
ความไม่พอใจที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ มีต่อนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงขั้นทรัมป์ขู่ปลดพาวเวลล์ออกจากตำแหน่ง
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 19 เม.ย. ว่า หลังทรัมป์กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ว่า “หากผมต้องการให้พาวเวลล์พ้นจากตำแหน่ง ทุกอย่างจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว” ขณะที่ประธานเฟดยืนยันว่า เขาไม่มีแผนลาออกก่อนหมดวาระในเดือน พ.ค. 2569 และความเป็นอิสระของธนาคารกลางเหนือนโยบายการเงินเป็น “เรื่องของกฎหมาย” นั้น
President Donald Trump says he’s not happy with the job Federal Reserve Chair Jerome Powell is doing. He says Powell is “playing politics,” and interest rates should be coming down. Trump spoke to reporters in the Oval Office https://t.co/1LBRMefOXe pic.twitter.com/k3orT0Dl9O
— Bloomberg TV (@BloombergTV) April 17, 2025
นักเศรษฐศาสตร์มองว่า “พวกเขาจะขัดแย้งกัน” แต่ก็เชื่อว่า “เฟดจะไม่ยอมจำนนต่อแรงกดดันทางการเมือง” เนื่องจากการยอมลดอัตราดอกเบี้ย จะเป็นหายนะสำหรับเศรษฐกิจของสหรัฐ
นักวิชาการด้านกฎหมายหลายคนอธิบายว่า ประธานาธิบดีไม่มีอำนาจในการไล่ประธานเฟด หรือคณะกรรมการกำหนดอัตราดอกเบี้ยทั้ง 19 คนของธนาคารกลาง ให้ออกจากตำแหน่งโดยไม่มี “เหตุอันควร”
Federal Reserve Chair Jerome Powell says that the Trump administration’s trade policies are moving the US away from its goals of lowering unemployment and inflation.
Powell spoke Wednesday at the Economic Club of Chicago https://t.co/CqvKWYGhOp pic.twitter.com/7P5YgOVftT
— Bloomberg TV (@BloombergTV) April 16, 2025
ขณะเดียวกัน โครงสร้างของเฟดถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันการแทรกแซงทางการเมือง และความเป็นอิสระมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อธนาคารกลาง เพื่อไม่ให้สกุลเงินอ่อนลง และอัตราดอกเบี้ยพุ่งสูงขึ้น
นักวิชาการระบุว่า แม้ว่าศาลฎีกาอยู่ระหว่างพิจารณาคดีปลดหัวหน้าหน่วยงานอิสระหลายคนของทรัมป์ ซึ่งเป็นการท้าทายครั้งสำคัญ ต่อคำตัดสินของคดีฮัมฟรีย์ วี. ยูไนเต็ด เสตต เมื่อปี 2478 ที่ระบุว่า “ประธานาธิบดีไม่มีสิทธิในการปลดหัวหน้าองค์กรอิสระ”
แม้คำตัดสินจะพลิกผัน ทรัมป์ก็อาจต้องเผชิญกับอุปสรรคจาก “ตลาดพันธบัตร” โดยในช่วงที่ตลาดปั่นป่วนจากแผนภาษีของเขา อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐกลับพุ่งสูงขึ้น ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับอ่อนค่าลง ซึ่งเป็นสัญญาณว่า นักลงทุนอาจมองว่า “การลงทุนในสหรัฐ อาจไม่ปลอดภัยเหมือนในอดีต”
หากนักลงทุนมองว่า “ความเป็นอิสระของเฟดในการแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อกระทบกระเทือน” ก็มีแนวโน้มว่า “อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะยาว และเงินเฟ้อจะสูงขึ้น” และในที่สุด แนวโน้มดังกล่าวจะเพิ่มแรงกดดันต่อรัฐบาล.
เครดิตภาพ : AFP
————————————————————————————————–
ที่มา : สำนักข่าวเดลินิวส์ออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 19 เมษายน 2568
Link : https://www.dailynews.co.th/news/4622309/