เหตุคนร้ายผูกระเบิดใต้ท้องรถกระบะของตำรวจ สภ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส และเกิดระเบิดขึ้นบริเวณลานจอดรถของโรงพัก มีแนวโน้มสูงที่จะเป็นเหตุความมั่นคง ไม่ใช่ขัดแย้งส่วนตัว เนื่องจากเกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกัน บริเวณที่ว่าการอำเภอยี่งอ จ.นราธิวาส โดยรถยนต์ที่ถูกผูกระเบิดใต้ท้องรถแบบเดียวกัน เป็นรถของปลัดอำเภอ
ความคืบหน้าเหตุคนร้ายลอบผูกระเบิดแสวงเครื่องใต้ท้องรถกระบะของ จ.ส.ต.ซุลกิฟลี เจ๊ะมามะ ตำรวจ สภ.ศรีสาคร แล้วเกิดระเบิดขึ้นภายในลานจอดรถหน้าอาคาร สภ.ศรีสาคร แรงระเบิดทำให้ท้ายกระบะของรถได้รับความเสียหายฉีกขาดจากแรงระเบิด แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ เนื่องจาก จ.ส.ต.ซุลกิฟลี ขับรถไปส่งบุตรและภรรยาเรียบร้อยแล้ว จึงนำรถเข้าไปจอดที่โรงพัก และเดินเข้าไปทำงาน ก่อนจะเกิดระเบิดขึ้น เหตุเกิดช่วงเช้าวันอังคารที่ 4 ก.พ.68
ต่อมา พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.นิยม สุวรรณคง ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส (ผกก.สส.ภ.จว.นราธิวาส) และเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด หรือ อีโอดี ของหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) กองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส ได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบถึงโรงพักศรีสาคร
จุดเกิดเหตุพบซากเศษชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็ก น้ำหนัก 2 กิโลกรัม จุดระเบิดด้วยรีโมทคอนโทรล แต่ไม่มีสะเก็ดระเบิด กระจายใกล้รถกระบะของ จ.ส.ต.ซุลกิฟลี ซึ่งได้รับความเสียหาย คาดว่าคนร้ายนำระเบิดแสวงเครื่องไปผูกไว้กับแชสซีใกล้ซุ้มล้อบังโคลนด้านซ้าย ก่อนสั่งจุดระเบิด
@@ เก๋งบึ้มซ้ำอีกคัน ไฟลุกไหม้หน้าที่ว่าการอำเภอยี่งอ
ช่วงเวลา 09.20 น.วันเดียวกัน ที่บริเวณลานจอดรถหน้าที่ว่าการอำเภอยี่งอ จ.นราธิวาส เกิดเหตุเพลิงลุกไหม้รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อเอ็มจี ป้ายทะเบียน กฉ 853 นราธิวาส ซึ่งเป็นรถของ นายอับดุลมูรีด อีลา ปลัดอำเภองานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ของ อ.ยี่งอ โดยเพลิงได้ลุกไหม้จนรถยนต์ได้รับความเสียหายทั้งคัน
จากการตรวจสอบในเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ พบว่า คนร้ายได้นำระเบิดชนิดและขนาดเดียวกับที่ผูกใต้ท้องรถ จ.ส.ต.ซุลกิฟลี ไปผูกหรือแปะไว้บริเวณใต้ท้องรถใกล้กับถังน้ำมันเชื้อเพลิง โดยมีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องตกอยู่บริเวณใต้ท้องรถ เมื่อระเบิดทำงานจึงทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้ จนรถยนต์วอดทั้งคัน
