สำนักข่าวรอยเตอร์ออกรายงานเมื่อวันพฤหัสบดี เกี่ยวกับพันเอก ซอว์ ชิต ตู (Saw Chit Thu) ซึ่งแสดงบทบาทคลุมเครือต่อรัฐบาลเมียนมา และจุดยืนลักษณะนี้ทำให้เขามีอิทธิพลสำคัญต่ออนาคตของการต่อสู้ในพื้นที่ยุทธศาสตร์ติดชายแดนไทย
บทความชิ้นนี้ระบุถึงบทบาทของเขาต่อการเเย่งชิงอำนาจเหนือเมืองเมียวดี ที่เป็นจุดการค้าหลักที่ชายเเดนไทย-เมียนมา ซึ่งมีเงินหมุนเวียนราว 1,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 3 หมื่น 7 พันล้านบาทต่อปี
เขาเป็นผู้นำกองกำลังแห่งชาติกะเหรียง Karen National Army หรือ KNA ที่อยู่มานานตรงข้ามฝั่งชายเเดนไทย และในช่วงที่ผ่านมาพื้นที่นี้คือสมภูมิอันดุเดือด ซึ่งเหตุการณ์ได้สะท้อนถึงแรงส่งของฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลเมียนมาที่มีมากขึ้น
ซอว์ ชิต ตู เคยมีความสัมพันธ์ที่ดีกับกองทัพรัฐบาล เเละได้รับการชื่นชมจากพลเอกอาวุโส มิน ออง หล่าย ผู้นำเมียนมาว่ามีผลงานด้านการทหารดีเยี่ยม เมื่อปี 2022
อย่างไรก็ตาม พันเอกผู้นี้ถูกมาตรการลงโทษจากอังกฤษในข้อหาละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นรุนเเรง และนักวิเคราะห์กล่าวว่าเขาพัวพันกับขบวนการต้มตุ๋นบริเวณชายแดนที่ดำเนินการโดยเครือข่ายอาชญากรรมจีน
ทั้งนี้ ซอว์ ชิต ตูและโฆษกของรัฐบาลทหารเมียนมาไม่ได้รับโทรศัพท์จากรอยเตอร์ ที่ติดต่อไปเพื่อขอความเห็น
เมื่อต้นเดือนเมษายน ฝ่ายทหารของกองทัพรัฐบาลเสียเปรียบต่อฝ่ายสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง Karen National Union หรือ KNU
ต่อมา ซอว์ ชิต ตู ซึ่งเคยสวามิภักดิ์ต่อกองทัพรัฐบาล ประกาศว่ากลุ่มติดอาวุธ KNA ที่เขาเป็นหัวหน้าจะเลิกรับเงินเดือนและส่วนเเบ่งการสนับสนุนจากกองทัพ เป็นผลให้ KNA นิ่งเฉยเมื่อฝ่ายรัฐบาลเพลี่ยงพล้ำที่เมียวดี
“เราไม่ต้องการสู้รบกับคนกะเหรี่ยงด้วยกันเอง” ซอว์ ชิต ตู กล่าวต่อสื่อเมื่อเดือนมกราคม
เมื่อฝ่ายรัฐบาลไม่ได้รับการสนับสนุนจาก KNA ทั้งด้านกลยุทธ์และการขนส่งในพื้นที่ การโต้กลับฝ่ายตรงข้ามจึงลำบากมากยิ่งขึ้น ตามข้อมูลของสถาบัน United States Institute of Peace หรือ USIP ในสัปดาห์นี้
สถาบันดังกล่าวประเมินว่า KNA ที่กำลังพลราว 8,000 คน
ในขณะที่ สงครามกลางเมืองแผ่ขยายไปในเมียนมาเมื่อฝ่ายรัฐบาลเสียพื้นที่ควบคุมในอีกหลายแห่งของประเทศ รอยเตอร์รายงานว่า KNA ของซอว์ ชิต ตู ไม่ได้ออกมาสนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างสุดกำลัง
แน่นอนว่าเขาไม่ได้สวามิภัดิ์แบบเต็มตัวต่อรัฐบาลมิน อ่อง หล่ายเช่นเดิม แต่เขาก็ไม่ได้ประกาศเป็นแนวร่วมที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับกลุ่มต่อต้านรัฐบาลอื่น ๆ
จุดยืนของเขา กำลังเป็นที่จับตามองมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อรัฐบาลเมียนมาเริ่มมีอาวุธมาใช้เพิ่ม และโต้กลับฝ่ายตรงข้ามในเมียวดี จนฝ่าย KNU ต้องถอยร่นเป็นการชั่วคราว
โฆษกของ KNU ซอว์ ตอว์ นี บอกกับรอยเตอร์ว่าฝ่ายของตนถอยออกมาจากพื้นที่ราว 12 กม.
ซอว์ ตอว์ นี กล่าวด้วยว่าการสนับสนุนที่มาจากกลุ่ม KNA ของซอว์ ชิต ตู มีส่วนช่วยกองทัพในการโต้กลับครั้งล่าสุด
รอยเตอร์รายงานโดยอ้างชาวบ้าน 2 รายที่ไม่ประสงค์จะออกนามว่าเมื่อวันพฤหัสบดี ทหารกลุ่มเล็ก ๆ ของ KNA เเล่นผ่านเมียวดี ที่มีประชากรประมาณ 200,000 คน ซึ่งสถานการณ์สงบเรียบร้อย
“เมืองมีความปกติ” ชาวบ้านอายู 42 ปี รายหนึ่งกล่าว “สำนักงานของรัฐเปิดทำการ”
กลุ่มติดอาวุธของซอว์ ชิต ตู เเยกตัวออกมาราวปี 2010 จากกองกำลัง Karen National Liberation Army หรือ KNLA ซึ่งเป็นปีกด้านกลาโหมของ KNU และร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับของทัพรัฐบาลในการต่อสู้กับกองทัพของกลุ่มชาติพันธ์ุกะเหรี่ยง
ในปี 2017 ซอว์ ชิต ตู เริ่มมีส่วนกับโครงการก่อสร้าง ‘ชเวโก๊กโก่’ ซึ่งถูกขนานนามว่าเป็น ‘เขตเศรษฐกิจพิเศษ’ ตามเเนวชายเเดนไทย-เมียนมา
พื้นที่ดังกล่าวกลายมาเป็นจุดสำคัญของอาชญากรรมข้ามชาติและการพนัน โดยได้รับการหนุนหลังโดยเเก๊งของชาวจีน และทำรายได้ให้กับ KNA ประมาณ 190 ล้านดอลลาร์ ต่อปีตามการประเมินของนักวิเคราะห์
สถาบัน USIP ชี้ว่า ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ทางการจีนปราบปรามเครือข่ายขบวนการต้มตุ๋น ในพื้นที่ชายแดนจีน-เมียนมา จนบางกลุ่มย้ายไปพื้นที่ใกล้ไทย และบางส่วนอยู่ในพื้นที่ใต้การควบคุมของกลุ่มที่ซอว์ ชิต ตูเป็นแกนนำ
ที่มา: รอยเตอร์
———————————————————
ที่มา : VoAThai / วันที่เผยแพร่ 26 เม.ย. 2567
Link : https://www.voathai.com/a/myanmar-warlord-at-centre-of-battle-for-key-border-town/7585263.html