กองทัพเกาหลีใต้แถลงยืนยันในวันนี้ (11 ต.ค.67) ว่าชาวเกาหลีเหนือที่เดินทางลักลอบเดินทางข้ามพรมแดนผ่านทางทะเลตะวันตกเมื่อเดือนกันยายน ขณะนี้อยู่ในเกาหลีใต้ โดยในสัปดาห์นี้ เกาหลีเหนือประกาศว่าจะปิดกั้นพรมแดนทางใต้เป็นการถาวรโดยให้ปิดถนนและทางรถไฟที่เชื่อมต่อกับทางใต้ทั้งหมด และก่อสร้างแนวป้องกันที่มีความแข็งแกร่ง ซึ่งทำให้มีความเห็นว่า อาจมีเป้าหมายสำคัญคือการป้องกันพลเมืองหลบหนีออกนอกประเทศ
สำนักข่าวยอนฮับ เพิ่มเติมว่ารายงานของกองทัพเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เมื่อกลางเดือนกันยายน ที่มีชายชาวเกาหลีเหนือลักลอบเดินทางออกนอกประเทศด้วยเรือไม้ และมีเจ้าหน้าที่กองทัพพบเขาในทะเลตะวันตก จึงส่งตัวให้กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง หลังจากที่ในเดือนสิงหาคมยังมีชาวเกาหลีเหนืออีก 2 คนลักลอบเดินทางผ่านพรมแดนทางบกและผ่านเขตปลอดทหารบริเวณปากแม่น้ำฮัน แม้ว่าเกาหลีเหนือจะมีการวางทุ่นระเบิดใหม่หลายหมื่นลูกและสร้างสิ่งกีดขวางในพื้นที่ชายแดน
ชาวเกาหลีเหนือจำนวนนับหมื่นคนหลบหนีไปยังเกาหลีใต้นับตั้งแต่คาบสมุทรถูกแบ่งแยกด้วยสงครามในช่วงทศวรรษ 1950 ส่วนใหญ่จะลักลอบเดินทางไปยังประเทศจีนซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านก่อน จากนั้นจึงเข้าสู่ประเทศที่สาม เช่น ประเทศไทย เพื่อเดินทางกลับมายังเกาหลีใต้ แต่ในช่วงที่มีสถานการณ์โควิด เกาหลีเหนือเพิ่มการป้องกันแนวชายแดนที่มีความเข้มงวดมากขึ้น โดยอนุญาตให้เจ้าหน้าที่สามารถยิงผู้ลักลอบได้ในทันที ทำให้จำนวนการหลบหนีที่ประสบความสำเร็จลดลงอย่างมาก แต่เกาหลีใต้รายงานในเดือนมกราคมของปีนี้ (2567) ว่าจำนวนชาวเกาหลีเหนือที่เดินทางมาถึงเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นเกือบสามเท่าในปีที่แล้วเป็น 196 คน โดยมีทั้งนักการทูตและนักศึกษาหลายคน ซึ่งได้รับผลกระทบจากสภาพความเป็นอยู่ที่เลวร้าย ขาดแคลนอาหาร และการตอบสนองที่ไม่เพียงพอต่อภัยพิบัติทางธรรมชาติ
———————————————————————————————————————————————————————————
ที่มา : สำนักข่าวอิศรา / วันที่เผยแพร่ 14 ต.ค.67
Link : https://www.isranews.org/article/south-news/other-news/132548-ramanbomb.html