หลายคนน่าจะเคยเห็นตัวเลขมูลค่าความเสียหายกว่า 7.7 หมื่นล้านบาท ที่คนไทยได้รับจาก ภัยออนไลน์ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จนนำไปสู่การไล่ทลาย แก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่ไม่ใช่แค่คนทั่วไปที่ได้รับผลกระทบ แต่ องค์กรในไทย ก็เผชิญกับการโจมตีจากมิจฉาชีพที่เพิ่มมากขึ้น
องค์กรไทยโดนโจมตีมากกว่าค่าเฉลี่ยโลก 70%
บริษัท เช็ค พอยท์® ซอฟต์แวร์ เทคโนโลยีส์ จำกัด ผู้ให้บริการโซลูชันชั้นด้านการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ เปิดเผยว่า นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2567 – มกราคม 2568 องค์กรต่าง ๆ ในประเทศไทยเจอการโจมตีทางไซเบอร์เฉลี่ยถึง 3,180 ครั้งต่อสัปดาห์ต่อองค์กร ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 1,843 ครั้งต่อสัปดาห์ต่อองค์กร
โดยภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่พบเจอมากที่สุดในประเทศไทย ได้แก่ การหลอกลวงทางฟิชชิ่ง และ มัลแวร์ทางธนาคาร ซึ่งภัยคุกคามทั้งสองรูปแบบนี้มีอัตราการแพร่ระบาดสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกอย่างมีนัยสำคัญ จากรายงานของเช็ค พอยท์ อินเทลลิเจ้นซ์ (Check Point Intelligence) พบว่า เหตุการณ์แรนซัมแวร์ในประเทศไทยคิดเป็น 6% ของการโจมตีทางไซเบอร์เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 4% ขณะที่การโจมตีจากมัลแวร์ทางธนาคารคิดเป็น 9.5% เมื่อเทียบกับ 2.8% ทั่วโลก
แนวโน้มที่น่ากังวลดังกล่าวสอดคล้องกับผลการสำรวจของธนาคารแห่งประเทศไทยที่เผยให้เห็นว่า ลูกค้าของธนาคารไทยสูญเสียเงินมากกว่า 60 ล้านบาท จากการฉ้อโกงทางการเงินออนไลน์ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
มิจจี้ ใช้ AI มาช่วยอีกแรง
นอกจากนี้ ผู้ก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ยัง ใช้ประโยชน์จากโมเดล AI เช่น DeepSeek มากขึ้น โดยมีการนำไปใช้เพื่อขยายขอบเขตการดำเนินการ เช่น การปลอมแปลงตัวตน การโจรกรรมทางการเงิน และการหลบเลี่ยงการรักษาความปลอดภัยของธนาคาร การหลอกลวงในรูปแบบฟิชชิ่งโดยใช้เทคโนโลยี AI การใช้เสียงปลอมเพื่อหลอกลวง และการสร้างเนื้อหาลวงด้วย AI กำลังแพร่หลายอย่างมาก
ซึ่งการโจมตีเหล่านี้มีความซับซ้อนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้การขโมยข้อมูลสามารถดำเนินการได้โดยอัตโนมัติ อีกทั้งยังสามารถหลบเลี่ยงการตรวจจับการฉ้อโกง และสามารถสร้างแคมเปญสแปมจำนวนมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รัฐบาลไทยเริ่มมาถูกทาง
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยก็มีการตื่นตัว เห็นได้จากการผลักดัน คลาวด์ เฟิร์ส (Cloud-First) ของรัฐบาลไทย โดยต้องการเปลี่ยนหน่วยงานภาครัฐทั้งหมดไปเป็นแพลตฟอร์มคลาวด์อย่างเต็มรูปแบบภายในปีนี้ เพื่อยกระดับแนวปราการป้องกันทางดิจิทัล โดย ชาญวิทย์ อิทธิวัฒนะ ผู้จัดการสาขาประจำประเทศไทย บริษัท เช็ค พอยท์ ซอฟต์แวร์ เทคโนโลยีส์ มองว่า สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการเสริมสร้างมาตรการรักษาความปลอดภัย รวมทั้งส่งเสริมให้ภาครัฐมีความคล่องตัวในการดำเนินงานมากขึ้น
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่า ตลาดการรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์ ในประเทศไทยจะมีอัตราการเติบโตต่อปีอยู่ที่ +25% และคาดว่าจะเติบโตถึง 17.37 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2572
—————————————————————————————————————–
ที่มา : positioningmag / วันที่เผยแพร่ 19 กุมภาพันธ์ 2568
Link : https://positioningmag.com/1511376