมายเจ้าหน้าที่ยุโรปและการโจมตีทางไซเบอร์ Typhoon Volt
แม้จะมีข้อกังวลเหล่านี้ แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าใด ๆ ซึ่งนายกฤษณมูรติ แสดงความผิดหวังในเรื่องนี้ และต้องการให้มีการดำเนินการเฉกเช่นเดียวกับกรณีการกำจัดอุปกรณ์ของหัวเว่ย (Huawei) ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ ออกจากอุปกรณ์ของรัฐบาล เมื่อปี 2563 และเน้นย้ำว่าจำเป็นต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาTP-Link โดยด่วน
นายกฤษณมูรติ กล่าวว่า TP-Linkครองส่วนแบ่ง 65% ในตลาดเราเตอร์ของสหรัฐ และเป็นเราเตอร์ที่ขายดีที่สุดบนเว็บไซต์ อะเมซอน (Amazon) ซึ่งความสำเร็จนี้สะท้อนถึงกลยุทธ์ที่กว้างขึ้นของจีน ในการผลิตเทคโนโลยีส่วนเกิน การส่งออกเพื่อลดราคาคู่แข่ง และอาจใช้เทคโนโลยีดังกล่าวเพื่ออำนวยความสะดวกในการโจมตีทางไซเบอร์หรือการเข้าถึงช่องทางลับ พร้อมระบุว่า หน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงกลาโหม และหน่วยข่าวกรอง รัฐบาลสหรัฐ ไม่ควรซื้อเราเตอร์เหล่านี้
“สาธารณรัฐประชาชนจีนมีเจตนาที่จะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับชาวอเมริกัน และพวกเขาก็จะทำอย่างนั้น ทำไมจึงต้องเปิดช่องทางลับให้พวกเขาอีก ทั้งความเสี่ยงต่อประวัติการเรียกดูข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลครอบครัว และข้อมูลของนายจ้าง ผมจะไม่ซื้อเราเตอร์ TP-Link และผมก็จะไม่มีทางติดตั้งมันไว้ที่บ้าน”
นายกฤษณมูรติกล่าวเสริม พร้อมเน้นย้ำถึงแนวทางที่ระมัดระวังของเขา รวมถึงการที่เขาไม่เคยดาวน์โหลดติ๊กต๊อก (TikTok) มาใช้งาน
ขณะที่ นายมูเลนาร์ แสดงความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านการจารกรรมที่เกิดจากเราเตอร์ของTP-Link โดยระบุว่าบริษัทต้องรับผิดชอบจากการที่มีความเกี่ยวข้องกับรัฐบาลจีน ซึ่งกำลังดำเนินขบวนการแฮ็กข้อมูลในสหรัฐอย่างแพร่หลาย และหวังว่าเราเตอร์TP-Link จะถูกแบนในปีหน้า พร้อมเสนอโครงการใช้เราเตอร์แบรนด์สหรัฐที่ปลอดภัยกว่า แทนที่เราเตอร์แบรนด์จีนทั้งหมด
ด้านTP-Link Technologies ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว พร้อมระบุว่าบริษัทไม่ได้มีการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์เราเตอร์ในสหรัฐโดยตรง และผลิตภัณฑ์ก็ไม่ได้มีข้อบกพร่อง นอกจากนี้แล้วTP-Link Systems ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ให้บริการในตลาดสหรัฐตั้งแต่ปี 2566 ก็ได้ยืนยันว่าเราเตอร์ส่วนใหญ่ที่วางจำหน่ายสำหรับตลาดสหรัฐนั้นผลิตในเวียดนาม
“TP-Link Systems กำลังดำเนินการเชิงรุกร่วมกับรัฐบาลกลางเพื่อแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของแนวทางการรักษาความปลอดภัยของเรา และความมุ่งมั่นของเราที่มีต่อผู้บริโภคชาวอเมริกัน และการแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงของชาติ” บริษัทระบุ
อ้างอิง : cnbc.com
————————————————————————————
ที่มา : การเงินธนาคาร / วันที่เผยแพร่ 27 มกราคม 2568
Link : https://moneyandbanking.co.th/2025/152565/