หลังจากทาง อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส หรือ เอดับบลิวเอส (AWS)ได้ประกาศ คำมั่นว่าจะลงทุนระยะยาวในประเทศไทย โดยวางแผนลงทุนด้าน โครงสร้างพื้นฐาน
หลังจากทาง อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส หรือ เอดับบลิวเอส (AWS)ได้ประกาศ คำมั่นว่าจะลงทุนระยะยาวในประเทศไทย โดยวางแผนลงทุนด้าน โครงสร้างพื้นฐาน เรื่องคลาวด์ และ ดาต้าเซ็นเตอร์ หรือศูนย์ข้อมูล มากกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ หรือ ประมาณ 1.9 แสนล้านบาท ในระยะเวลา 15 ปี ภายในปี 2580
ล่าสุดทางเมื่อวันที่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา ทาง เอดับบลิวเอส ได้เปิด เปิดบริการ “AWS Asia Pacific (Thailand) Region” ในประเทศไทย อย่างเป็นทางการ ถือเป็นการคลิกออฟ ดาต้าเซ็นเตอร์ในระดับภูมิภาค ที่เป็นส่วนหนึ่งตามแผนการลงทุนที่ได้ประกาศไว้
โดย AWS Region จะให้บริการบริการคลาวด์ที่ทันสมัยและปลอดภัย พร้อมทั้งโครงการพัฒนาทักษะ การฝึกอบรม และการมีส่วนร่วมกับชุมชน ช่วย เพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าในการใช้งานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และที่การจัดเก็บข้อมูลอย่างปลอดภัยภายในประเทศ เป็นการตอบสนองความต้องการบริการคลาวด์ที่เพิ่มสูงขึ้นทั้งในประเทศไทยและทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
PDX Data Centers and Community Amazon Web Services
อย่างไรก็ตามในเรื่อง สถานที่ตั้งและขนาดของ AWS Region ในไทยที่ได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้วนั้น ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลในเรื่องนี้ ถือเป็นความลับ เนื่องด้วยเรื่องความปลอดภัย
“วัตสัน ถิรภัทรพงศ์” ผู้จัดการประจำประเทศไทย ของ เอดับบลิวเอส (AWS) บอกว่า การสร้างและดำเนินงานของ AWS Region แห่งใหม่ในประเทศไทยจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของไทยอย่างมาก ทั้งในทางตรงและทางอ้อม รวมถึงช่วยให้เกิดการจ้างงาน ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชน การพัฒนาทักษะของบุคลากรภายในประเทศ
“การเปิดตัวนี้จะเพิ่มทางเลือกให้กับ นักพัฒนา สตาร์ทอัพ ผู้ประกอบการ องค์กรธุรกิจ รวมถึงหน่วยงานภาครัฐ สถาบันการศึกษา และองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ให้มีตัวเลือกมากขึ้นในการใช้งานแอปพลิเคชัน และให้บริการลูกค้าผ่านศูนย์ข้อมูล ของ AWS Region แห่งใหม่ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย”
“วัตสัน ถิรภัทรพงศ์”
AWS ได้คาดการณ์ว่า AWS Region ในไทยแห่งนี้ จะช่วยเพิ่มมูลค่า GDP ของประเทศไทยให้กับสูงขึ้นอีกประมาณ 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3.4 แสนล้านบาท นอกจากนี้ ยังจะสนับสนุนการจ้างงานเต็มเวลาเฉลี่ยมากกว่า 11,000 ตำแหน่งต่อปี ในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ตำแหน่งงานเหล่านี้จะครอบคลุมหลากหลายสาขา ได้แก่ การก่อสร้าง การดูแลรักษาอาคาร วิศวกรรม โทรคมนาคม และอื่น ๆ ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งหมดนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานของ AWS ในประเทศไทย
