ดุลยภาพดุลยพินิจ : บันได 4 ขั้น ของการพัฒนาระดับจังหวัด
ท่านผู้อ่านอยากทราบไหมคะว่า จังหวัดของท่านนอกจาก กทม. มีการพัฒนาอยู่ในระดับไหน ดัชนีที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้ได้รับการสนับสนุนการวิจัยจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
ดัชนีจังหวัดภิวัตน์เป็นดัชนีที่มุ่งสร้างแรงจูงใจให้จังหวัดพัฒนาตัวเอง ดังนั้นดัชนีจะต้องฉายภาพที่เข้าใจง่าย รับรู้ง่าย และสอดคล้อง (อย่างน้อยในระดับหนึ่ง) กับประสบการณ์การรับรู้เชิงประจักษ์ด้วยประสาททั้ง 5 ของประชาชนส่วนใหญ่ ดังนั้น จะเริ่มต้นด้วยดัชนีย่อยซึ่งมีองค์ประกอบของความสำเร็จทางเศรษฐกิจ สูงเพราะเห็นและรับรู้ง่าย เช่น ความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและความมั่นคง ทำให้เกิดความเข้าใจเบื้องต้นแล้วจึงตามมาด้วยดัชนีย่อยด้านความยั่งยืนซึ่งประชาชนมีความสนใจมากก็จริงแต่รับรู้ช้าหรือน้อยกว่าแต่รวมปัจจัย เช่น สังคมปลอดภัย และคุณภาพสิ่งแวดล้อม (ยกเว้นในกรณีที่เลวร้ายจริงๆ) และในขั้นตอนสุดท้ายถึงจะรวมเสาหลักสุดท้ายที่ประชาชนไม่ค่อยรับรู้มากนักที่แสดงถึงความเสี่ยงประเภทต่างๆ และความสามารถในการรับมือ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่สังเกตได้ยาก ดังนั้น ในการนำเสนอข้อมูลต่อไปนี้จะเริ่มด้วย เสาหลักที่ว่าด้วยความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ แล้วจึงไปจบท้ายที่ดัชนีจังหวัดภิวัตน์ที่รวมปัจจัยความเสี่ยงและการรับมือ (ภาพที่ 1)
ในการศึกษาเบื้องต้นของมูลนิธิสถาบันฯ เริ่มต้นที่ดัชนีย่อยด้านความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจของ 76 จังหวัด (ยกเว้นกรุงเทพมหานคร) ก็เป็นไปตามความคาดหมาย คือ 3 จังหวัดแรก ได้แก่ ระยอง ชลบุรี และสมุทรปราการ จังหวัดที่มีความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจเหล่านี้มักจะเป็นจังหวัดที่อยู่ในภาคกลาง เป็นจังหวัดที่มีสัดส่วนกิจกรรมทางอุตสาหกรรมสูง และมีขีดความสามารถทางเศรษฐกิจของ อบจ.สูง
จังหวัดที่ อบจ.ได้รับงบประมาณมากที่สุด 3 จังหวัดแรก คือ นครราชสีมา (25,061 ล้านบาท) รองลงมาคือจังหวัดชลบุรี (21,295 ล้านบาท) และสมุทรปราการ (18,868 ล้านบาท) เมื่อเห็นตัวเลขนี้เราก็พอเข้าใจว่าทำไมการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ที่ผ่านมาถึงแข่งขันกันอย่างดุเดือด
ดัชนีระดับการพัฒนาทางเศรษฐกิจนี้ ประกอบไปด้วย 1) เสาหลักแรกคือความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ (มีตัวชี้วัด 3 ตัวคือ ขนาดของเศรษฐกิจในราคาปัจจุบัน รายได้ต่อหัวของประชากร และขีดความสามารถทางเศรษฐกิจของ อบจ.) มาบูรณาการกับ 2) เสาหลักความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ซึ่งประกอบไปด้วย 4 ตัวชี้วัด (ได้แก่ ความเหลื่อมล้ำของรายได้ อัตราส่วนหนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ การ กระจายตัวของ GPP)
ลำดับตำแหน่งของระดับการพัฒนาทางเศรษฐกิจของจังหวัดต่างๆ จะเปลี่ยนไป โดยที่ชลบุรีสลับขึ้นมาเป็นลำดับที่ 1 และระยองลงไปเป็นลำดับที่ 3 ทั้งนี้ระยองมีความมั่นคงทางเศรษฐกิจต่ำกว่า เนื่องจากการกระจายตัวและความหลากหลายของการจ้างงาน ทำให้ GPP ของระยองค่อนข้างกระจุกของอุตสาหกรรมมากกว่าของชลบุรี เพราะในจังหวัดชลบุรีมีอุตสาหกรรมการผลิตที่หลากหลาย มีขนาดของธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ จังหวัดที่เบียดขึ้นมาได้ใน 10 ลำดับแรกของระดับดัชนีการพัฒนาเศรษฐกิจ คือ นนทบุรี ปทุมธานี และสงขลา แสดงว่ามีความยืดหยุ่นเชิงโครงสร้างเศรษฐกิจดีกว่าจังหวัดใหญ่อื่นๆ
