สรุป 8 สาระสำคัญ ‘หวัง อี้’ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงสื่อโลกครบ จบทุกประเด็นร้อน ชี้ “จีน” คือพลังแห่งความมั่นคงของโลก พร้อมตอบโต้มาตรการของสหรัฐอย่างเด็ดขาด
หวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน ชู “จีน” เป็นพลังแห่งความมั่นคงของโลก ยันรัฐบาลปักกิ่งจะสู้เพื่อสันติภาพ พร้อมปกป้องผลประโยชน์ของชาติ
นายหวังให้สัมภาษณ์กับสื่อทั่วโลก เป็นเวลานานถึง 90 นาที ในระหว่างแถลงข่าวนอกการประชุมสองสภา โดยได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ที่ยืดหยุ่นกับรัสเซีย และเตือนสหรัฐว่า ปักกิ่งจะตอบโต้การโจมตีของวอชิงตันอย่างเด็ดขาดเพื่อเดินหน้าพัฒนาเศรษฐกิจและประเทศของตน
ปีนี้หวังอี้ ตอบคำถามสื่อมากถึง 23 คำถาม จากปีก่อนที่ตอบ 21 คำถาม สำนักข่าวเซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์สรุปประเด็นสำคัญไว้ดังนี้
1.พร้อมตอบโต้สหรัฐเด็ดขาด
รมว.กต. จีน กล่าวถึงสหรัฐอยู่หลายครั้ง และได้พูดร้องเรียนเกี่ยวกับการปราบปรามการพัฒนาของจีนในหลายโอกาส
เมื่อสื่อถามว่าจีนจะมีส่วนร่วมกับรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อย่างไร นายหวังตอบว่า ความเคารพซึ่งกันและกันเป็นพื้นฐานของการรักษาความสัมพันธ์ และไม่ควรมีประเทศใดคิดจะปราบปรามจีนพร้อมๆ ไปกับการรักษาสัมพันธ์กับจีน
รมว.หวัง กล่าวต่อว่า การกระทำแบบเผชิญหน้าไม่เป็นผลดีต่อความมั่นคงด้านความสัมพันธ์ หรือการสร้างความเคารพซึ่งกันและกัน
“หากสหรัฐยังคงสร้างขีดจำกัดกับจีน เราจะตอบโต้อย่างเด็ดขาด” หวังอี้ กล่าว
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีต่างประเทศของจีนได้เสนอมุมมองประนีประนอมอยู่บ้าง โดยบอกว่า ความร่วมมือระหว่างสหรัฐและจีนอาจนำไปสู่ผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน และสร้างความเป็นไปได้ที่สองเศรษฐกิจคู่แข่งจะกลายเป็นพันธมิตรและสร้างความสำเร็จไปด้วยกัน
2.จีนคือพลังแห่งความมั่นคงโลก
นายหวังเผยว่า นโยบายการต่างประเทศของจีนเป็นที่ยอมรับในประชาคมระหว่างประเทศ และบทบาทในการแก้ไขปัญหาความท้าทายระดับโลกของจีน ก็เป็นที่ต้องการและได้รับการชื่นชมจากหลายประเทศทั่วโลก
“เราจะมอบความมั่นคงให้กับโลกที่ไร้ความมั่นคงนี้ เราจะเป็นพลังที่ยุติธรรมและชอบธรรมเพื่อสันติภาพและความมั่นคงของโลก” รมว.กต. กล่าว
3.ประเทศโลกใต้ต้องสามัคคี
หวัง อี้ กล่าวถึง ประเทศโลกใต้ หลายประเทศว่าเป็นกำลังสำคัญในการรักษาสันติภาพโลก ขับเคลื่อนการพัฒนาโลก และปรับปรุงธรรมาภิบาลโลก และย้ำว่า ประเทศกำลังพัฒนาคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 40% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) โลก
รัฐมนตรีหวังบอกด้วยว่า ประเทศโลกใต้เป็นกุญแจสำคัญที่จะนำความมั่นคงมาสู่โลก และทำให้โลกดีขึ้น พร้อมเรียกร้องให้กลุ่มเศรษฐกิจเกิดใหม่มีความสามัคคีและร่วมมือกันมากขึ้น
“ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนไปอย่างไร หัวใจของเราจะอยู่เคียงข้างประเทศโลกใต้ และความสัมพันธ์ของพวกเราจะเติบโตอย่างลึกซึ้งมากขึ้นในโลกใต้” หวังกล่าว
4.ย้ำจุดยืนเป็นกลางในสงครามยูเครน
