คาร์บอมบ์ที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก ประกอบใส่ถังแก๊ส น้ำหนัก 100 กิโลฯ ระเบิดทำงานสมบูรณ์ ฉีกรถเป็นชิ้นๆ กระจายวงกว้างรัศมี 100 เมตร พบรถเก๋งที่ใช้ซุกบึ้ม คนร้ายสั่งซื้อทางออนไลน์ แกะรอยถึงคนโอนลอยได้แล้ว ส่วนรถกระบะที่ขนกลุ่มติดอาวุธไปยิงถล่ม ถูกจอดทิ้งในสวนปาล์มสุไหงปาดี ด้านนายกฯ – ผบ.ทบ. ประสานเสียงแสดงความเสียใจ ลุยตรวจการบ้าน อุดช่องโหว่
ความคืบหน้าเหตุคนร้ายใช้อาวุธสงคราม และใช้คาร์บอมบ์โจมตีที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อค่ำวันที่ 8 มี.ค.68 ทำให้เจ้าหน้าที่ อส.เสียชีวิต 2 นาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นเจ้าหน้าที่และชาวบ้านอีกกว่า 10 รายนั้น
เวลา 10.30 น.ของวันอาทิตย์ที่ 9 มี.ค.68 พ.ต.อ.สุธน สุขวิเศษ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส (รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (อีโอดี) เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส ได้เดินทางไปตรวจจุดเกิดเหตุอย่างละเอียด
จากการตรวจสอบพบว่า รถยนต์เก๋งที่ใช้เป็นพาหนะในการประกอบระเบิดเป็น “คาร์บอมบ์” เป็นรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ ยังไม่ทราบหมายเลขทะเบียนที่แท้จริง ซึ่งประกอบระเบิดแสวงเครื่องบรรจุถังแก๊สหุงต้มน้ำหนัก 100 กิโลกรัม จุดระเบิดด้วยวิทยุสื่อสาร ซึ่งการระเบิดที่เกิดขึ้นถือว่าสมบูรณ์มาก ทำให้อานุภาพระเบิดรุนแรง รถเก๋งกลายเป็นซากเศษชิ้นส่วนกระเด็นไปไกลในรัศมีถึง 100 เมตร ทำให้หลายอาคารภายในที่ว่าการอำเภอได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง
@@ เก๋งคาร์บอมบ์ซื้อขายผ่านออนไลน์ – เจอปัคอัพะจอดทิ้งสวนปาล์ม
เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบรถยนต์เก๋งที่คนร้ายใช้ประกอบเป็นคาร์บอมบ์ พบว่า เป็นรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ ติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอม กต 9903 ปัตตานี มีการซื้อขายผ่านเฟซบุ๊ก มัดจำผ่านออนไลน์ และตรวจรับรถจ่ายเงินในพื้นที่ จ.สงขลา โดยเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้งขยายผลให้ถึงตัวผู้ซื้อ ซึ่งอาจสาวถึงกลุ่มคนร้าย
ส่วนรถกระบะที่คนร้ายใช้เป็นยานพาหนะ บรรทุกกลุ่มติดอาวุธมาก่อเหตุโจมตีที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก เป็นรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลังคนร้ายก่อเหตุแล้ว ได้นำรถไปจอดทิ้งไว้ภายในสวนปาล์ม ท้องที่ ต.ริโก๋ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการปิดกั้นพื้นที่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่หน่วยที่เกี่ยวข้องเข้าทำการตรวจสอบ โดยระมัดระวังการวางกับดักระเบิดเพื่อโจมตีซ้ำ
@@ บึ้มแยกอรกานต์ – อู่จรัญฯ เบียงเบนความสนใจ
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่อีโอดี ได้เข้าตรวจสอบบริเวณถนนเลียบทางรถไฟแยกอรกานต์ และบริเวณหน้าอู่จรัญ ถนนโต๊ะลือเบ ในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ซึ่งห่างจากที่ว่าการอำภอสุไหงโก-ลก ประมาณ 2-3 กิโลเมตร เป็นจุดที่คนร้ายวางถังแก๊สขนาดบรรจุ 5 กิโลกรัม จุดละ 1 ลูก น้ำหนักระเบิด 20 กิโลกรัม และได้เกิดระเบิดขึ้นในช่วงกลางคืนที่ผ่านมา
จากการตรวจสอบพบว่า คนร้ายได้จุดชนวนระเบิดด้วยวิทยุสื่อสารทั้ง 2 จุด เป็นลักษณะเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือและสนับสนุนกำลังไปยังที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก โดยเหตุระเบิดทั้ง 2 จุดไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากขณะเกิดระเบิด เจ้าหน้าที่ได้กันพื้นที่ไว้แล้ว
@@ บึ้มเสาไฟฟ้าตากใบ – สุไหงปาดี
