สนามบินฮ่องกงอัปเกรดอุปกรณ์สแกนอัจฉริยะ ทำให้สามารถตรวจสอบภายในกระเป๋าได้แบบ 3 มิติ และช่วยย่นระยะเวลาในการตรวจค้นตัว โดยจะเริ่มใช้งานตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป
ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป นักเดินทางที่จะเดินทางมายังสนามบินฮ่องกงจะสามารถเก็บของเหลว รวมทั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไว้ในกระเป๋าถือ ในขณะที่เดินผ่านจุดตรวจค้นได้แล้ว เนื่องจากทางสนามบินฮ่องกงทุ่มงบประมาณราว 800 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือราว 3,875 ล้านบาท เพื่ออัปเกรดระบบตรวจค้นและสแกนอัจฉริยะ
นายสตีเวน ยิ่ว ซิ่ว ชุง ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายปฏิบัติการสนามบินของการท่าอากาศยานระบุว่า การปรับปรุงดังกล่าวจะเปิดตัวเป็นช่วงๆ ในอีกสองปีข้างหน้า โดยมีช่องตรวจคัดกรองความปลอดภัยอัจฉริยะใหม่ 50 ช่อง และเครื่องสแกนทั้งตัว 32 เครื่อง เพื่อรองรับผู้โดยสารและเจ้าหน้าที่สนามบิน โดยจากการพัฒนาครั้งนี้จะส่งผลให้สนามบินฮ่องกงเป็นสนามบินแห่งแรกของโลกที่มีการนำระบบคัดกรองความปลอดภัยอัจฉริยะมาใช้อย่างเต็มรูปแบบ โดยคาดหวังว่า 98 เปอร์เซ็นต์ของผู้โดยสารจะผ่านกระบวนการคัดกรองความปลอดภัยเสร็จโดยใช้เวลาเพียง 4 นาทีครึ่งต่อ 1 คน ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการรองรับกับนักเดินทางได้เพิ่มขึ้นราว 20 เปอร์เซ็นต์
ในเบื้องต้นจะมีการติดตั้งช่องทางคัดกรองความปลอดภัยใหม่ 4 ช่องทางแรกบริเวณทางทิศใต้ และทิศเหนือ ของอาคารผู้โดยสารขาออกแห่งแรกในวันอังคารหน้า โดยปัจจุบันอาคารผู้โดยสารขาออกของสนามบินมีช่องทางตรวจสอบผู้โดยสาร 35 ช่อง โดยแต่ละช่องรองรับผู้โดยสารได้ 240 คนต่อชั่วโมง แต่เมื่อมีการติดตั้งช่องทางอัจฉริยะแล้วจะลดจำนวนช่องตรวจค้นให้เหลือเพียง 28 ช่องทาง โดยแต่ละช่องจะรองรับผู้โดยสารได้ถึง 360 คนต่อชั่วโมง
การอัปเกรดระบบครั้งนี้จะรวมถึงถาดขนสัมภาระอัตโนมัติที่สามารถรองรับคนได้สามคนพร้อมๆ กัน และยังมีเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์แบบใหม่ที่จะนำมาใช้แทนเครื่องสแกนแบบเดิมด้วย โดยอุปกรณ์นี้จะสามารถสแกนกระเป๋าถือ โดยแสดงภาพเป็นแบบสามมิติให้เจ้าหน้าที่สามารถวิเคราะห์ได้อย่างละเอียด โดยลดเวลาในการสแกนจาก 15 วินาที เหลือ 10 วินาที ซึ่งกระบวนการนี้จะทำให้ผู้โดยสารไม่จำเป็นต้องเอาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือของเหลว ออกมาจากกระเป๋าอีกต่อไป แต่ของเหลวที่มีปริมาตรเกิน 100 มิลลิลิตร ยังคงเป็นสิ่งต้องห้าม
ขณะที่การตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่ สำหรับผู้โดยสารที่ผ่านเครื่องตรวจจับโลหะแล้วมีสัญญาณดังขึ้น จะถูกเปลี่ยนมาเป็นการใช้เครื่องสแกนแบบเต็มตัวรุ่นใหม่ ซึ่งจะช่วยลดการสัมผัสตัวระหว่างนักเดินทางกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยลงได้ด้วย.
ที่มา : channelnewsasia
————————————————————————————————————————————————————————–
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 27 มิ.ย.67
Link : https://www.thairath.co.th/news/foreign/2796484