ทั้งนี้หากย้อนไป ตั้งแต่ปี 2563 AWS ได้เปิด Amazon CloudFront edge locations หกแห่งในไทย ช่วยให้การส่งข้อมูล วิดีโอ แอปพลิเคชัน และ API ไปยังผู้ใช้งานทั่วโลกเร็วขึ้นและมีความหน่วงต่ำ นอกจากนี้ ยังได้เปิดตัว AWS Outposts เพื่อให้องค์กรสามารถใช้บริการคลาวด์ได้อย่างไร้รอยต่อ
และในปี 2565 AWS ได้เพิ่มการลงทุนในประเทศไทยด้วยการเปิดตัว AWS Local Zones ในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่นำการประมวลผล การจัดเก็บข้อมูล ฐานข้อมูล และบริการที่คัดสรรมาไว้ใกล้กับประชากรจำนวนมากและศูนย์กลางอุตสาหกรรม ช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้งานแอปพลิเคชันที่ต้องการความเร็วสูงระดับมิลลิวินาทีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับการเปิดตัว AWS Region แห่งใหม่ในประเทศไทย ทำให้ AWS มี Availability Zones รวมทั้งสิ้น 111 แห่งใน 35 AWS Regions ทั่วโลก นอกจากนี้ AWS ยังมีแผนที่จะเปิดตัว Availability Zones เพิ่มอีก 15 แห่ง และ AWS Regions อีก 5 แห่ง ในเม็กซิโก นิวซีแลนด์ ซาอุดีอาระเบีย ไต้หวัน และ AWS European Sovereign Cloud
ทั้งนี้ AWS Regions ประกอบด้วย Availability Zones ที่มีโครงสร้างพื้นฐานแยกกันตามพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ สำหรับ AWS Region ในไทย นั้นมี Availability Zones สามแห่ง ซึ่งตั้งอยู่ห่างกันเพียงพอที่จะรองรับบริการที่ให้ความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจของลูกค้า แต่ก็อยู่ใกล้กันพอที่จะให้บริการด้วยความหน่วงต่ำสำหรับแอปพลิเคชันที่ต้องการความพร้อมใช้งานสูง
โดยแต่ละ Availability Zone จะมีระบบไฟฟ้า ระบบทำความเย็น และระบบรักษาความปลอดภัยที่แยกเป็นอิสระจากกัน โดยเชื่อมต่อผ่านเครือข่ายที่มีความหน่วงต่ำมากและมีระบบสำรองหลายชั้น ด้วยโครงสร้างนี้ ทำให้มีความพร้อมใช้งานสูงสามารถออกแบบแอปพลิเคชันให้ทำงานในหลาย Availability Zones เพื่อเพิ่มเสถียรภาพ รวมถึงมีความยืดหยุ่นและทนทานสูงมากยิ่งขึ้น
ด้าน“ปราสาท กัลยาณรามัน” รองประธานฝ่ายบริการโครงสร้างพื้นฐานของ AWS บอกว่า ในปัจจุบัน องค์กรธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกหันมาใช้บริการคลาวด์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากลูกค้าหลายรายได้ค้นพบประโยชน์อันมหาศาลจากระบบคลาวด์ที่ครอบคลุม น่าเชื่อถือ และปลอดภัยที่สุด โดย AWS Region แห่งใหม่ในประเทศไทยจะช่วยให้ลูกค้าในทุกอุตสาหกรรมสามารถใช้งานแอปพลิเคชันขั้นสูงด้วยเทคโนโลยี AWS ที่หลากหลาย ซึ่งประกอบด้วยบริการพื้นฐาน เช่น การประมวลผล การจัดเก็บข้อมูล การวิเคราะห์ และระบบเครือข่าย และบริการชั้นสูงที่ช่วยให้ธุรกิจก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว เช่น AI และแมชชีนเลิร์นนิง ซึ่งจะมีส่วนร่วมในการผลักดันการเปลี่ยนแปลงสู่เศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย และสนับสนุนให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลาง AI ของภูมิภาค
ถือเป็นการขยับตัวครั้งสำคัญของ ยักษ์ไอทีระดับโลก หลังจากที่ได้ ให้คำมั่นว่าจะลงทุนระยะยาวในประเทศไทย และได้เริ่มเปิดบริการโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ Region ใหม่ในประเทศไทยไปเรียบร้อย เพื่อช่วยยกระดับไทยก้าวเข้าสู่“อาเซียน ดิจิทัล ฮับ” อย่างเต็มตัว.
Cyber Daily
—————————————————————————————————————————————
ที่มา : เดลินิวส์ / วันที่เผยแพร่ 11 ม.ค.68
Link : https://www.dailynews.co.th/news/4278817/