บึ้มเก๋ง อส.หญิงกะพ้อ มีชาวบ้านโดนลูกหลงเจ็บด้วยอีก 3 ราย พบนำระเบิดติดถังน้ำมัน จุดชนวนด้วยการตั้งเวลา หวังให้ไปตูมสนั่นในที่ว่าการอำเภอ แต่ อส.ออกจากบ้านสาย จึงเกิดเหตุกลางทาง
ความคืบหน้าเหตุการณ์ระเบิด และเกิดเพลิงลุกไหม้รถยนต์เก๋งของ หมู่ใหญ่ (ม.ญ.) ซูรยานี ซีบะ อายุ 40 ปี เจ้าหน้าที่กองอาสารักษาดินแดน (อส.) ประจำอำเภอกะพ้อ จ.ปัตตานี บนถนนสาย 4060 สายบุรี-รือเสาะ ท้องที่หมู่ 2 ต.กะรุบี อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี เมื่อช่วงเช้าของวันจันทร์ที่ 17 มี.ค.68 โดยแรงระเบิดทำให้เกิดเพลิงที่ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ทำให้ ม.ญ.ซูรยานี ได้รับบาดเจ็บ มีบาดแผลไฟไหม้ที่บริเวณแขนและใบหน้า แต่ยังวิ่งหนีออกจากรถได้ทัน มีพลเมืองดีช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลกะพ้อนั้น
จากการตรวจสอบรายละเอียดของเหตุการณ์ พบว่ายังมีประชาชนที่สัญจรผ่านถนนเส้นเดียวกัน ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดด้วยอีก 3 ราย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลกะพ้อเช่นกัน ประกอบด้วย นางสาวแมยะห์ แวอีแต อายุ 18 ปี, เด็กหญิงมุสลีมี วาเจะ อายุ 6 ขวบ และ นางสาวอามีเนาะ สาอิ อายุ 61 ปี
จากการสอบสวนทราบว่า ในขณะที่ ม.ญ.ซูรยานี กำลังขับรถยนต์เก๋งของตนเองออกจากบ้านเพื่อเดินทางไปทำงาน ระหว่างก่อนจะถึงที่ว่าการอำเภอกะพ้ออีก ห่างประมาณ 500 เมตรเท่านั้น ได้เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นบริเวณใต้ท้องรถ จากนั้นได้เกิดเพลิงไหม้ขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ ม.ญ.ซูรยานี ตัดสินใจจอดรถ และวิ่งลงจากรถทันที โดยชาวบ้านที่พบเห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปช่วยเหลือ พาส่งโรงพยาบาลกะพ้อ ทั้งยังมีประชาชนโดนลูกหลงได้รับบาดเจ็บด้วยอีก 3 รายดังกล่าว
การก่อเหตุระเบิดครั้งนี้ คนร้ายได้ลอบนำระเบิดแสวงเครื่องไปติดไว้บริเวณถังน้ำมันใต้ท้องรถ ซึ่งเป็นระเบิดชนิดเดียวกันกับเหตุระเบิดติดใต้ท้องรถของเจ้าหน้าที่และรถของหน่วยงานราชการที่เกิดขึ้น 5 เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ในพื้นที่ จ.นราธิวาส แต่ใช้ระบบจุดระเบิดด้วยการตั้งเวลา
โดยกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงตั้งใจติดระเบิดแสวงเครื่องที่บรรจุในกล่องเหล็กน้ำหนัก 5 กิโลกรัม ไว้ที่บริเวณถังน้ำมันของรถยนต์เก๋งของ ม.ญ.ซูรยานี ใช้การจุดระเบิดด้วยการตั้งเวลาเอาไว้ที่ 09.50 น. ซึ่งเป็นเวลาปกติที่รถเก๋งคันดังกล่าวจะถูกขับไปจอดในพื้นที่ของที่ว่าการอำเภอกะพ้อแล้ว
แต่ปรากฏว่าวันนี้ ม.ญ.ซูรยานี ติดธุระ ทำให้เดินทางไปทำงานสายกว่าปกติ ส่งผลให้ระเบิดทำงานขึ้นบนถนนระหว่างรถกำลังแล่น ใกล้จะถึงที่ว่าการอำเภอกะพ้อ ทำให้ ม.ญ.ซูรยานี ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
แต่เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า เป้าหมายหลักของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบยังคงเป็นการก่อเหตุระเบิดในสถานที่ราชการ ไม่ได้มุ่งหวังทำร้ายหรือเอาชีวิต ม.ญ.ซูรยานี ทว่าวิธีการแบบนี้ก็ไม่สามารถควบคุมผลที่จะเกิดขึ้นได้เลย
