นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) เปิดเผยว่า ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ได้เตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางของผู้โดยสารช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 ตามนโยบายของรัฐบาล เพื่ออำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยในการเดินทาง พร้อมส่งเสริมการเชื่อมโยงระบบขนส่งสาธารณะและส่งเสริมนโยบายการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง
นายวิจิตต์ แก้วไทรเทียม ผู้อำนวยการ ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ระบุว่า ระหว่างวันที่ 11–17 เมษายน 2568 คาดว่าท่าอากาศยานดอนเมืองจะรองรับเที่ยวบินรวม 4,391 เที่ยว เพิ่มขึ้น 3.1% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แบ่งเป็นเที่ยวบินภายในประเทศ 2,705 เที่ยว เพิ่มขึ้น 7.3% และเที่ยวบินระหว่างประเทศ 1,686 เที่ยว ส่วนผู้โดยสารคาดว่าจะมีจำนวนรวมกว่า 701,636 คน เฉลี่ยวันละกว่า 100,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 10.8% โดยเฉพาะผู้โดยสารภายในประเทศเพิ่มขึ้นถึง 13.5% วันที่ 11 เมษายน 2568 คาดว่าจะเป็นวันที่มีการเดินทางมากที่สุด โดยช่วงเวลาคับคั่งของผู้โดยสารระหว่างประเทศคือ 04.00 – 05.00 น., 12.00 – 13.00 น., 15.00 – 16.00 น. และ 20.00 – 21.00 น. ส่วนเที่ยวบินในประเทศจะหนาแน่นช่วง 07.00 – 08.00 น. และ 20.00 – 21.00 น. ทดม. ขอความร่วมมือผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทางล่วงหน้าอย่างน้อย 2–3 ชั่วโมง เพื่อหลีกเลี่ยงการพลาดเที่ยวบิน
นอกจากนี้ นายวิจิตต์ เผยว่า ท่าอากาศยานดอนเมือง ยังจัดให้บริการจอดรถฟรีช่วงเทศกาลตั้งแต่ 00.01 น. วันที่ 12 เมษายน 2568 ถึง 24.00 น. วันที่ 16 เมษายน 2568 ณ ลานจอดหน้าตึกจอดรถ 5 ชั้น พร้อมบริการรถรับ-ส่งไปยังอาคารผู้โดยสารตลอด 24 ชั่วโมง
นายวิจิตต์ กล่าวว่า สำหรับมาตรการความปลอดภัยต่าง ๆ ได้ถูกนำมาใช้เต็มรูปแบบ ทั้งการปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ การตรวจสภาพรถโดยสารและคนขับ ตรวจสอบทางวิ่งและเขตการบิน รวมถึงการติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดและระบบติดตามผู้โดยสารแบบเรียลไทม์ (RTPTS) ทดม. ยังจัดเจ้าหน้าที่เสริมในจุดต่าง ๆ เช่น เคาน์เตอร์เช็กอิน จุดตรวจเอกสาร และจุดบริการขนส่งสาธารณะ เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดห้องน้ำ จัดเตรียมรถเข็นสัมภาระ จุดชาร์จแบตเตอรี่ และพื้นที่สำหรับผู้ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ รวมถึงพื้นที่สำหรับครอบครัว เช่น ห้อง Baby Care และโซนพักคอย
นอกจากนี้ นายวิจิตต์ เผยว่า ยังนำเทคโนโลยีระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล (Biometric) มาใช้ร่วมกับระบบบริการแบบครบวงจร เช่น ระบบเช็กอินด้วยตนเอง (CUSS), ระบบโหลดกระเป๋าอัตโนมัติ (CUBD) และระบบบริหารจัดการข้อมูล (A-CDM) เพื่อการตัดสินใจร่วมกันของหน่วยงานต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งแอป “SAWASDEE by AOT” สำหรับอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร ด้านระบบขนส่งสาธารณะ ทดม. ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ จัดเตรียมรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง, รถ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) สาย A1 – A4, รถโดยสารของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.), แท็กซี่ EV และ Grab Car เพื่อเชื่อมโยงการเดินทางอย่างไร้รอยต่อสู่เมืองหลักและแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ
ทั้งนี้ นายวิจิตต์ กล่าวว่า ทดม. ยังเดินหน้าแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระยะที่ 3 เพื่อรองรับผู้โดยสาร 40 ล้านคนต่อปี ตามแนวทาง “Fast and Hassle-free Airport” เสริมศักยภาพการให้บริการและยกระดับสนามบินสู่ศูนย์กลางการบินของภูมิภาคในอนาคต
————————————————————————————————–
ที่มา :สำนักข่าวอินโฟเควสท์ / วันที่เผยแพร่ 9 เมษายน 2568
Link : https://www.infoquest.co.th/2025/485747
