กองทัพสหรัฐฯ ใช้เครื่องบิน F-22 ขึ้นไปยิงจรวดเข้าใส่บอลลูนสอดแนมของจีนจนตกลงมา หลังจากที่มันลอยอยู่เหนือน่านฟ้าของประเทศเกือบสัปดาห์
ทางการจีนออกมาแสดงความไม่พอใจต่อการกระทำของสหรัฐฯ อย่างหนัก และทำให้หลายฝ่ายกำลังจับตาดูว่าหลังจากนี้จีนจะมีการตอบโต้เรื่องนี้กลับอย่างไรนอกจากการแถลงการณ์ประณาม
ล่าสุดนักประดาน้ำของ “กองทัพเรือสหรัฐฯ” ก็เริ่มปฏิบัติการเก็บกู้ซาก “บอลลูน”ที่กระจายเป็นวงกว้างเพื่อนำไปตรวจสอบ และพยายามเก็บกู้ข้อมูลจากอุปกรณ์ที่ติดตั้งอยู่ในบอลลูนลูกดังกล่าว
สถานีโทรทัศน์ CNN ของสหรัฐฯ รายงานว่า ขณะนี้กองทัพเรือสหรัฐฯ กำลังดำเนินการเก็บกู้ซากบอลลูนของจีนที่ถูกยิงตกลงมาเมื่อวานในมหาสมุทรแอตแลนติก
โดยนักข่าว CNN ที่ปักหลักรายงานอยู่บริเวณชายหาดนอร์ท เมอร์เทิล ( North Myrtle Beach) ของรัฐเซาท์แคโรไลนา ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดที่บอลลูนตกลงมารายงานว่า เห็นเจ้าหน้าที่ลำเลียงวัตถุที่มีรูปร่างคล้ายกล่องหลายชิ้นขึ้นจากเรือ ก่อนที่จะนำขึ้นไปบนรถบรรทุก
ปฎิบัติการเก็บกู้หลักฐานรวมถึงข้อมูลที่อยู่ในบอลลูนสอดแนมของจีน เกิดขึ้นแทบจะในทันที หลังจากที่เมื่อวานนี้เพนตากอนได้ส่งเครื่องบินขับไล่ F-22 ขึ้นไป ก่อนจะใช้จรวดนำวิถีอากาศสู่อากาศรุ่น AIM-9X ยิงเข้าใส่บอลลูน
ที่ต้องใช้เครื่องบินขับไล่สมรรถนะสูงเพราะบอลลูนลูกดังกล่าวมีขนาดใหญ่ประมาณรถบัส 3 คันต่อกัน และลอยอยู่ที่ความสูง 60,000 ฟุตหรือ 18,300 เมตรจากพื้นดิน ซึ่งเป็นความสูงที่มากกว่าระดับที่เครื่องบินพาณิชย์ใช้บินกัน (เครื่องบินพาณิชย์บินสูง 40,000 ฟุตหรือ 12,000 เมตร)
หลังถูกจรวดพุ่งเข้าใส่ บอลลูนดังกล่าวจะแตกกระจายออกเป็นชิ้น ๆ ก่อนจะตกลงในมหาสมุทรแอตแลนติก ห่างจากชายฝั่งรัฐเซาท์แคโรไลนาประมาณ 6 ไมล์ทะเล หรือประมาณ 11 กิโลเมตร จุดดังกล่าวมีความลึกของน้ำประมาณ 47 ฟุตหรือประมาณ 15 เมตร
แหล่งข่าวจากเพนตากอนระบุว่า ระยะห่างจากฝั่งรวมถึงความลึกของจุดที่ยิงบอลลูนตกเป็นเจตนาและความตั้งใจ โดยเป็นระยะที่ไม่ห่างจากฝั่งมากเกินไปและน้ำไม่ลึกจนเกินไปเพื่อให้ง่ายต่อการเก็บกู้หลักฐาน จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่า สิ่งที่กองทัพเรือเก็บกู้ได้มีอะไรบ้าง
บอลลูนลูกนี้ลอยเข้ามาในน่านฟ้าของสหรัฐฯ ทางด้านรัฐอลาสกาตั้งแต่วันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา หลังจากนั้นก็ลอยไปทางตะวันตก ผ่านฐานทัพอากาศมาล์มสตรอมในรัฐมอนทานา
หลังจากนั้นก็เข้าสู่ตอนกลางของประเทศ ก่อนจะไปที่น่านฟ้าเหนือมหาสมุทรแอตแลนติกด้านรัฐเซาท์แคโรไลน่าและถูกยิงตกในที่สุด
โดยหลังจากบอลลูนถูกยิงตก กระทรวงการต่างประเทศของจีนออกมาแสดงความไม่พอใจอย่างหนัก โดยระบุว่าสหรัฐฯ ทำเกินกว่าเหตุทั้งๆ ที่รัฐบาลจีนได้อธิบายไปแล้วว่าบอลลูนลูกดังกล่าวมีภารกิจด้านอุตุนิยมวิทยาไม่ใช่เพื่อสอดแนม แต่เพราะสภาพอากาศที่ย่ำแย่จึงลอยเข้าไปน่านฟ้าของสหรัฐฯโดยไม่ได้ตั้งใจ
ส่วนปฏิกิริยาของชาวจีนในเรื่องนี้ก็มีหลากหลาย บางส่วนไม่สบายใจกับความขัดแย้งรอบใหม่ที่ปะทุขึ้นและระบุว่าเข้าใจการกระทำของสหรัฐฯ ในขณะที่บางคนบอกว่า สหรัฐฯ อ่อนไหวและตื่นตูมจนเกิดเหตุ
