แอดมินจีนปฏิเสธ ไม่ทราบตั้งบริษัทลุ้นชิงรางวัลขโมยข้อมูล ขยายผลตรวจสอบบัตรพนักงานคนไทย 12 คนรู้เห็นการกระทำผิด
จากกรณีการบุกจับกุมชุด PCT , สืบนครบาล และ สน.สุทธิสาร ได้นำหมายค้นเข้าตรวจค้นห้องภายในอาคารเสริมทรัพย์ ถ.รัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง จ.กรุงเทพฯ เป็นออฟฟิศคอลเซ็นเตอร์บริษัท Luckking แต่ปรากฏว่าไม่มีพนักงานอยู่ลักษณะเสมือนขนของหนีเจ้าหน้าที่ไปได้ จับกุมชาวจีน 3 ราย เป็นหัวหน้า พร้อมเป็น Admin ที่ควบคุมระบบหลังบ้านที่ใช้หลอกลวงจนค้นพบเจ้าของบริษัทภายในประเทศไทย เพื่อใช้ “ขโมยข้อมูลส่วนบุคคล” นำไปขายให้กับกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยตรวจพบว่ามีข้อมูลบุคคลรั่วไหลไปแล้วกว่า 88,000 ราย โดยใช้ชื่อบริษัทว่า Luckking อำพรางให้ประชาชนโอนเงินเข้ามาลุ้นชิงของรางวัลนั้น
วันที่ 20 กุมภาพันธ์ ความคืบหน้า ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์รอง ผบช.น. ฐานะรองหัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูล ศปอส.ตร. เปิดเผยว่า โดยตัวบอส 2 คนแรกคือ นายลี และนายยี่ ยังคงให้การปฏิเสธ และอ้างว่าไม่รู้เห็น ไม่เกี่ยวข้อง แต่จากข้อมูลทางการสืบสวนและพยานหลักฐานกล้องวงจรปิด ค่อนข้างชัดเจนว่านายลี และนายยี่ เป็นคนควบคุม สั่งการ และเข้ามาที่อาคารทำการตลอด ส่วนนายจาง บอสคนที่ 3 ให้การว่าถูกสั่งการมาจากบอส 2 คนแรกอีกที
อย่างไรก็ตามนายจางอยู่ในราชอาณาจักรไทยเกินกำหนด หรือ Overstay จึงส่งให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองนำไปกักตัวไว้ก่อน จากนั้นพนักงานสอบสวนจะเตรียมแจ้งข้อหาเพิ่มเรื่องการจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ หรือชักชวนให้มีการเล่นการพนันออนไลน์ จากรูปแบบของแอปพลิเคชันลุ้นโชค Luckking ที่มีลักษณะเข้าข่ายเป็นการพนัน
นอกจากนี้บอสทั้ง 3 คนก็จะถูกแจ้งข้อหาเพิ่มเติมฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนด้วย หากตรวจสอบพบว่ารายชื่อและข้อมูลส่วนบุคคลที่แอพพลิเคชั่นขโมยมาจากผู้ที่เข้าเล่นเกม จำนวน 88,000 รายชื่อ ถูกนำไปขายให้แก๊งคอลเซนเตอร์ หรือตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมออนไลน์ใดหรือยัง โดยจะนำไปเปรียบเทียบกับ Case id ที่มีการแจ้งความไว้แล้ว
จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินและบัญชีธนาคารของเครือข่าย พบว่ามีผู้เสียหายโอนเงินผ่านเข้าบัญชีม้ามาไม่ต่ำกว่า 100 คน แล้ว ความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท ดังนั้นหากใครที่เข้าไปเล่นแอพพ์ฯ Luckking และมีความเสียหายเกิดขึ้น ขอให้เข้าแจ้งความกับตำรวจ หรือ 1441 ได้ทันที ส่วนที่พบบัตรพนักงานคนไทยอีก 12 คน ตำรวจอยู่ระหว่างดำเนินการออกหมายเรียกมาสอบสวน ว่าเกี่ยวข้อง หรือมีความสัมพันธ์อย่างไรกับบริษัทแห่งนี้ ทั้งนี้ตำรวจยังเชื่อว่าน่าจะมีบอสใหญ่คอยบงการอยู่ในต่างประเทศอีกอยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม
——————————————————————————————————————————-
ที่มา : matichon / วันที่เผยแพร่ 20 กุมภาพันธ์ 2568
Link : https://www.matichon.co.th/local/crime/news_5057871