ถัดมาคือการพัฒนาดัชนีย่อยด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนและดัชนีจังหวัดภิวัตน์ ดัชนีการพัฒนาที่ยั่งยืนแสดงถึงผลของการพัฒนาทางเศรษฐกิจบวกสังคมและสิ่งแวดล้อม ส่วนดัชนีจังหวัดภิวัตน์เป็นดัชนีที่ได้รวมเอาความเสี่ยงและความความสามารถในการรับมือกับความเสี่ยงโดยบูรณาการกับดัชนีด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน
จังหวัดที่มีลำดับสูงในลำดับดัชนีจังหวัดภิวัตน์รอบด้าน และไม่มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งมากจากดัชนีเศรษฐกิจนัก กล่าวคือ มีความเสถียรสูง ได้แก่ ชลบุรี นครราชสีมา ขอนแก่น เชียงใหม่ และอุดรธานี ที่ตกชั้นไปเลยก็คือจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งมีการพัฒนาทางเศรษฐกิจเป็นลำดับที่ 2 ได้ลำดับการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ลำดับ 8 แต่เมื่อมาพิจารณาดัชนีจังหวัดภิวัตน์ ซึ่งรวมความเสี่ยงและการรับมือความเสี่ยง สมุทรปราการตกไปเป็นลำดับที่ 16
นอกจากนี้ ยังมีจังหวัดที่มีลำดับสูงในด้านความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ แต่มีดัชนีด้านความยั่งยืนและจังหวัดภิวัตน์ที่ค่อนข้างต่ำลงมาก ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเคยอยู่ใน 10 ลำดับแรกของการพัฒนา
ทางเศรษฐกิจตกไปอยู่ในลำดับที่ 18 ของดัชนีความพัฒนาที่ยั่งยืน และไม่ติด 20 ลำดับแรกของดัชนีจังหวัดภิวัตน์ เพราะเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงแต่มีความสามารถในการรับมือต่ำ นอกจากนั้น ก็ยังมีจังหวัดมีลำดับสูงในด้านความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ แต่มีความเปราะบางในโครงสร้างเชิงเศรษฐกิจกล่าวคือ สมุทรสาครอยู่ในลำดับที่ 8 ของความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ และตกเป็นลำดับที่ 11 ในด้านความยั่งยืน และไม่ติด 20 ลำดับแรกเลยของดัชนีจังหวัดภิวัตน์ ส่วนฉะเชิงเทราติดลำดับที่ 6 ของความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ แต่ตกลงมาเป็นลำดับที่ 16 ของความยั่งยืน และไปติดอันดับที่ 30 ของดัชนีจังหวัดภิวัตน์
จังหวัดที่น่าสนใจและไม่ได้อยู่ใน 20 ลำดับแรกได้แก่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งไม่ติดอันดับ 20 จังหวัดแรก แต่ไปติดลำดับที่ 21 เพราะเป็นจังหวัดที่มีขนาดของเศรษฐกิจเล็ก มีประชากรน้อย ถึงแม้ภูเก็ตจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวหลายแสนล้านบาทในปีปกติ เป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพมหานคร แต่เมื่อปรับรายได้เป็นมูลค่าเพิ่มแล้ว เพื่อให้เป็น GPP จังหวัด จะมีมูลค่าเพิ่มต่ำลงมาก ทำให้ชลบุรีมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่กว่าภูเก็ตถึงเกือบ 8 เท่า ทั้งนี้เพราะเศรษฐกิจของภูเก็ตเป็นเศรษฐกิจศาลพระภูมิ คือพึ่งพาอุตสาหกรรมการบริการมากเกินไปจนมีความเปราะบางเชิงโครงสร้าง ดังนั้น จังหวัดใหญ่ๆ ที่ดูเหมือนจะมีความเข้มแข็งมากในด้านเศรษฐกิจ จะมีปัญหาด้านการรับมือกับความเสี่ยง
อบจ.ใดสนใจข้อมูลข้างบนสามารถติดตามรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ https://khonthai4-0.net/
———————————————————————————————————————————————-
ที่มา : สำนักข่าวมติชน / วันที่เผยแพร่ 14 มีนาคม 2568
Link : https://www.matichon.co.th/columnists/news_5091382