ส่วนในพื้นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นอำเภอรอยต่อกับสุไหงโก-ลก เกิดระเบิดขึ้นช่วงเวลาประมาณ 04.00 น.ของวันอาทิตย์ที่ 9 มี.ค. คนร้ายนำระเบิดแสวงเครื่องไม่ทราบภาชนะบรรจุไปวางไว้ที่โคนเสาไฟฟ้าริมถนนสายสุไหงโก-ลก – ตากใบ ช่วงบริเวณบ้านซีโป ต.โฆษิต อ.ตากใบ จากนั้นได้จุดชนวนระเบิด แรงระเบิดทำให้เสาไฟฟ้าจำนวน 2 ต้นเอียง แต่ยังไม่หักโค่น
ส่วนพื้นที่ อ.สุไหงปาดี คนร้ายใช้ระเบิดแสวงเครื่องไม่ทราบภาชนะบรรจุและตัวจุดระเบิด ไปวางไว้บริเวณโคนเสาไฟฟ้าริมถนนสายสุไหงปาดี-เจาะไอร้อง ช่วงบ้านตลิ่งสูง หมู่ 1 ต.สุไหงปาดี ทำให้เสาไฟฟ้าทั้ง 2 ต้นหัก แต่ไม่โค่นล้มขวางถนน เนื่องจากมีสายไฟฟ้าต้นใกล้เคียงพยุงไว้
@@ คนเจ็บนอน รพ. 9 ราย อยู่ไอซียู 2
วันเดียวกันนี้ ว่าที่ร้อยตรีตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก เพื่อเยี่ยมอาการผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 9 ราย ส่วนที่เหลือแพทย์อนุญาตให้กลับไปรักษาตัวที่บ้าน รายชื่อผู้บาดเจ็บที่ยังพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ประกอบด้วย
1.นายสงกรานต์ ยูโซะ อายุ 19 ปี โดนสะเก็ดระเบิดที่ขาขวา มีอาการหน้ามืด ปวดศีรษะ
2.อส.มัสลัน อารง อายุ 32 ปี โดนสะเก็ดระเบิดที่ใบหน้า คอ แขน ขาช้าย แผลไหม้ระดับ 2
3.นางรัชนีวรรณ จุ้ยทอง อายุ 47 ปี โดนสะเก็ดระเบิดที่แขนขวา
4.นายจิรภัทร อาแวสือแม อายุ 18 ปี โดนสะเก็ดระเบิดที่แขนและขาซ้าย
5.อส.แวซูลกีฟลี วาจิ อายุ 34 มี มีบาดแผลฉีกขาดและมีแผลไฟไหม้ที่มือขวา
6.อส.มะดารี ตาเยะ อายุ 38 ปี มีอาการแน่นหน้าอก มือซ้ายมีแผลฉีกขาด
7.อส.ณรงค์ชัย รัดรึงสุนทรี อายุ 52 ปีโดนสะเก็ดระเบิดข้อศอกขวาบวมผิด
ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 2 ราย ยังคงนอนรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู คือ อส.ธวัชชัย ไชยศรี อายุ 42 ปี มีแผลไฟไหม้ที่ใบหน้า และบริเวณท้องได้รับแรงกระแทกจากระเบิด และ อส.อภิชัย บุตตะจีน อายุ 44 ปี มีแผลไหม้ระดับ 2 ที่ใบหน้า แขน และขาทั้ง 2 ข้าง ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ ผู้บาดเจ็บจำนวนหนึ่งเป็นเจ้าหน้าที่สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน หรือ อส. และยังมี อส.อีซูวัน บินมะมิง ถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา อส.กำธร วงศ์นคร ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา
@@ แม่ทัพ 4 บินด่วนโก-ลก สั่งเข้มยกระดับ รปภ.หน่วยราชการ
ด้าน พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้บินด่วนลงพื้นที่ อ.สุไหงโกลก โดยได้ไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาล พร้อมมอบกระเช้าดอกไม้เป็นกำลังใจ
จากนั้นแม่ทัพประชุมร่วม 3 ฝ่าย ทหาร ตำรวจ ปกครอง เพื่อติดตามสถานการณ์ โดยมี พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ผบช.ภ.9), ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส, ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน กองทัพเรือที่ 33 และผู้แทนหน่วยกำลังในพื้นที่เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง
ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งทบทวนแผนการปฏิบัติ โดยเน้นย้ำแผนรักษาความปลอดภัยเขตเมือง สถานที่ราชการเป็นสำคัญ เพราะจากพฤติการณ์ของกลุ่มผู้ก่อเหตุ พบว่ามีการวางแผนเตรียมการมาเป็นอย่างดี มีกองกำลังและอาวุธครบมือ ก่อเหตุอย่างอุกอาจ ไม่เกรงกลัวหรือคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชน แม้จะเป็นช่วงเดือนรอมฎอนอันประเสริฐของพี่น้องชาวไทยมุสลิมก็ตาม
