เอกสารลับ กกต. เรียก “วีระเดช ภู่พิสิฐ” นายก อบจ.ลำพูน รับทราบข้อกล่าวหา ปมโพสต์หาเสียงส่อขัดกฎหมาย เจ้าตัวแจงข้อกล่าวหาแล้ว บอก มีคนร้อง กกต. ก็ต้องทำหน้าที่ และยังเชื่อในความยุติธรรม ถาม นี่เอกสารลับแล้วเหรอ
วันที่ 20 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีการเปิดเผยเอกสารลับของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดลำพูน เชิญ นายวีระเดช ภู่พิสิฐ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน มารับทราบข้อกล่าวหาและให้ถ้อยคำชี้แจงข้อกล่าวหา เอกสารระบุว่า ด้วยในการเลือกตั้งนายก อบจ.ลำพูน วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 มีการร้องเรียนกล่าวหาว่า นายวีระเดช ซึ่งเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.ลำพูน หมายเลข 1 พรรคประชาชน หาเสียงเลือกตั้งโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่เป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ถูกต้องตามกฎหมาย หรือระเบียบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง และโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งโดยการใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครใด เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครผู้อื่น ให้งดเว้นการลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครหรือการชักชวนให้ไปลงคะแนนไม่เลือกผู้ใดเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ตามมาตรา 65 วรรคหนึ่ง (5) มาตรา 66 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 ประกอบระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2563 นั้น
คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนจังหวัดลำพูน จึงขอส่งบันทึกแจ้งข้อกล่าวหามาเพื่อให้ท่านรับทราบถึงการกล่าวหา และมีโอกาสให้ถ้อยคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาและแสดงพยานหลักฐาน ตามมาตรา 43 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560 ประกอบข้อ 54 ของคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2566 จึงขอให้ท่านมาให้ถ้อยคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาและนำพยานบุคคลหรือพยานเอกสารมาแสดงต่อคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนจังหวัดลำพูน ในวันพฤหัสบดีที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดลำพูน ชั้น 3 ทั้งนี้ หากไม่มาตามวันเวลาและไม่แจ้งเหตุขัดข้อง จะถือว่าสละสิทธิในการชี้แจงแสดงหลักฐานหรือให้ถ้อยคำแก้ข้อกล่าวหา
อนึ่ง ท่านมีสิทธิที่จะให้ถ้อยคำหรือแสดงพยานหลักฐาน และมีสิทธิที่จะให้ทนายความหรือบุคคลซึ่งไว้วางใจเข้าร่วมรับฟังการชี้แจงได้ และกรณีที่ไม่สามารถนำบุคคลดังกล่าวเข้ามาร่วมรับฟังการชี้แจง ไม่อาจนำมาเป็นเหตุขอเลื่อนการชี้แจงได้ จึงเรียนมาเพื่อทราบและมาให้ถ้อยคำตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าวต่อไป
ส่วนเอกสารอีกฉบับ เป็นบันทึกการแจ้งและรับทราบข้อกล่าวหา นายวีระเดช ลงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 มีเนื้อหาว่า ด้วยในการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ได้มีการร้องเรียนว่า นายวีระเดช กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืน มาตรา 65 วรรคหนึ่ง (5) มาตรา 66 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 ประกอบระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2563 จึงจัดทำบันทึกการแจ้งและรับทราบข้อกล่าวหา ตามมาตรา 43 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560 และข้อ 54 แห่งระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2566 เพื่อแจ้งให้ท่านทราบ ดังนี้
