แผ่นดินไหว 8.2 ใน ‘เมียนมา’ เป็นครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 100 ปี และหากเทียบกับทั่วโลกจะรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2566 สะพาน-บ้านเรือนถล่มยับ รัฐบาลประกาศ ‘ภาวะฉุกเฉิน’
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในเมียนมาเมื่อเวลาประมาณ 13.21 น. วันนี้ (28 มี.ค.68) นับเป็นเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดที่เคยขึ้นในรอบ 100 ปีของเมียนมา และสร้างแรงสั่นสะเทือนรับรู้ไปไกลถึงประเทศเพื่อนบ้านหลายแห่ง แม้แต่ “เวียดนาม” ที่ไม่ได้มีพรมแดนติดกัน ก็ทำให้อาคารสั่นไหวจนต้องมีการอพยพคนออกจากอาคาร ส่วนใน “ประเทศไทย” ก็ถึงขั้นทำให้มีตึกถล่มอย่างน้อย 1 แห่งในกรุงเทพฯ
ทางกรมอุตุนิยมวิทยาของไทยได้อัปเดตประกาศเรื่องแผ่นดินไหวที่ประเทศเมียนมาว่า มีขนาด 8.2 ความลึก 10 กิโลเมตร แต่สื่อต่างประเทศหลายสำนักยังคงใช้ข้อมูลของสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ (USGS) ว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้มีขนาด 7.7 และลึก 16 กิโลเมตร โดยอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองสกายน์ (Sagaing) และใกล้กับเมืองมัณฑะเลย์ (Mandalay)
อย่างไรก็ดี บลูมเบิร์กรายงานอ้างข้อมูลที่รวบรวมจาก USGS ว่าเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ “นับเป็นหนึ่งในครั้งที่รุนแรงที่สุดในโลก” ตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นมา และยังมีอาฟเตอร์ช็อกลูกที่สองขนาดความรุนแรงถึง 6.4 ตามมาในพื้นที่เดียวกัน
นอกจากนี้ หากเทียบเฉพาะแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในเมียนมาแล้ว จะถือเป็น “เหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 100 ปี” หรือนับตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 90 อีกด้วย
- ‘สะพาน-บ้านเรือน’ พังถล่มยับ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานคลิปวิดีโอแสดงให้เห็น “สะพานเอวา” (Ava Bridge) ข้ามแม่น้ำอิระวดีในเมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับสองของเมียนมา พังถล่มลงมาบางส่วน วิดีโอที่แชร์กันบนโซเชียลมีเดียแสดงให้เห็นว่าสะพานถล่มลงไปในแม่น้ำขณะที่ควัน และฝุ่นฟุ้งกระจาย
รอยเตอร์สามารถยืนยันตำแหน่งของวิดีโอได้จากเครื่องหมายทางภูมิศาสตร์หลายจุดในวิดีโอ ซึ่งตรงกับไฟล์ และภาพถ่ายดาวเทียมของพื้นที่ดังกล่าว
นอกจากสะพานในมัณฑะเลย์แล้ว ยังมีคลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นวัดที่ถล่มในเมืองมัณฑะเลย์เช่นกัน โดยมีพระสงฆ์เดินผ่านไปในคลิป
ด้านเว็บไซต์สำนักข่าวเมียนมา Mizzima รายงานว่าผู้สื่อข่าวจาก AFP เปิดเผยว่าแรงสั่นสะเทือนทำให้ชิ้นส่วนเพดานอาคารหลายแห่งในกรุงเนปิดอว์ เมืองหลวงของเมียนมาพังหรือถล่มลงมา และถนนก็เสียหายเช่นกัน
ทีมนักข่าวของ AFP อยู่ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติกรุงเนปิดอว์เมื่อเกิดแผ่นดินไหว และอาคารก็เริ่มสั่นไหว ชิ้นส่วนเพดานร่วงหล่น และผนังแตกร้าว ขณะที่เจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบวิ่งออกไปด้านนอก บางคนตัวสั่น และร้องไห้ บางคนคว้าโทรศัพท์มือถือเพื่อพยายามติดต่อกับคนที่คนรัก
ด้านเว็บไซต์ Eleven Media Group รายงานอ้างข้อมูลจากมูลนิธิ Save The Trees ว่า เหตุแผ่นดินไหวทำให้วัด Wailuwun ในเมืองตองอู พังถล่มลงมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็กไร้บ้าน 5 ราย และยังมีเด็กอีกกว่า 20 คน ที่อาจติดอยู่ในโรงเรียนที่พังถล่มลงมา
ทั้งนี้แผ่นดินไหวเกิดขึ้นค่อนข้างบ่อยในเมียนมา โดยมีแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.0 มากกว่า 6 ครั้งเกิดขึ้นระหว่างปี 1930 – 1956 ใกล้กับ “รอยเลื่อนสกายน์” (Sagaing Fault) หรือรอยเลื่อนมีพลังซึ่งทอดยาวจากเหนือจรดใต้ผ่านใจกลางประเทศ ตามข้อมูลของ USGS
ก่อนหน้านี้เคยเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 6.8 ขึ้นที่เมือง “พุกาม” เมืองหลวงเก่าในเมียนมา ทางตอนกลาง คร่าชีวิตผู้คนไป 3 รายในปี 2016 ส่งผลให้ยอดแหลมของอาคารพังทลาย และกำแพงวัดซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวพังทลายด้วย
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า การพัฒนาเมืองอย่างรวดเร็วในเมืองต่างๆ ของเมียนมา ประกอบกับโครงสร้างพื้นฐานที่ทรุดโทรม และการวางผังเมืองที่ย่ำแย่ ทำให้พื้นที่ ที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดของประเทศเสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหว และภัยพิบัติอื่นๆ และเมียนมาก็มีระบบการแพทย์ที่ตึงตัวอยู่แล้ว โดยเฉพาะในรัฐชนบท
- รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉิน
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า กองทัพเมียนมาได้ประกาศ “ภาวะฉุกเฉิน” แล้วในหลายภูมิภาคทั่วประเทศ โดยได้ออกแถลงการณ์ผ่านแอปพลิเคชันส่งข้อความ Telegram ว่า “รัฐบาลจะสอบสวนสถานการณ์โดยเร็ว และดำเนินการกู้ภัย พร้อมให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม”
- ทำไมถึงมีข้อมูลในเมียนมาน้อย
รอยเตอร์สระบุว่ายังไม่มีภาพหรือฟุตเทจใดๆ ของความเสียหายที่เกิดขึ้นภายในเมียนมา และข้อมูลจากทางการก็มีจำกัดเพียงเล็กน้อย
ข้อมูลในเมียนมาถูกควบคุมอย่างเข้มงวดตั้งแต่กองทัพยึดอำนาจจากการรัฐ ประหารในปี 2564 โดยนักข่าวหลายสิบคนถูกจับกุมโดยคณะรัฐประหาร และมีการจำกัดการดำเนินงานของสื่ออิสระในท้องถิ่น และต่างประเทศ
บริการอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ชนบทมีจำกัด และสื่อ และองค์กรระหว่างประเทศมักพึ่งพาภาพ ฟุตเทจ และบัญชีที่แชร์บนโซเชียลมีเดีย ซึ่งยังมีความท้าทายในการตรวจสอบความถูกต้อง
พิสูจน์อักษร….สุรีย์ ศิลาวงษ์
————————————————————————————————–
ที่มา :กรุงเทพธุรกิจ / วันที่เผยแพร่ 28 มี.ค.2568
Link : https://www.bangkokbiznews.com/world/1173329