สำหรับประเด็นความสัมพันธ์ รัสเซีย-จีน นายหวังยืนยันความสัมพันธ์สองประเทศแน่นแฟ้น และโมเมนตัมของความสัมพันธ์ระหว่างกันจะไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าภูมิทัศน์ระหว่างประเทศพัฒนาไปในรูปแบบใดก็ตาม
รมว.กต.บอกด้วยว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและรัสเซียเป็นพลังที่สร้างความมั่นคงให้กับโลก
ส่วนจุดยืนต่อ สงครามยูเครน นายหวังกล่าวว่า จีนมีจุดยืนที่เป็นกลางและย้ำว่า รัฐบาลสนับสนุนแนวทางสันติภาพมากตั้งแต่ความขัดแย้งปะทุขึ้นเมื่อสามปีก่อน ยืนยันจีนจะทำงานร่วมกับประชาคมระหว่างประเทศเพื่อแสดงบทบาทเชิงสร้างสรรค์ในการแก้ไขวิกฤติ แต่รัฐมนตรีไม่ได้กล่าวถึงการเรียกร้องของชาติยุโรป (รวมถึงยูเครน) ที่ต้องการมีส่วนร่วมในการเจรจายุติสงคราม
5.ยันปกป้องอธิปไตยในทะเลจีนใต้
รมว.หวัง กล่าวด้วยถ้อยคำที่รุนแรงเมื่อพูดถึงทะเลจีนใต้ โดยชี้ว่าประเทศนอกอาณาเขตอยู่เบื้องหลังความขัดแย้งทางทะเลระหว่าง ฟิลิปปินส์กับจีน
แถลงดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างจีนและฟิลิปปินส์เกี่ยวกับพื้นที่ น่านน้ำระหว่างประเทศ ซึ่งจีนอ้างสิทธิ์เหนือพื้นที่เกือบทั้งหมด นอกจากฟิลิปปินส์แล้วยังมีอีกหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่อ้างสิทธิ์ในน่านน้ำทะเลจีนใต้เช่นกัน
หวังกล่าวว่าจีนจะปกป้องอธิปไตยเหนือดินแดนตนเองอย่างมั่นคง แต่ก็ยืนยันว่าสถานการณ์ในทะเลจีนใต้ยังคงมีเสถียรภาพ จากความพยายามร่วมกันของจีนและอาเซียน
6.ไม่สนับสนุนทรัมป์ยึดกาซา
ในเรื่องความขัดแย้งในตะวันออกกลาง รัฐมนตรีต่างประเทศจีนปฏิเสธข้อเสนอของทรัมป์ที่ต้องการเข้าครอบครองกาซา โดยบอกว่า กาซาเป็นของชาวปาเลสไตน์ และการเปลี่ยนแปลงสถานะของพื้นที่ด้วยกำลัง จะไม่นำไปสู่สันติภาพ แต่จะสร้างความปั่นป่วนครั้งใหม่
นายหวังให้คำมั่นว่า จีนจะสนับสนุนแผนสันติภาพของอียิปต์ และประเทศอาหรับชาติอื่นๆ พร้อมสนับสนุนแนวทางสองรัฐในการแก้ไขความขัดแย้งด้วย
7.อียูควรกระชับสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์กับจีน
เมื่อสื่อถามว่าจีนมีมุมมองต่อความสัมพันธิของตนกับสหภาพยุโรป (อียู) อย่างไร ท่ามกลางความตึงเครียดทางเศรษฐกิจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า รมว.กต.ตอบว่า จีนเชื่อว่าทั้งสองฝ่ายมี “ศักยภาพและปัญญา” ในการแก้ไขปัญหาผ่านการปรึกษาหารือ
หวังอี้ แนะว่า จีนและอียูควรกระชับความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์และสร้างความไว้ใจซึ่งกันและกัน ซึ่งปักกิ่งเชื่อว่ายุโรปสามารถเป็นพันธมิตรที่น่าเชื่อถือของจีนได้
ทั้งนี้ จีนและอียูเตรียมฉลองความสัมพันธ์ครบรอบ 50 ปี ในปีนี้ด้วย
8.ไต้หวันไม่ใช่ประเทศ
สำหรับประเด็นไต้หวัน รัฐมนตรีหวังยังคงยืนยันคำเดิมว่า ไต้หวันไม่ใช่เป็นประเทศ
“ไม่ได้เป็นในอดีต และจะไม่มีทางเป็นในอนาคต” หวัง กล่าว และย้ำว่า การสนับสนุนอธิปไตยไต้หวันจะเป็นอันตรายต่อเสถียรภาพ ช่องแคบไต้หวัน โดยบอกว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีนที่ต้องกลับมารวมกันอีกครั้ง และอาจต้องใช้กำลังหากจำเป็น
อ้างอิง: South China Morning Post
———————————————————————————————————————–
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ / วันที่เผยแพร่ 7 มีนาคม 2568
Link : https://www.bangkokbiznews.com/world/1170024