ท่านซึ่งเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.ลำพูน หมายเลข 1 มีพฤติการณ์ที่เชื่อได้ว่า เป็นผู้กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งโดยดำเนินการหรือยินยอมให้มีการดำเนินการหาเสียงที่มีลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนด และโฆษณาหาเสียงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ อันเป็นการใส่ร้ายด้วยความเท็จหรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครใด เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่น ให้งดเว้นการลงคะแนนให้แก่ผู้สมัคร หรือชักชวนให้ไปลงคะแนนไม่เลือกผู้ใดเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น จากการกระทำดังกล่าวซึ่งมีประเด็นข้อกล่าวหาดังนี้
ข้อกล่าวหาที่ 1 หาเสียงเลือกตั้งโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยมิได้แจ้งวิธีการ รายละเอียด ช่องทาง ระยะเวลาในการหาเสียงเลือกตั้งโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องตามแบบท้ายระเบียบ ให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดทราบก่อนดำเนินการหาเสียงเลือกตั้งตามข้อ 10 ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2563 อันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ถูกต้องตามมาตรา 66 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566
ข้อกล่าวหาที่ 2 เมื่อวันพุธที่ 29 มกราคม 2568 เวลา 09.56 น. ท่านได้โพสต์ในเฟซบุ๊กชื่อ “Heng Phuphisit” มีข้อความว่า “มันกระตุ้นเศรษฐกิจ ดีจริงๆ การเลือกตั้ง Ep ต่อไป #นโยบาย อบจ.ลำพูน นโยบายคิดยาก ก๊อปง่าย ไม่เห็นเคยทำ” โพสต์โดย นายวีระเดช ภู่พิสิฐ ตามวันเวลาที่กำหนด และข้อความว่า “อสม. ลำพูนมีจำนวน 11,511*350 บาท 4,028,850 บาท ค่าใช้จ่ายในการจัดปราศรัย” การกระทำดังกล่าวจึงเป็นการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งโดยการใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครใด เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครผู้อื่น ให้งดเว้นการลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครหรือการชักชวนให้ไปลงคะแนนไม่เลือกผู้ใดเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ตามมาตรา 65 วรรคหนึ่ง (5) แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566
ตามประเด็นและข้อเท็จจริงที่ได้จากการไต่สวนดังกล่าว นายวีระเดช ได้กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยดำเนินการหรือยินยอมให้มีการดำเนินการหาเสียงที่มีลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งที่ กกต. กำหนดตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2563 อันเป็นการฝ่าฝืน มาตรา 66 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 และในการโฆษณาหาเสียงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าว เป็นการใส่ร้ายด้วยความเท็จหรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครใด เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่น ให้งดเว้นการลงคะแนนให้แก่ผู้สมัคร หรือชักชวนให้ไปลงคะแนนไม่เลือกผู้ใดเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 65 วรรคหนึ่ง (5) แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566
ตามข้อกล่าวหาข้างต้น ท่านมีสิทธิที่จะให้หรือไม่ให้ถ้อยคำหรือมีหนังสือชี้แจงแสดงพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหาภายในเวลาที่กำหนด และมีสิทธิที่จะให้ทนายความหรือบุคคลซึ่งไว้วางใจเข้าร่วมฟังการชี้แจงแสดงหลักฐานแก้ข้อกล่าวหาได้ ลงนามเอกสารโดย นายภูมิพันธ์ ชัยเชื้อ ประธานกรรมการสืบสวนและไต่สวนจังหวัดลำพูน
ล่าสุดเมื่อเวลา 18.31 น. ของวันที่ 20 มีนาคม 2568 นายวีระเดช ได้ชี้แจงสั้นๆ ในกรณีดังกล่าวผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “อย่าไปว่า กกต เลยครับ #รถทัวร์จอดผิดลาน เพราะมีคนร้อง เขาก็ต้องทำหน้าที่ ผมมีหน้าที่ไปชี้แจงข้อกล่าวหา ตามนั้น ผมยังเชื่อในความยุติธรรม มันไม่ยอมจบง่ายๆ หรอก การแข่งขันจบ ก็แล้วแต่สปิริตแต่ละคน ขอบคุณทุกกำลังใจ #ก็นี่แหละครับการเมือง #นี่เอกสารลับแล้วเหรอ”
———————————————————————————————————————————————-
ที่มา : สำนักข่าวไทยรัฐออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 20 มีนาคม 2568
Link : https://www.thairath.co.th/news/politic/2848339?