หญิงชาวอเมริกันจากรัฐแอริโซนา ที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐ ถูกกล่าวหาว่า จารกรรมข้อมูลส่วนบุคคลของพลเมืองอเมริกัน เพื่อช่วยให้ชาวเกาหลีเหนือได้สวมรอย และรับงานในบริษัทที่ตั้งอยู่ในอเมริกา
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ว่า อัยการกล่าวหานางคริสตินา แชปแมน วัย 49 ปี ว่าช่วยเหลือชาวเกาหลีเหนือหางานทางไกลในสหรัฐ และส่งเงินกลับไปยังเกาหลีเหนือ โดยเธอถูกตั้งข้อหาร่วมกับชาวเกาหลีเหนืออีก 3 ราย ที่มีส่วนร่วมในแผนการอันซับซ้อนนี้
นางแชปแมนถูกกล่าวหาว่า จารกรรมข้อมูลที่ใช้ในการระบุตัวตนของพลเมืองอเมริกัน ก่อนจะนำไปให้พนักงานไอทีชาวต่างชาติใช้ข้อมูลเหล่านี้ เพื่อปลอมตัวเป็นชาวอเมริกันและเข้าทำงานในบริษัทในอเมริกา โดยเธอถูกตั้งข้อหา 9 กระทง ข้อหาสมรู้ร่วมคิดในการฉ้อโกงสหรัฐ
เจ้าหน้าที่สืบสวนให้ข้อมูลว่า โครงการที่ “น่าตกใจ” ดังกล่าว ใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งถูกขโมยมาจากชาวอเมริกัน 60 คน และสร้างรายได้เพื่อส่งกลับไปยังเกาหลีเหนือเกือบ 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 253 ล้านบาท)
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า เงินเหล่านั้น อาจนำไปใช้ในโครงการอาวุธของประเทศ มากไปกว่านั้น ยังมีบริษัทในสหรัฐประมาณ 300 แห่ง ที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ ซึ่งคาดว่าเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อเดือน ต.ค. 2563 โดยอ้างอิงจากคำฟ้อง คนงานเหล่านี้เป็นพนักงานไอที “ที่มีทักษะสูง”
บริษัทที่เกี่ยวข้องยังรวมไปถึงบริษัทชั้นนำ ที่ติดอันดับ 500 บริษัทระดับโลกของฟอร์จูน นิตยสารธุรกิจชื่อดัง, เครือข่ายโทรทัศน์รายใหญ่, บริษัทธุรกิจป้องกันประเทศ, บริษัทชั้นนำในซิลิคอนวัลเลย์ และผู้ผลิตรถยนต์ชื่อดังของอเมริกา
นอกจากนี้ อัยการกล่าวหาแชปแมน เปิด “ฟาร์มแล็ปท็อป” ในบ้านของเธอ เพื่อทำการเข้าสู่ระบบด้วยแล็ปท็อปของบริษัทต่าง ๆ เสมือนว่าพนักงานชาวเกาหลีเหนือจากประเทศอื่น ๆ ได้เดินทางมาถึงสหรัฐเรียบร้อยแล้ว จากนั้นเธอจะช่วยให้พนักงานไอทีเชื่อมต่อแล็ปท็อปจากระยะไหล และช่วยให้พวกเขาได้รับค่าตอบแทน ตามสัญญาซึ่งมีความหนากว่า 57 หน้า
ข้อกล่าวหาระบุอีกว่า “เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน จำเลยเรียกเก็บค่าธรรมเนียมรายเดือนจากพนักงานไอทีเพื่อเป็นค่าบริการ ทำให้เธอได้รับกำไรจากโครงการดังกล่าว” นอกจากนี้ แชปแมนยังถูกกล่าวหา ว่าพยายามจัดหางานในหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐ แต่กลับไม่ประสบผลสำเร็จ
“กรณีนี้น่าจะเป็นสัญญาณเตือนสำหรับบริษัทอเมริกัน และหน่วยงานรัฐบาลที่จ้างพนักงานไอทีจากทางไกล” นางนิโคล อาร์เจนติเอรี หัวหน้าแผนกคดีอาญา กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ ระบุ “อาชญากรรมเหล่านี้เป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลเกาหลีเหนือ โดยเป็นการสร้างแหล่งรายได้ให้แก่รัฐบาล และในบางกรณี ข้อมูลที่เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้สมรู้ร่วมคิดก็ได้ถูกขโมยไป”
เจ้าหน้าที่กล่าวเพิ่มเติมว่า แชปแมนได้รับการติดต่อเมื่อเดือน มี.ค. 2563 จากบุคคลนิรนาม ซึ่งขอให้เธอ “เป็นหน้าตาของสหรัฐ” ให้กับบริษัทของพวกเขา
————————————————————————————————————————————-
ที่มา : เดลินิวส์ออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 17 พ.ค. 2567
Link : https://www.dailynews.co.th/news/3443605/