เสรีภาพไม่มีจริง! มะกันลุยถอนวีซ่าน.ศ.ต่างชาติ พุ่งเป้ากลุ่มหนุนปาเลสไตน์
รายงานข่าวจากมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วสหรัฐแจ้งว่า มีนักศึกษาต่างชาติที่ถูกเพิกถอนวีซ่าแบบไม่คาดคิด สะท้อนถึงการตรวจสอบในระดับใหม่ของรัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ออกมาระบุว่า สหรัฐจะเดินหน้าเพิกถอนวีซ่านักศึกษาต่างชาติอย่างน้อย 300 คน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามทรัมป์ ที่จะปราบปรามผู้ประท้วงที่สนับสนุนปาเลสไตน์ในมหาวิทยาลัย
การออกมาประกาศของรูบิโอดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่มีภาพการจับกุมตัวรูเมย์ซา โอซติร์ค นักศึกษาปริญญาเอกชาวตุรกี ซึ่งเป็นนักเรียนทุน Fullbright ของมหาวิทยาลัย Tufts ที่เคยเข้าร่วมการประท้วงสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ โดยเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบที่สวมหน้ากาก ก่อนจะพาตัวเธอไปยังรถที่ไม่มีเครื่องหมายใดๆ นอกเมืองบอสตัน ที่จุดชนวนให้เกิดการประท้วงออนไลน์ ซึ่งรูบิโอออกมาปกป้องการกระทำดังกล่าวและบอกว่า หากผู้ได้วีซ่านักศึกษาไม่ได้เข้ามาเรียนอย่างเดียว แต่มาประท้วงหรือเข้าร่วมกับขบวนการทำลายมหาวิทยาลัยและก่อความวุ่นวาย เราก็จะไม่ให้วีซ่านั้นอีกต่อไป
แม้วีซ่าจะสามารถยกเลิกได้จากหลากหลายสาเหตุ แต่ผู้บริหารมหาวิทยาลัยระบุว่า รัฐบาลได้ยกเลิกวีซ่าซึ่งเป็นการรับรองสถานะสำหรับการพำนักอาศัยในสหรัฐโดยถูกกฎหมายของนักศึกษาเหล่านี้อย่างเงียบๆ โดยไม่มีการแจ้งให้ทางมหาวิทยาลัยและนักศึกษาทราบ ซึ่งทำนักศึกษาเสี่ยงที่จะถูกคุมขังหรือเนรเทศ
เจ้าหน้าที่ในมหาวิทยาลัยและนักศึกษาเพิ่งจะพบการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เมื่อพวกเขาตรวจสอบฐานข้อมูลของรัฐบาลกลาง และเห็นการเปลี่ยนแปลงสถานะการเข้าเมืองของแต่ละบุคคล
ทั้งนี้ รายชื่อของมหาวิทยาลัยที่พบว่านักศึกษาถูกยกเลิกสถานะเข้าเมืองที่ถูกต้องตามกฎหมายของพวกเขา ยังรวมถึงมหาวิทยาลัยชั้นนำอย่าง Harvard, Stanford, Michigan, UCLA และ Ohio State University
เดิมรัฐบาลทรัมป์ได้พุ่งเป้าไปที่นักศึกษาที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวหรือการแสดงความคิดเห็นสนับสนุนปาเลสไตน์ โดยมีการจับกุมตัวนักศึกษาที่มีชื่อเสียงบางราย รวมถึงมะห์มูด คาลิล ซึ่งเป็นผู้มีกรีนการ์ดที่เป็นผู้นำการประท้วงที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย
อย่างไรก็ดี ขณะนี้มีมหาวิทยาลัยมากขึ้นที่พบว่า วีซ่าของนักศึกษาถูกยกเลิกโดยไม่มีความเชื่อมโยงกับการประท้วง ในบางกรณี มีการอ้างถึงการกระทำผิดในอดีต เช่น การฝ่าฝืนกฎจราจร บางมหาวิทยาลัยระบุว่า ดูเหมือนเหตุผลยังไม่ชัดเจนสำหรับพวกเขา และพวกเขากำลังค้นหาคำตอบในเรื่องดังกล่าวต่อไป
มิชลี่ มิตเทลสตัด ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาธารณะที่สถาบันนโยบายการย้ายถิ่น กล่าวว่า สิ่งที่คุณเห็นว่ากำลังเกิดขึ้นกับนักศึกษาต่างชาติ จริง ๆ แล้วมันคือส่วนหนึ่งของการตรวจสอบที่เข้มงวดที่มากขึ้น ที่รัฐบาลทรัมป์กำลังใช้กับผู้อพยพทุกประเภท
ในอดีต นักศึกษาที่ถูกเพิกถอนวีซ่าจะได้รับอนุญาตให้คงสถานะการพำนักในสหรัฐตามกฎหมายไว้จนกว่าพวกเขาจะเรียนจบ แต่การไม่มีวีซ่าที่ถูกต้องจะจำกัดความสามารถในการเดินทางออกจากสหรัฐและเดินทางกลับเข้าไปใหม่ ซึ่งนักศึกษาสามารถยื่นของวีซ่าใหม่กับกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐได้ แต่หากนักศึกษาสูญเสียสถานะการพำนัก พวกเขาจะต้องออกจากสหรัฐทันที มิฉะนั้นจะถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองกักตัว
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ผู้นำด้านการศึกษาระดับสูงกังวลว่า การจับกุมและการเพิกถอนวีซ่าอาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อการศึกษาของนักศึกษาต่างชาติในสหรัฐ ขณะที่ผู้นำมหาวิทยาลัยยอมรับว่า เกิดความมรู้สึกไม่มั่นคงและกังวลเพิ่มขึ้น
มาร์เซโล ซัวเรซ-โอรอซโก อธิการบดีมหาวิทยาลัยแมสซาชูเซตส์ บอสตัน เขียนในอีเมล์ว่า นี่เป็นช่วงเวลาที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และหลักการทั่วไปในการใช้ชีวิตในสังคมประชาธิปไตยของเราถูกท้าทาย ด้วยอัตราและระดับความรุนแรงของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เราจึงต้องคิดอย่างรอบคอบว่าเราจะเตรียมตัว ปกป้อง และตอบสนองอย่างไรให้ดีที่สุด
————————————————————————————————–
ที่มา :สำนักข่าวมติชนออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 8 เมษายน 2568
Link : https://www.matichon.co.th/foreign/news_5130398