ในยุคที่ AI (Artificial Intelligence) เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเราทุกคนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการเรียน การทำงาน หรือแม้แต่การนำมาใช้วิเคราะห์การคาดการณ์ต่าง ๆ ผลของความสำเร็จจาก AI ทำให้มีการพัฒนา AI ประเภทอื่นเพื่อมาตอบโจทย์ความต้องการแบบอื่น ๆ ให้สะดวกกว่าเดิม
วันนี้ BT beartai จะพามาแนะนำให้รู้จักกับ Agentic AI หนึ่งในเครื่องมือที่เข้ามายกระดับการใช้ AI ที่มากกว่าการให้คำตอบหรือประมวลข้อมูล แต่นี่คือเครื่องมือที่จะมาช่วยตัดสินใจแทนเราได้ด้วย !
Agentic AI คือ AI ที่ออกแบบมาเพื่อเป็น “เอเจนต์” หรือตัวแทนในการช่วยตัดสินใจ วิเคราะห์ และให้ข้อมูลเชิงซับซ้อนและสามารถทำงานได้ด้วยตัวเองคล้ายกับการตัดสินใจของมนุษย์ ต่างจาก AI แบบเดิมที่ทำงานตามกฎหรือสูตรที่กำหนดไว้ตายตัวใช้รูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนแปลงได้ เรียนรู้จากการโต้ตอบ และปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ใหม่ ๆ แบบทันที
-
- นำข้อมูลจากการปฏิสัมพันธ์มาพัฒนาระบบ
-
- เรียนรู้และปรับปรุงประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง
-
- ช่วยธุรกิจในการตัดสินใจและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
Agentic AI เครื่องมือขับเคลื่อนตัวใหม่ในการทำธุรกิจ
ทีนี้ก็มาถึงคำถามสำคัญที่ว่า Agentic AI ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับใคร กลุ่มเป้าหมายไหน ?
ด้วยความสามารถที่สามารถตัดสินใจเองได้ และมีประสิทธิภาพในการทำงานที่ซับซ้อน Agentic AI จึงเหมาะกับการใช้งานในการทำงานที่มีความซับซ้อน ให้มีความง่ายมากขึ้น ตามสายงานดังนี้
-
- งานบริการลูกค้า : ปรับปรุงการบริการด้วยตนเอง ลดเวลาตอบสนอง และเพิ่มความพึงพอใจ นอกจากนี้ยังมี “มนุษย์ดิจิทัล” ที่ช่วยตอบคำถามและแก้ปัญหาได้แบบเรียลไทม์
-
- สร้างเนื้อหา : สร้างเนื้อหาการตลาดได้อย่างรวดเร็ว ช่วยประหยัดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น
-
- วิศวกรรมซอฟต์แวร์ : ช่วยเขียนโคดอัตโนมัติ เพิ่มผลผลิต และประหยัดเวลาให้เหล่านักพัฒนา
-
- การดูแลสุขภาพ : ช่วยแพทย์วิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์ และให้ข้อมูลผู้ป่วย
-
- วิเคราะห์วิดีโอ : วิเคราะห์วิดีโอ แจ้งเตือนความผิดปกติ และปรับปรุงการควบคุมคุณภาพ
-
- การเงิน : ระบบซื้อขายอัตโนมัติ สามารถวิเคราะห์แนวโน้มตลาดและดำเนินการซื้อขายโดยมีการกำกับดูแลจากมนุษย์น้อยที่สุด
เมื่อไรที่ Agentic AI จะมาแทนที่ Generative AI ?
คำตอบคือไม่มีทางที่ Agentic AI จะเข้ามาแทน Generative AI เพราะ AI ทั้งสองตัวเก่งกันคนละแบบ และถูกใช้งานในบริบทที่แตกต่างกัน ถ้าเราต้องการตอบคำถามเป็นเรื่อง ๆ ไป ไม่ได้ต้องการความซับซ้อนขนาดนั้น Generative AI ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่เหมาะกว่า กลับกันถ้าต้องการแผนธุรกิจที่ซับซ้อน หรือต้องการให้ AI ทำในสิ่งที่ต้องการ วิเคราะห์ แก้ปัญหา หรือวางแผนที่ต้องทำหลาย ๆ ขั้นตอน การใช้งาน Agentic AI ก็ดูจะเป็นอะไรที่เหมาะกว่า
———————————————————————————————————————————————-
ที่มา :beartai / วันที่เผยแพร่ 31 มีนาคม 2568
Link : https://www.beartai.com/tech/features/1464777