สหรัฐเละ! – 7 ม.ค. ซีเอ็นเอ็น และ เอพี รายงานสถานการณ์การเมืองสหรัฐอเมริกาสุดปั่นป่วนโกลาหล และน่าอับอายไปทั่วโลก เมื่อฝูงชนฝ่ายขวาจัดที่สนับสนุนประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ บุกเข้าอาคารรัฐสภา หรือ ยูเอส แคปิตอล กลางกรุงวอชิงตัน เมืองหลวงของประเทศ ขัดขวางการประชุมลงมติรับรองชัยชนะของนายโจ ไบเดน ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี จนล่มกลางคัน บรรดาส.ส.ต้องอพยพออกจากห้องประชุม และกรุงวอชิงตันต้องประกาศเคอร์ฟิว
สื่อมวลชนสหรัฐต่างรายงานความโกลาหลที่น่าตกตะลึงเกินคาดคิดเมื่อช่วงเย็นวันพุธ ตามเวลาสหรัฐ ทำลายภาพความเป็นผู้นำโลกประชาธิปไตยของสหรัฐอย่างยับเยิน โดยเฉพาะการนำและยุยงมวลชนให้ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ของนายทรัมป์เอง
ทรัมป์ชมมวลชนสุดพิเศษ
แม้ว่าหลังจากเกิดเหตุสุดปั่นป่วนนี้ผ่านไปสองชั่วโมง นายทรัมป์โพสต์ทวิตเตอร์ช่วง 16.40 น. บอกม็อบกองเชียร์ว่า “ผมเข้าใจความเจ็บปวดของท่าน เข้าใจความเจ็บใจ แต่ท่านต้องกลับบ้านได้แล้ว” อย่างไรก็ตามข้อความต่อมายังชื่นชมว่าเป็นมวลชน “สุดพิเศษ” ที่ร่วมต่อต้านการโกงเลือกตั้ง
นายทรัมป์โพสต์ข้อความนี้หลังจากสมาชิกพรรครีพับลิกัน ฝ่ายเดียวกับตนเอง ขอร้องให้ช่วยแสดงบทบาทห้ามปรามความรุนแรงที่รัฐสภา รวมถึงนายไมก์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีที่อยู่ในห้องประชุม ก็เรียกร้องให้มวลชนออกจากเมืองหลวงไปในทันที
เช่นเดียวกับนายไบเดนที่นอกจากประณามมวลชนใช้ความรุนแรงกลุ่มนี้ ว่าทำร้ายภาระหน้าที่อันทรงคุณค่าของชาวเมริกัน ยังเรียกร้องให้นายทรัมป์ออกโทรทัศน์บอกให้มวลชนที่สนับสนุนตนเองยุติความรุนแรงได้แล้ว
“การโจมตีอาคารรัฐสภาไม่ใช่การชุมนุมเรียกร้อง แต่เป็นการก่อจลาจล ประชาธิปไตยนั้นเปราะบาง การจะปกป้องไว้ให้ได้ จะต้องอาศัยผู้นำที่อุทิศตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ไม่ใช่เพื่ออำนาจของตัวเอง” นายไบเดนกล่าว
ลำดับเหตุการณ์
เหตุการณ์โกลาหลที่น่าอดสูครั้งนี้เริ่มตั้งแต่ช่วงบ่ายที่มวลชนสนับสนุนนายทรัมป์ชุมนุมรอบบริเวณรัฐสภา เริ่มเคลื่อนเข้าใกล้อาคารรัฐสภา หลังจากได้ยินนายทรัมป์ปราศรัยโจมตีว่า การเลือกตั้งนี้โกงมโหฬารอย่างที่เคยพูดมาตลอด แม้ไม่มีหลักฐานรองรับ
13.55 น. ตำรวจรัฐสภาอพยพพนักงานบางส่วนออกจากอาคารสำนักงานสภาผู้แทนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ที่มีฝูงชนหลายพันคนมาชุมนุมอยู่ด้านนอก
14.20 น. การอภิปรายในห้องประชุมวุฒิสภาหยุดชะงัก หลังจากตำรวจตัดสินใจล็อกดาวน์อาคาร เพื่อสกัดกั้นม็อบ ขณะที่ม็อบทำลายสิ่งกีดขวางพยายามเข้ามาในอาคาร บางคนปะทะกับตำรวจที่ฉีดสเปรย์พริกไทยและแก๊สน้ำตาไล่ฝูงชนออกไป
14.30 น. ม็อบบุกเข้าอาคารได้ เจ้าหน้าที่รีบล็อกประตูห้องประชุมสภาผู้แทนฯ จนส.ส.พากันตกใจ และ วาระการประชุมรับรองชัยชนะของนายไบเดนหยุดชะงัก จากนั้นตัวแทนตำรวจสภาแจ้งส.ส.ว่าให้อยู่ในความสงบ ส่วนนักข่าวและคนอื่นๆ ให้นั่งอยู่กับที่ อย่าเพิ่งลุกไปไหน
14.40 น. มูเรียล บาวเซอ ร์ นายกเทศมนตรีวอชิงตัน ดี.ซี. ประกาศเคอร์ฟิวในเมืองหลวง เริ่มตั้งแต่ 6 โมงเย็นเป็นต้นไป ถึง 6 โมงเช้าวันที่ 7 ม.ค.
15.25 น. นายทรัมป์เรียกร้องให้ผู้สนับสนุนตนเองแสดงออกอย่างสันติ แต่ไม่ได้เรียกร้องให้สลายตัว ทั้งยังยุให้ขับไล่ส.ส.ที่อ่อนแอ
15.30 น. มีคนถูกยิง 1 รายที่รัฐสภา ระหว่างมวลชนหนุนนายทรัมป์ยังคงบุกเข้าอาคาร และปะทะกับตำรวจ ทราบต่อมาว่าผู้ถูกยิงเป็นผู้หญิง และเสียชีวิตแล้ว ขณะที่สมาชิกและนักการเมืองต่างเรียกร้องกดดันให้นายทรัมป์ออกมาห้ามปรามม็อบ
16.40 น. นายทรัมป์ทวีตข้อความบอกมวลชนตนเองให้กลับบ้านได้ แต่สถานการณ์ยังคงตึงเครียดต่อเนื่องจนฟ้ามืด จากนั้นเฟซบุ๊ก ยูทูบ และ ทวิตเตอร์ ต่างลบข้อความของนายทรัมป์ที่เขียนถึงผู้สนับสนุน รวมถึงข้อความที่ต่อว่ารองประธานาธิบดีเพนซ์ว่า ไม่มีความกล้าหาญในสิ่งที่ควรทำ
ด้านสื่อมวลชนสหรัฐต่างรายงานตำหนิท่าทีของนายทรัมป์อย่างไม่ขาดสาย ว่ามีส่วนรับผิดชอบเต็มๆ กับความรุนแรงที่เกิดขึ้น
ส่วนนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนฯ แถลงว่า หลังจากหารือหลายฝ่ายแล้ว เห็นควรให้เปิดประชุมอีกครั้งช่วงค่ำวันพุธ (ตามเวลาสหรัฐ) เพื่อทำภารกิจให้เสร็จสิ้น
////
———————————————————————————————————————————————————
ที่มา : ข่าวสด / วันที่ 7 มกราคม 2564
Link : https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_5682397