คณะผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติ รายงานการตรวจสอบตามข้อกล่าวหาที่ว่า เกาหลีเหนือดำเนินกิจกรรมทางไซเบอร์ที่เป็นอันตราย เพื่อหารายได้เข้าประเทศ และคณะทำงานในคณะกรรมการคว่ำบาตรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ได้ตั้งข้อกล่าวหาผ่านรายงานประจำปี อ้างอิงข้อมูลจากชาติสมาชิก ที่รายงานว่าร้อยละ 40 ของเงินที่นำไปใช้ในโครงการอาวุธทำลายล้างสูงมาจากการกระทำผิดกฎหมาย สหประชาชาติขอให้ชาติสมาชิกดำเนินมาตรการเพื่อป้องกัน
ในรายงานย้ำว่า เกาหลีเหนือยังคงหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตร และสร้างรายได้จากการโจมตีทางไซเบอร์ในอุตสาหกรรมสินทรัพย์เสมือนจริง โดยในการสอบสวนการโจมตีทางไซเบอร์ 58 คดี มีการจารกรรมเงินประมาณ 3,000 ล้านดอลลาร์หรือกว่า 109,000 ล้านบาทระหว่างปี 2560 ถึง 2566 ผ่านการโจมตีทางไซเบอร์ต่อบริษัทต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคริปโต ภารกิจหลักของผู้ที่คุกคามทางไซเบอร์เหล่านี้คือข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อเกาหลีเหนือ สร้างรายได้ให้กับประเทศอย่างผิดกฎหมาย โดยในกรณีของข้อมูลเกี่ยวทรัพย์สินทางปัญญา นอกจากจะช่วยให้เกาหลีเหนือมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี พวกเขายังสามารถขายข้อมูลนั้นต่อไปได้อีกด้วย
เฉพาะในปี 2566 เพียงปีเดียวมีการจารกรรมสกุลเงินดิจิทัล 17 รายการ มูลค่าของเงินที่ถูกขโมยไปประมาณ 750 ล้านดอลลาร์
ผู้โจมตียังมุ่งเป้าไปที่บริษัทด้านการป้องกันประเทศและห่วงโซ่อุปทานซอฟต์แวร์ อาทิ วิศวกรนิวเคลียร์และบริษัทที่สร้างระบบเรดาร์ ยานพาหนะทางอากาศไร้คนขับ ยานพาหนะทางทหาร เรือ อาวุธ และบริษัททางทะเล ซึ่งบางส่วนอยู่ในสเปน เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ และแม้แต่รัสเซีย ขณะที่บริษัทและหน่วยงานรัฐบาลของเกาหลีใต้คือเป้าหมายหลัก
กลุ่มผู้โจมตีชาวเกาหลีเหนือยังถูกพบเห็นในแรนซัมแวร์ โดยแฮ็กเกอร์ที่เกี่ยวข้องกับ Andariel ขโมยบิทคอยน์มูลค่า 360,000 ดอลลาร์ (BTC) ผ่านการโจมตีแรนซัมแวร์บริษัท 3 แห่ง รายได้บางส่วนถูกโอนไปยังกระเป๋าเงินดิจิตอลที่เป็นเจ้าของโดย Lazarus Group ที่จะฟอกเงิน ผ่าน Tornado Cash ต่อไป ซึ่งผู้เชี่ยวชาญพบว่า จำนวนเงินที่ถูกฟอกผ่าน Tornado Cash จากการแฮ็กที่มาจาก Lazarus มีมูลค่าถึง 100 ล้านดอลลาร์แล้ว
———————————————————————————————————————————————————————————
ที่มา : จส.100 / วันที่เผยแพร่ 23 มี.ค.67
Link : https://www.js100.com/en/site/news/view/138589