จากกรณีเหตุระเบิดช็อกโลกที่ เมืองเบรุต ประเทศเลบานอน ทำให้มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก สร้างความตกตะลึงให้กับคนทั้งโลก
โดยสาเหตุของการระเบิดครั้งนี้ระบุว่ามาจากสารเคมีที่ชื่อว่า “แอมโมเนียมไนเตรท” ที่เก็บไว้ในโกดังเก่ามากถึง 2,750 ตัน ที่เก็บเอาไว้นานกว่า 6 ปี ความเสียหายไกลเป็นวงกว้าง ทำให้เมืองเบรุตราบเป็นหน้ากลองภายในเสี้ยววินาที
ฐานเศรษฐกิจตรวจสอบข้อมูล ความอันตรายของ “แอมโมเนียมไนเตรท (ammonium nitrate)” จากกรมวิชาการเกษตรและหลายหน่วยงานพบว่า แอมโมเนียมไนเตรท มีสูตรทางเคมีว่า NH4NO3 มีไนโตรเจน 34% ละลายน้ำได้ดีมาก ดูดความชื้นง่ายมาก ดินเป็นกรดเมื่อใส่ปุ๋ยชนิดนี้ ถ้าผสมปุ๋ยชนิดนี้กับกรดกำมะถัน จะทำให้เกิดระเบิดได้
ปุ๋ยแอมโมเนียมไนเตรท (ammonium nitrate, NH4NO3) มีธาตุไนโตรเจน ซึ่งเป็นหนึ่งในธาตุอาหารหลักของพืช แต่คำถามว่าปุ๋ยเคมีสำหรับบำรุงพืชพันธุ์จะเป็นระเบิดปุ๋ยได้อย่างไร
การนำปุ๋ยแอมโมเนียมไนเตรทมาใช้เป็นวัตถุดิบในการทำระเบิดมีมานานแล้วโดยนำไปผสมกับเชื้อเพลิง เนื่องจากระเบิดที่ได้ใช้งานง่าย และมีราคาถูก จึงนิยมใช้มากในเหมืองถ่านหิน เหมืองหิน เหมืองแร่โลหะ และอื่นๆ สำหรับการนำปุ๋ยแอมโมเนียมไนเตรทไปใช้ทำระเบิดเพื่อก่อการร้ายเริ่มครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1970 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
ปัจจุบันประเทศในแถบตะวันออกกลาง เช่น อัฟกานิสถาน เป็นต้น ก็ยังนิยมทำและใช้อยู่ เนื่องจากระเบิดแบบนี้ใช้ปุ๋ยเคมีเป็นส่วนประกอบ จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า ระเบิดปุ๋ย (fertilizer bomb)
ปุ๋ย แอมโมเนียมไนเตรท (ammonium nitrate) และกลุ่มไนเตรตทั้งหลายเช่น แคลเซียมแอมโมเนียมไนเตรท (calcium ammonium nitrate) เป็นปุ๋ยหัวเชื้อราคาถูกมีลักษณะเป็นผงสีขาวเหมือนน้ำตาลทราย จัดอยู่ในกลุ่มวัตถุระเบิด ใช้ทำระเบิดแรงดันสูง
ปัจจุบันแอมโมเนียมในเตรท ถูกควบคุมโดยกระทรวงกลาโหม และกรมวิชาการเกษตร ไม่รับขึ้นทะเบียนเป็นปุ๋ยเคมี ตามประกาศ โดยกรมวิชาการเกษตร ได้ยกเลิกการควบคุมแอมโมเนียมไนเตรทเป็นปุ๋ยเคมีและปุ๋ยยูเรีย สามารถนำไปใช้เป็นส่วนประกอบในการระเบิดได้ เช่น การระเบิดหินในเหมืองแร่ต่างๆ
ซึ่งการนำยูเรียไปใช้เพื่อเป็นวัตถุระเบิดมีการควบคุมอยู่แล้ว เว้นแต่นำไปใช้เป็นปุ๋ยเท่านั้น จึงอยู่ในการควบคุมของกรมวิชาการเกษตร สำหรับกระทรวงพาณิชย์กฎหมายฉบับนี้ สามารถเป็นผู้กำกับดูแลเส้นทางเดินของปุ๋ยยูเรีย มิให้นำไปใช้เป็นวัตถุระเบิดได้เช่นเดียวกับกระทรวงกลาโหม
——————————————————
ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ / 5 สิงหาคม 2563
Link : https://www.thansettakij.com/content/444393