เอฟบีไอ เผยผู้ต้องสงสัยใช้แว่นอัจฉริยะของเมต้า (Meta) วางแผนก่อเหตุร้ายที่นิวออร์ลีนส์ ถือเป็นการเปิดเผยที่ตอกย้ำความเสี่ยงและผลกระทบความมั่นคงสาธารณะจากอุปกรณ์ไฮเทคที่ใช้งานได้กลมกลืนกับชีวิตประจำวันมากเกินไป
เทคโนโลยีแว่นอัจฉริยะกำลังถูกมองเป็นดาบสองคมที่สามารถใช้ในทางที่ผิดได้ ล่าสุด เอฟบีไอเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่นิวออร์ลีนส์เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2025 ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 14 ราย และบาดเจ็บอย่างน้อย 35 ราย โดยชัมซุดดิน จับบาร์ (Shumsud-Din Jabbar) ผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ได้ใช้แว่นอัจฉริยะของ Meta ในการลาดตระเวนพื้นที่ก่อเหตุ
รายงานระบุว่า จับบาร์เป็นอดีตทหารกองทัพสหรัฐฯ วัย 42 ปี ได้เดินทางมาที่นิวออร์ลีนส์หลายครั้งในช่วงหลายเดือนก่อนเกิดเหตุ โดยได้ขี่จักรยานพร้อมใช้แว่นอัจฉริยะในการบันทึกวิดีโอพื้นที่ที่พลุกพล่านอย่างลับๆ เนื่องจากแว่นดังกล่าวมีกล้องและไมโครโฟนในตัว ทำให้ผู้ก่อการร้ายสามารถปะปนกับฝูงชนได้โดยไม่มีใครสงสัย ซึ่งการลาดตระเวนนี้เป็นส่วนสำคัญในการวางแผนก่อเหตุ
ในวันเกิดเหตุซึ่งตรงกับวันขึ้นปีใหม่ จับบาร์ได้ขับรถฟอร์ด F-150 ไลท์นิ่งที่เช่ามาพุ่งชนฝูงชนที่ถนนบูร์บอน โดยแม้จะสวมแว่นอัจฉริยะระหว่างก่อเหตุ แต่ไม่ได้ใช้ถ่ายทอดสด นอกจากการขับรถพุ่งชนแล้ว เขายังได้วางระเบิดแสวงเครื่องในพื้นที่ด้วย แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่สามารถเก็บกู้ระเบิดได้ทันก่อนเกิดความเสียหายเพิ่มเติม ท้ายที่สุดตำรวจได้ยิงจับบาร์เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
จากการสืบสวนพบว่า จับบาร์เคยประกาศตนเป็นสมาชิกกลุ่มไอเอสและลงมือก่อเหตุโดยลำพัง ก่อนเกิดเหตุ เขาได้โพสต์วิดีโอแสดงความเชื่อสุดโต่งลงออนไลน์ และเอฟบีไอกำลังตรวจสอบการเดินทางไปต่างประเทศ ทั้งการเดินทางไปอียิปต์และแคนาดาในปี 2023 เพื่อหาความเชื่อมโยงเพิ่มเติม
แม้ว่าอุปกรณ์เทคโนโลยีจะถูกออกแบบมาเพื่อช่วยในชีวิตประจำวัน แต่ก็อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดได้หากตกอยู่ในมือผู้ไม่หวังดี เอฟบีไอจึงขอความร่วมมือประชาชนให้รายงานกิจกรรมที่น่าสงสัย โดยเฉพาะเมื่อพบการใช้อุปกรณ์ดังกล่าวในพื้นที่สำคัญหรือที่มีผู้คนหนาแน่น
ก่อนหน้านี้ แว่นอัจฉริยะเคยถูกเตือนภัยในฐานะอุปกรร์ที่สามารถดูดข้อมูลส่วนบุคคลได้ แต่สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นความเสี่ยงด้านความมั่นคงโดยเฉพาะในพื้นที่สาธารณะ เนื่องจากรายงานชี้ว่าแว่นอัจฉริยะที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ในกลุ่มสวมใส่ได้ (Wearable) ได้ถูกอาชญากรนำมาใช้สอดแนมวางแผนก่อการร้ายอย่างแนบเนียน ดังนั้น ฝั่งนักพัฒนาอาจไม่เพียงต้องทบทวนการพัฒนาและการขายอุปกรณ์ แต่ฝ่ายเจ้าหน้าที่จะต้องตามให้ทันพัฒนาการความเสี่ยงใหม่ในอนาคต โดยอาจมีการออกกฎระเบียบใหม่เพื่อควบคุมในอนาคต
———————————————————————————————————————————–
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 6 ม.ค.68
Link : https://mgronline.com/cyberbiz/detail/9680000001422#google_vignette