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ 1 วัน นายอับดุลมูรีด ได้ขับรถยนต์กลับบ้านตามปกติ โดยจอดไว้บริเวณลานจอดรถที่ไม่มีรั้วรอบขอบชิด เมื่อตื่นเช้าก็ขับรถมาทำงานตามปกติ โดยนำรถไปจอดไว้ที่บริเวณลานจอดรถภายในที่ว่าการอำเภอ ผ่านไปไม่ถึง 10 นาที มีคนได้ยินเสียงดังจากรถ แต่ไม่ดังมากนัก แล้วก็เกิดเพลิงลุกไหม้รถยนต์อย่างรวดเร็ว จึงได้รีบแจ้งผู้ใต้บังคับบัญชาให้นำรถดับเพลิงมาฉีดน้ำดับไฟ จนเพลิงสงบลง แต่รถก็เสียหายยับทั้งคัน
@@ ปลัดเล่าประวัติรถ – คาดถูกล็อกเป้าช่วงจอดหน้าบ้าน
นายอับดุลมูรีด อีลา ปลัดอำเภอยี่งอ เจ้าของรถที่ถูกแขวนระเบิดและเกิดเพลิงไหม้ กล่าวว่า รถคันนี้ซื้อมาใช้ประมาณ 3 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้รถของตนจมน้ำ จึงนำไปซ่อมที่อู่ย่านถนน ณ นคร อำเภอเมืองนราธิวาส หลังจากนั้นตนขับรถไปชนวัว จึงนำไปซ่อมที่อู่เดิม แล้วนำกลับนำมาใช้ประมาณ 2 เดือน โดยไม่ได้เข้าซ่อมอีกเลย
ฉะนั้นช่วงที่โดนผูกระเบิดใต้ท้องรถ น่าจะเป็นช่วงจอดรถที่บ้าน เพราะจุดจอดรถไม่มีรั้วที่แข็งแรง มีเพียงรั้วกันวัว โดยปกติจะจอดรถไว้บริเวณนอกบ้านแบบโล่งๆ และเป็นรถน้ำมัน ไม่ใช่รถพลังงานไฟฟ้า จึงกลายเป็นเชื้อไฟ
@@ อีโอดียัน 2 เหตุเหมือนกัน ใช้เทคนิคติดระเบิดบังตา-อำพราง
เจ้าหน้าที่ชุดอีโอดีนายหนึ่ง เปิดเผยว่า คนร้ายที่ก่อเหตุทั้ง 2 จุด ใช้ระเบิดแสวงเครื่องไม่ใหญ่หรือหนักมาก อยู่ที่ประมาณ 2 กิโลกรัม ไม่ใส่เศษสะเก็ดระเบิด และจุดระเบิดด้วยรีโมทคอนโทรล
โดยเหตุที่ อ.ศรีสาคร นำระเบิดไปผูกไว้กับแชสซีใกล้ซุ้มล้อบังโคลนด้านซ้าย ส่วนเหตุที่ อ.ยี่งอ นำระเบิดไปผูกหรือแปะติดไว้บริเวณใต้ท้องรถใกล้กับถังน้ำมันเชื้อเพลิง โดยจุดที่คนร้ายติดระเบิดมากับรถทั้ง 2 เหตุ ถ้าตรวจสอบตามปกติที่ใช้กระจกมองผ่านไปยังใต้รถ เจ้าหน้าที่ผู้ตรวจสอบจะมองไม่เห็นวัตถุระเบิด เพราะติดบังตาเอาไว้
“การก่อเหตุของคนร้ายในครั้งนี้ คนร้ายจะใช้วิธีเมื่อเจ้าของรถยนต์จอดทิ้งไว้ จะแอบนำระเบิดไปผูกหรือแปะไว้ ซึ่งเชื่อว่าเจ้าของรถยนต์ไม่สามารถทราบได้ว่าตนเองถูกปองร้าย แต่โชคดีที่เจ้าของรถไม่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต” เจ้าหน้าที่อีโอดี ระบุ
—————————————————————————————————————————
ที่มา : สำนักข่าวอิศรา / วันที่เผยแพร่ 5 กุมภาพันธ์ 2568
Link : https://www.isranews.org/article/south-news/south-slide/135424-bombnaracar.html