เยอรมันเล็งควบคุมกฎหมายครอบครองอาวุธปืนให้รัดกุมมากขึ้นหลังสมาชิกขบวนการหัวรุนแรงขวาจัดวางแผนก่อรัฐประหาร หวังนำระบอบกษัตริย์กลับมาปกครองประเทศ
จากเหตุการณ์ความไม่สงบดังกล่าว ส่งผลให้ตำรวจเยอรมันสามารถควบคุมตัวผู้อยู่เบื้องหลังแผนโค่นล้มรัฐบาลเพื่อเตรียมนำระบบกษัตริย์กลับมาปกครองประเทศได้ราว 25 ราย ซึ่งถือว่าสร้างความตกใจให้กับหลายฝ่ายเนื่องจากเยอรมันถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีระบอบประชาธิปไตยแข็งแกร่งที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป
ตามคำกล่าวอ้างของอัยการ ผู้ต้องสงสัยหลายคนเป็นสมาชิกของขบวนการ “Reichsbuerger (พลเมืองของไรช์)” ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่เชื่อมั่นในการดำรงอยู่ของรัฐสมัยใหม่ในดินแดนเยอรมัน ขณะที่ทางด้านรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย Nancy Faeser ให้สัมภาษณ์เตือนว่า กลุ่ม Reichsbuerger เป็นหนึ่งในตัวแทนของภัยคุกคามต่อเยอรมนี ทั้งยังมีจำนวนสมาชิกที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ 2,000 ถึง 23,000 คนในช่วงปีที่ผ่านมา
อัยการให้ความเห็นเพิ่มเติมว่ากลุ่มผู้ต้องสงสัยมีความรู้เรื่องการใช้อาวุธปืน มิหนำซ้ำยังพยายามเฟ้นหาสมาชิกที่เคยร่วมงานกับกองทัพทั้งในอดีตและปัจจุบัน รวมถึงมีการสะสมอาวุธปืนไว้ในครอบครอง
“คนกลุ่มนี้ไม่ใช่ผู้วิกลจริตที่ไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อสังคม แต่พวกเขาเป็นผู้ต้องสงสัยว่าก่อการร้าย ซึ่งในขณะนี้กำลังถูกควบคุมตัวก่อนนำไปพิจารณาคดี เราต้องการให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายกดดันกฎหมายนี้อย่างสูงสุด เพื่อไม่ให้พวกเขามีอาวุธไว้ในครอบครอง และนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมรัฐบาลควรควบคุมกฎหมายเรื่องปืนให้มีความเข้มงวดมากขึ้น” Faeser กล่าว
ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่เคยบุกค้นเพื่อยึดอาวุธจากสมาชิกกลุ่ม Reichsbuerger มาได้แล้วกว่า 1,000 คน แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่ายังมีสมาชิกอีกอย่างน้อย 500 คน ที่มีใบอนุญาตพกปืน แม้เยอรมันจะเป็นประเทศที่มีกฎควบคุมปืนเข้มงวดที่สุด และการออกใบอนุญาติพกปืนจะเป็นเรื่องยากในประเทศนี้
นอกจากนี้ หนึ่งในสิ่งที่สั่นคลอนความเชื่อมั่นของชาวเยอรมันที่สุดคือพบว่า สมาชิกข้าราชการพลเรือนระดับสูงอย่าง อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติและผู้พิพากษา Birgit Malsack-Winkemann เป็นหนึ่งในสมาชิกที่ถูกจับกุมตัวในข้อหาวางแผนก่อความไม่สงบ
ด้านกระทรวงมหาดไทยยังมีแนวโน้มเล็งคุมเข้มสำหรับขั้นตอนลงโทษทางวินัยของข้าราชการพลเรือนเพื่อให้สามารถไล่ออกได้ไวขึ้น หากประพฤติตัวไม่เหมาะสมหรือเป็นภัยต่อประเทศ แต่คาดว่าขั้นตอนนี้อาจใช้เวลาพิจารณาหลายปี
———————————————————————————————————————————————————————
ที่มา : โพสต์ทูเดย์ / วันที่เผยแพร่ 12 ธ.ค.65
Link : https://www.posttoday.com/international-news/688430