ความคืบหน้าทางคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งตรวจสอบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (ซีซีทีวี) ตามเส้นทางที่รถยนต์ของ ม.ญ.ซูรยานี แล่นผ่าน เพื่อย้อนดูว่ารถคันนี้เดินทางไปที่ไหน และมีการจอดแวะที่ใดบ้าง รวมถึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางบริเวณโดยรอบบ้านของ ม.ญ.ซูรยานี ด้วย เพราะคนร้ายอาจลอบติดระเบิดตั้งแต่ช่วงที่รถจอดในละแวกบ้าน หรือในบริเวณบ้านก็เป็นได้
@@ ยิง ตชด.ที่ตันหยง ซ้ำรอยสังหาร “ร้อยโท” เขื่อนบางลาง
อีกคดีหนึ่ง เป็นความคืบหน้ากรณีคนร้ายซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย คือ ส.ต.ท.ก่อพงศ์ บุญอ่อน อายุ 27 ปี เหตุเกิดที่ฐานปฏิบัติการหมวดเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 9333 ( มว.ฉก.ตชด.9333) ตั้งอยู่ที่บ้านรอตันบาตู หมู่ 7 ต.กะลุวอ อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำของวันอาทิตย์ที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น
ต่อมาในช่วงเช้าของวันจันทร์ที่ 17 มี.ค. พล.ต.ต.ไมตรี สันตยากุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส (ผบก.ภ.จว.นราธิวาส) ได้นำกำลังตำรวจ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อีโอดี และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส เดินทางไปยังฐานปฏิบัติการ มว.ฉก.ตชด.9333 เพื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุ และหาหลักฐานเชื่อมโยง
จากการตรวจสอบพบว่า กระเบื้องแผ่นเรียบภายในห้องพักของ ส.ต.ท.ก่อพงศ์ มีร่องรอยถูกกระสุนปืนของคนร้ายเป็นรูโหว่ 1 จุด และห้องพักของเพื่อน ห้องที่ 2 และ 3 ฝาผนังมีร่องรอยถูกกระสุนปืนทะลุผ่านไปโดนบังเกอร์ด้านหลัง ซึ่งห่างจากห้องพักห้องที่ 3 ประมาณ 10 เมตร
นอกจากนี้ที่บริเวณป่ายางพาราด้านซ้ายมือของห้องพัก ส.ต.ท.ก่อพงศ์ ห่างจากห้องพักประมาณ 250 เมตร ซึ่งมีรั้วลวดหนามหีบเพลงกางขึงอยู่ พบว่าเป็นจุดที่คนร้ายใช้ซุ่มยิง ส.ต.ท.ก่อพงศ์ เนื่องจากมีร่องรอยที่คนร้ายเหยียบย่ำจนหญ้าเตียนราบเป็นวงกว้าง แต่ไม่พบหลักฐานปลอกกระสุนปืนของคนร้ายแต่อย่างใด
ด้านแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงที่ติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรง เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นลักษณะเดียวกันกับเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนซุ่มยิง ร.ท.ภูวิวัฒน์ คำสง บริเวณหน้าฐานปฏิบัติการในพื้นที่ ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จ.ยะลา จนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 11 มี.ค.68 ที่ผ่านมา โดยเป็นกลยุทธ์ใหม่ที่คนร้ายได้มีการวางแผนเพื่อซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ตามฐานปฏิบัติการต่างๆ ถือเป็นยุทธวิธีที่ใช้กำลังคนน้อย หลังก่อเหตุหลบหนีได้ง่าย และไม่ต้องสุ่มเสี่ยงต่อการถูกจับกุมและถูกยิงตอบโต้จากเจ้าหน้าที่ด้วย
———————————————————————————————————————————————
ที่มา : สำนักข่าวอิศรา / วันที่เผยแพร่ 17 มีนาคม 2568
Link : https://isranews.org/article/south-news/other-news/136491-batonrotu.html