เอเจนซีส์ – รัฐมนตรีต่างประเทศปากีสถาน มูฮัมหมัด ไซรัส ซัจจาด คาไซ (Muhammad Syrus Sajjad Qazi) ชี้นิ้วอ้าง อินเดียส่ง 2 เจ้าหน้าที่สายลับเข้ามาลอบสังหารพลเมืองภายในดินแดนปากีสถาน เปรียบไม่ต่างจากที่เคยเกิดกับแคนาดา
เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานวานนี้ (25 ม.ค.) ว่า ในการแถลงข่าววันพฤหัสบดี (25) รัฐมนตรีต่างประเทศปากีสถาน มูฮัมหมัด ไซรัส ซัจจาด คาไซ (Muhammad Syrus Sajjad Qazi) กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า
“เอเยนต์อินเดียใช้เทคโนโลยีและแหล่งหลบภัยในดินแดนต่างชาติเพื่อปฏิบัติการลอบสังหารในปากีสถาน พวกเขาว่าจ้าง ให้เงินและสนับสนุนอาชญากร ผู้ก่อการร้าย และพลเรือนที่ไม่น่าสงสัยเพื่อเข้าร่วมตามบทบาทที่กำหนดในการลอบสังหารเหล่านี้”
ซึ่งการออกมากล่าวหาของอิสลามาบัดคล้ายกับสิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเหมือนเมื่อครั้งที่นายกรัฐมนตรีแคนาดา จัสติน ทรูโด ได้เคยออกมาเปิดเผยต่อสาธารณะว่า มีหลักฐานมัดถึงความเชื่อมโยงระหว่างเจ้าหน้าที่ข่าวกรองอินเดีย และการลอบสังหารผู้นำแบ่งแยกดินแดนชาวซิกข์ ฮาร์ดีป ซิงฮ์ นิจจาร์ (Hardeep Singh Nijjar) ในดินแดนแคนาดาเมื่อมิถุนายนปีที่แล้ว แต่ทว่าฝั่งนิวเดลีออกมาปฏิเสธ
ขณะที่สหรัฐฯ ได้ออกมากล่าวหาอินเดียซ้ำพร้อมกับส่งผู้อำนวยการ FBI คริสโตเฟอร์ เรย์ (Christopher Wray) อ้างอิงจาก CNN รายงานเมื่อวันที่ 12 ธ.ค เดินทางไปกรุงนิวเดลี ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาหลังจาก สหรัฐฯ สามารถสกัดแผนลอบสังหารนักแบ่งแยกดินแดนชาวซิกข์ กูร์ปัตวานต์ ซิงห์ ปานนัน (Gurpatwant Singh Pannun) ไว้ได้ทัน ซึ่งนิวเดลีประกาศว่าคดีนี้กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวน
ในการแถลงข่าว คาไซได้ชี้ไปให้เห็นถึงความละม้ายคล้ายกันระหว่างแผนการลอบสังหารในต่างแดน และสิ่งที่เขากล่าวว่าเกิดขึ้นในปากีสถาน
“ผมได้เห็นความคล้ายคลึงที่เหมือนกันมากต่อการสังหารในแคนาดา” รัฐมนตรีต่างประเทศปากีสถานกล่าว และเสริมต่อว่า “มันเป็นสิ่งที่มาจากการสั่งการของรัฐบาลอินเดีย ทางเรามีรายละเอียดหนังสือเดินทางของเอเยนต์อินเดียทั้ง 2 คนที่เป็นผู้จัดการลอบสังหารในแผ่นดินปากีสถาน”
พร้อมกันนี้ เขาเสริมต่อว่า “เป็นที่ชัดเจนว่าเครือข่ายศาลเตี้ยอินเดียและการสังหารนอกอาณาเขตกลายเป็นกระแสปรากฏการณ์ของโลก”
คาไซกล่าวต่อว่า รัฐบาลได้หลักฐานที่พิสูจน์ถึงความเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างเอเยนต์อินเดียและการสังหารพลเมืองปากีสถาน 2 คน มูฮัมหมัด ไรอัซ (Muhammad Riaz) ในเดือนกันยายนปีที่แล้ว และชาฮิด ลาติฟ (Shahid Latif) ในตุลาคมปีที่แล้ว
พบว่าไรอัซถูกยิงเสียชีวิตระหว่างเข้ามัสยิดในราวาลาคอต (Rawalakot) และลาติฟถูกสังหารนอกมัสยิดในไซอัลคอต (Sialkot)
ในการสอบสวนโดยหลายหน่วยงานของปากีสถานต่อการเสียชีวิตของลาติฟทำให้มีการค้นพบว่า “เจ้าหน้าที่เอเยนต์อินเดียที่มีฐานอยู่ในประเทศที่ 3 เป็นผู้บงการการลอบสังหาร” คาไซแถลง
และหลังจากที่เจ้าหน้าที่อิสลามาบัดสามารถจับกุมชายต้องสงสัยว่าเป็นผู้ฆ่าไรอัซ ชายคนดังกล่าวยอมรับสารภาพว่า เขาได้ถูกว่าจ้างโดย 2 เจ้าหน้าที่สายลับอินเดีย
รัฐมนตรีต่างประเทศปากีสถานแถลงว่า การสังหารเหล่านี้ถูกบงการโดยเจ้าหน้าที่ข่าวกรองอินเดียใช้การจัดการระหว่างประเทศที่ลึกล้ำกระจายไปไม่กี่ประเทศ และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียถูกใช้เพื่อรับสมัครว่าจ้างทีมผู้ออกทุน ผู้ชี้เป้า และนักฆ่าทั้งภายในปากีสถานและภายนอกเพื่อออกปฏอบัติการสังหาร
นอกจากนี้ คาไซยังเปิดเผยว่าในงานแถลงข่าวว่า เจ้าหน้าที่ปากีสถานมีหลักฐานธุรกรรมทางการเงินเชื่อมมัดตัวเอเยนต์อินเดีย
ซึ่งรัฐมนตรีต่างประเทศปากีสถานกล่าวยืนยันว่า “จำเป็นต้องทำให้อินเดียยอมรับความผิดข้ามชาติต่อการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างอุกอาจ”
พร้อมกับเสริมว่า การที่อินเดียลอบสังหารพลเมืองอิสลามาบัดในดินแดนปากีสถานนั้นเป็นการละเมิดต่ออำนาจอธิปไตยปากีสถานและละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติ (UN Charter)
————————————————————————————————————————————-
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 26 ม.ค.67
Link : https://mgronline.com/around/detail/9670000007694