“ปัตตานี” เดือด คนร้ายดักถล่ม 2 ตำรวจป้องกันปราบปรามโรงพักยะรัง ขณะขี่ จยย.เข้าตรวจสอบหลังได้รับเหตุวัยรุ่นมั่วสุมในพื้นที่ล่อแหลมสองข้างทางเป็นป่าและมืด เจอระดมยิงด้วย อาก้าและเอ็ม 16 สิ้นใจ แล้วขโมยปืนพกของเหยื่อเผ่นหนี พร้อม M4 รวม 3 กระบอก ด้านผู้การปัตตานี สั่งสนธิกำลังปิดล้อมพื้นที่และทำการตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายที่คาดว่าคนร้ายอาจจะมีการหลบซ่อนตัว รวมถึงกำชับด่านทุกด่านโดยรอบ ให้เฝ้าระวังและตรวจค้นยานพาหนะทุกชนิด รวมไปถึงบุคคลต้องสงสัย
เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 ร.ต.อ.ทักษ์เชษฐ์ เบญจธรรมรักษ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ยะรัง จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งเกิดเหตุยิงกัน มีผู้เสียชีวิตเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเหตุเกิดภายในซอยไม่มีชื่อ ม.3 ต.ยะรัง จึงรายงานให้ พ.ต.อ.วรินทร์ วันธงชัย ผกก.สภ.ยะรัง รับทราบ พร้อมนำกำลังสามฝ่ายไปที่เกิดเหตุ ไปถึงพบเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกยิงเสียชีวิต 1 นาย และได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 นาย จึงรีบลำเลียงทั้งสองนายไปโรงพยาบาลยะรัง
ทราบชื่อผู้เสียชีวิต จ.ส.ต.เดโช เขียวแก้ว อายุ 35 ปี ผบ.หมู่(ป.)สภ.ยะรัง มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนสงครามเข้าบริเวณลำตัวหลายนัด ส่วน ส.ต.ต.ทรงชัย จันทรภาพ อายุ 23 ปี ผบ.หมู่(ป.)สภ.ยะรัง ได้รับบาดเจ็บสาหัสแพทย์ได้พยายามช่วยชีวิตอย่างเต็มที่ แต่เนื่องจากบาดแผลฉกรรจ์หลายแห่งและเสียเลือดมากกระทั่งเสียชีวิตในเวลาต่อมา สภาพศพทั้งสองนายสวมชุดเครื่องแบบและใส่เสื้อหุ้มเกราะ และสวมหมวกเหล็ก จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าทะเบียน 1กม 9865 ปัตตานีของเจ้าหน้าที่ล้มอยู่บนถนน และมีปลอกกระสุนปืนสงครามกว่า 30 ปลอกจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ผู้เสียชีวิตทั้งสองนายเพิ่งเสร็จจากภารกิจตั้งด่านบนถนนภายในเขตเทศบาลตำบลยะรัง และหลังจากตั้งด่านเสร็จได้รับแจ้งว่าภายในซอยดังกล่าวพบความเคลื่อนไหวของผู้ต้องสงสัยและอาจจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่พยายามจะก่อเหตุ และหลังจากได้รับแจ้งกำลังประจำด่านตรวจจึงได้เดินทางเพื่อไปตรวจสอบ และเมื่อมาถึงปากซอยรถยนต์ไม่สามารถเข้าไปได้ ผู้เสียชีวิตทั้งสองนายซึ่งใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ จ.ส.ต.เดโช เป็นคนขับ ส่วน ส.ต.ต.ทรงชัย นั่งซ้อนท้าย ทั้งสองจึงได้เข้าไปก่อนล่วงหน้าเพื่อทำการตรวจสอบ แต่ปรากฏว่าเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งทั้งสองข้างทางเป็นป่าและมืด ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนซุ่มอยู่แล้วใช้อาวุธปืนสงครามถล่มยิงทั้งสองหลาย 10 นัดทำให้รถเสียหลักตกข้างทาง นอกจากนี้กระสุนยังไปโดนกระจกและอาคารบ้านของประชาชนได้รับความเสียหาย 1 หลัง คนร้ายคิดว่าทั้งสองเสียชีวิตแล้ว จึงได้ขโมยอาวุธปืนพกสั้นประจำกายของทั้งสองนายหลบหนีไปในความมืด
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.สันทัศน์ เชื้อพุฒตาล ผบก.ภ.จว.ปัตตานี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สนธิกำลังร่วมสามฝ่ายเข้าไปที่เกิดเหตุวางแผนกระจายกำลังปิดล้อมตรวจค้นบริเวณที่เกิดเหตุในรัศมี 500 เมตร พร้อมประสานหน่วยกำลังโดยรอบให้เฝ้าระวังและตรวจค้นยานพาหนะทุกชนิด รวมไปถึงบุคคลต้องสงสัย เชื่อว่าคนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่และมีแนวร่วมให้ความช่วยเหลือในที่หลบซ่อน พร้อมกำชับให้ชุดสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด โดยเฉพาะปลอกกระสุนปืนของคนร้ายเพื่อนำไปตรวจสอบหาข้อมูลว่าอาวุธปืนที่ใช้เคยก่อเหตุใดบ้างและเชื่อว่าน่าจะรู้ตัวกลุ่มที่ก่อเหตุ นอกจากนี้ให้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดทุกจุดทั้งก่อนและหลังก่อเหตุ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ พยายามแสดงศักยภาพในการกดขี่ต่อเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อสร้างสถานการณ์
สำหรับความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 เจ้าหน้าที่ยังคงปิดกั้นพื้นที่โดยไม่ให้ใครที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในที่เกิดเหตุเกรงว่าจะทำให้พยานหลักฐานเสียหาย จากนั้น พ.ต.อ.วรินทร์ วันธงชัย ผกก.สภ.ยะรัง จึงจัดกำลังเจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิด และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกำชับชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดใช้เครื่องสแกนโลหะตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียด พร้อมทั้งใช้โดรนตรวจสอบพื้นที่รัศมี 500 เมตรโดยรอบ เพื่อป้องกัน เกรงว่าคนร้ายอาจจะมีการลอบวางระเบิดหวังลวงเจ้าหน้าที่
เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมีการกำชับให้เก็บพยานหลักฐานต่างๆ ในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด ทั้งปลอกกระสุนปืน หัวกระสุน ก้นบุหรี่ รอยเท้าของคนร้าย รวมถึงไล่ภาพจากกล้องวงจรปิดที่มีในที่เกิดเหตุที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุและหลบหนี จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ยังพบปลอกกระสุนปืนเพิ่มเติม จำนวน 4 ชนิด ประกอบด้วยปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 อาก้า ขนาด 9 มม. และ .22 รวมมากกว่า 30 ปลอก นอกจากนี้ยังพบอาวุธปืนสั้นขนาด .38 จำนวน 2 กระบอกตกอยู่ในที่เกิดเหตุ
ซึ่งจากการตรวจสอบปืนทั้งสองกระบอกเป็นของตำรวจทั้งสองนายที่เสียชีวิต นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบว่ามีอาวุธปืนขนาด 9 มม.ของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้หายไป 2 กระบอก และอาวุธปืน แบบ M4 จำนวน 1 กระบอก
ส่วนแนวทางการสืบสวน หน่วยความมั่นคงได้ลงพื้นที่หาข่าวคนร้ายที่ก่อเหตุ รวมถึงตรวจสอบหัวกระสุนอาวุธปืนที่คนร้ายใช้ เพื่อหาความเกี่ยวโยงกับคดีอื่นที่เกี่ยวข้องว่าใครคือคนร้าย และเคยก่อเหตุที่ใดบ้าง รวมถึงตรวจสอบว่าใครเป็นคนแจ้งเหตุ เนื่องจากก่อนเกิดเหตุมีการรับแจ้งว่ามีกลุ่มวัยรุ่นมั่วสุมกัน ทำให้เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจสอบ และเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้จัดกำลังปิดล้อมพื้นที่และทำการตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายที่คาดว่าคนร้ายอาจจะมีการหลบซ่อนตัว รวมถึงได้กำชับไปยังด่านทุกด่านโดยรอบให้เฝ้าระวังและตรวจค้นยานพาหนะทุกชนิดรวมไปถึงบุคคลต้องสงสัยเชื่อว่าคนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่และมีแนวร่วมให้ความช่วยเหลือในที่หลบซ่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งทำการสืบสวนสอบสวนไล่ล่าคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวพบว่าทิศทางกระสุนปืนได้ไปถูกบ้านเลขที่ 112/7 ม.3 ต.ยะรัง โดยกระสุนถูกบริเวณรั้วบ้าน 1 นัด และหน้าต่างบ้านทะลุเข้าไปภายในบ้าน 1 นัด ผู้สื่อข่าวจึงเดินตรวจสอบภายในบ้านแต่ไม่มีใครอยู่ และได้พบกับชาวบ้านรายหนึ่ง ได้เล่าว่า จากการที่เจ้าของบ้านเล่ามา เขาบอกว่าก่อนเกิดเหตุกำลังละหมาด พอละหมาดเสร็จกำลังจะออกจากห้องก็ได้ยินเสียงปืนดังมาก ก่อนมาทราบข่าวตอนหลังว่าที่บ้านถูกกระสุนปืน เขาบอกว่าตอนนั้นตกใจมาก
ขณะที่ญาติของ ส.ต.ต.ทรงชัย จันทรภาพ อายุ 23 ปี ผบ.หมู่ ป. ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวได้เดินทางมายัง สภ.ยะรัง เพื่อเดินทางมาติดต่อขอรับศพ เพื่อนำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลบ้านที่เกิดที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจหลังทราบข่าว
นางสายใจ จันทรภาพ แม่ของ ส.ต.ต.ทรงชัย จันทรภาพ ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนเพิ่งคุยกับลูกชายเมื่อวาน ลูกชายบอกว่าจะกลับบ้านวันนี้ เพราะเป็นวันออกเวร ซึ่งตอนจะกลับเดี๋ยวจะโทรหาแม่อีกครั้ง ซึ่งตอนนี้สภาพจิตใจยังรับไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งตนก็เคยกังวลว่าลูกชายของตนอาจจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แต่ไม่คิดว่าจะถึงขั้นเสียชีวิต สภาพจิตใจครอบครัวย่ำแย่มากหลังทราบข่าวแล้ว ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
————————————————————————————————————————————————–
ที่มา : thairath / วันที่เผยแพร่ 20 กุมภาพันธ์ 2568
Link : https://www.thairath.co.th/news/crime/2842976?gallery_id=4