แม่ทัพภาคที่ 4 ได้กำชับให้ผู้บังคับหน่วยถ่ายทอดคำสั่งให้ลงให้ถึงผู้ปฏิบัติ ให้มีการปรับแผนการปฏิบัติงาน ยกระดับให้มีความรัดกุม รอบคอบ ไม่ประมาท และเสริมการรักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการ และสิ่งสาธารณูปโภค จุดล่อแหลมต่างๆ รวมถึงการดูแลเส้นทางสายหลัก สายรอง และให้มีการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุอย่างสม่ำเสมอ ตลอดจนบูรณาการการทำงานร่วมกันกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และประสานกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมถึงเครือข่ายประชาชนช่วยสอดส่องดูแลเป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ เมื่อพบสิ่งผิดปกติให้รีบแจ้งกับเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองโดยด่วน เพื่อป้องกันความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
@@ นายกฯเตรียมตรวจการบ้านฝ่ายความมั่นคง
วันเดียวกัน ที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเดินทางกลับจากปฏิบัติภารกิจในเยอรมนีว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับผลกระทบ จากนี้ก็ต้องดำเนินการเยียวยากันต่อ พร้อมย้ำว่าการให้ความช่วยเหลือจะต้องทำอย่างเต็มที่
ส่วนมาตรการดูแลความปลอดภัยพื้นที่เพราะเป็นช่วงเดือนรอมฎอน นายกฯบอกว่า จะต้องพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่ามีแผนในการดูแลเรื่องนี้แค่ไหน เพราะการเพิ่มกำลังไม่ใช่แค่การดูแล แต่ต้องสร้างความมั่นคงในจิตใจให้กับประชาชนด้วย
ส่วนปัจจัยที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นั้น นายกรัฐมนตรี ตอบเพียงว่า “เบื้องต้นมีหลายเหตุผล ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป”
@@ โฆษกกลาโหมชวนร่วมประณามก่อเหตุในเดือนศักดิ์สิทธิ์
พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของเจ้าหน้าที่และประชาชนที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อค่ำวันเสาร์ที่ 8 มี.ค.
“การก่อเหตุรุนแรงในช่วงเดือนศักดิ์สิทธิ์ คือเดือนรอมฎอนนั้น ถือเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักศาสนา และสร้างความสูญเสียอย่างร้ายแรง กระทรวงกลาโหมขอให้ประชาชนทุกคนได้ร่วมประณามการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดี และขอยืนยันว่าจะดำเนินมาตรการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อปกป้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ปลอดภัย และทำให้สถานการณ์กลับคืนสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด”
@@ ผบ.ทบ.เสียใจ สั่ง กอ.รมน.ภาค 4 เพิ่มมาตรการคุมเข้ม
พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (รอง ผบ.รมน.) รู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวและญาติของผู้สูญเสีย
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และให้การดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้อย่างดีที่สุด
พร้อมกำชับให้กำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัย เฝ้าระวังป้องกันการก่อเหตุในบางจุด โดยเฉพาะจุดที่ยังไม่สมบูรณ์เพียงพอ ให้เร่งปรับปรุงเพิ่มเติม เพื่อไม่ให้ผู้ไม่หวังดีมีช่องทางที่จะก่อเหตุได้
@@ ซัด “บีอาร์เอ็น” ไม่เคารพ “รอมฎอนสันติสุข”
โฆษกกองทัพบก กล่าวอีกว่า ทุกฝ่ายกำลังสร้างบรรยากาศ “รอมฎอนสันติ” แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงบีอาร์เอ็น ยังไม่มีทีท่าที่จะให้ความร่วมมือ สะท้อนให้เห็นว่ากลุ่มบีอาร์เอ็นไม่เคารพต่อความปรารถนาในสันติสุขของพี่น้องไทยมุสลิมใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และมีเจตนาที่จะละเมิดกฎหมายของสังคม
———————————————————————————————————————–
ที่มา : สำนักข่าวอิศรา / วันที่เผยแพร่ 9 มีนาคม 2568
Link : https://www.isranews.org/article/south-news/other-news/136282-attackkolok-2.html