ในวันที่ทางการจีนยังออกมายืนยันหนักแน่นว่าบอลลูนลูกดังกล่าวไม่ใช่เพื่อการสอดแนมแต่เป็นบอลลูนทางอุตุนิยมวิทยา
คำถามคือ เรื่องนี้พิสูจน์ยากหรือไม่ ผู้เชี่ยวชาญหลายคนระบุว่าไม่ยากที่จะพิสูจน์ เพราะอุปกรณ์ในบอลลูนจะแตกต่างกันมาก
โดยบอลลูนเพื่อการพยากรณ์อากาศจะมีเครื่องวัดอุณหภูมิ เครื่องวัดความดันในอากาศ อุปกรณ์ตรวจวัดปริมาณไอน้ำ-ความชื้นในอากาศ อุปกรณ์ตรวจวัดความเร็วของกระแสลม
ส่วนบอลลูนสอดแนมจะมีองค์ประกอบที่สำคัญคือ กล้องถ่ายภาพมุมสูงซึ่งมีความละเอียดสูงมาก ที่สำคัญบอลลูนสอดแนมมักจะมีอุปกรณ์ที่สามารถควบคุมทิศทางการเคลื่อนของบอลลูนได้
ซึ่งในการแถลงข่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา พลจัตวาแพทริก ไรเดอร์ โฆษกกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ หรือเพนตากอนได้ออกมาให้ข้อมูลว่า บอลลูนลูกดังกล่าวมีความสามารถในการบังคับทิศทางเองได้ด้วยตัวเอง
การให้สัมภาษณ์แบบนี้ของเพนตากอนคือการบอกเป็นนัยๆว่า บอลลูนนี้เป็นบอลลูนสอดแนม
ที่น่าสนใจคือ หากเป็นบอลลูนสอดแนมที่มีอุปกรณ์เซ็นเซอร์ตรวจจับข้อมูล อุปกรณ์นี้สามารถส่งต่อข้อมูลที่ตรวจจับได้แบบเรียลไทม์ไปยังดาวเทียมของจีนที่โคจรอยู่ในอวกาศก่อนที่ดาวเทียมจะส่งข้อมูลเหล่านั้นกลับไปยังรัฐบาลจีน และถ้ามีอาจหมายถึงข้อมูลความมั่นคงส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ ตกอยู่ในมือของจีนแล้ว
บอลลูนสอดแนมเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ทางทหารที่ยังมีการใช้อยู่ ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีสอดแนมที่ทันสมัยขึ้นอย่างเช่นดาวเทียม
ที่หลายประเทศยังใช้บอลลูนสอดแนมอยู่ เนื่องจากมีข้อดีหลายอย่างเช่น สามารถลอยอยู่เหนือพื้นที่เป้าหมายได้จากระดับความสูงตั้งแต่ไม่กี่สิบเมตรจนถึงความสูงระดับเดียวกับเครื่องบินพาณิชย์ ในขณะที่ดาวเทียมต้องอาศัยการบันทึกภาพพื้นที่เป้าหมาย จากนอกโลก ซึ่งอยู่ห่างไกลออกไป
และเมื่อบอลลูนสามารถเข้าใกล้พื้นที่เป้าหมายได้มากกว่าดาวเทียม และด้วยความเร็วที่ช้ากว่าดาวเทียมทำให้ภาพที่ถ่ายได้จากบอลลูนสอดแนม มีความชัดเจนมากกว่าภาพที่ถ่ายจากดาวเทียมในอวกาศที่ใช้เวลาในการโคจรรอบโลก 1 รอบเพียง 90 นาที
สำนักข่าวอัลจาซีรารายงานว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พบสิ่งที่เชื่อว่าเป็นบอลลูนสอดแนมในน่านฟ้าของสหรัฐฯ เพราะก่อนหน้านี้ในยุครัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคยมีการพบบอลลูนสอดแนมจากจีนลอยเข้ามาในสหรัฐฯ อย่างน้อย 3 ครั้ง ระหว่างเดือนมกราคม 2017 จนถึงเดือนมกราคม 2021 แต่ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลว่ารัฐบาลของทรัมป์สั่งให้ดำเนินการกับบอลลูนสอดแนมดังกล่าวหรือไม่ อย่างไร
นอกจากบอลลูนที่ลอยอยู่เหนือน่านฟ้าของสหรัฐฯ แล้ว มีรายงานว่าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีบอลลูนลักษณะเดียวกันลอยผ่านอยู่เหนือน่านฟ้าในหลายประเทศของอเมริกากลางและอเมริกาใต้ โดยคาดว่าจะเป็นบอลลูนสอดแนมเช่นเดียวกับที่เจอในสหรัฐฯ
เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนออกมายอมรับว่า บอลลูนที่เจอในน่านฟ้าของอเมริกาใต้เป็นของจีนจริง แต่ไม่ใช่บอลลูนสอดแนมที่มีวัตถุประสงค์ทางการทหาร โดยบอลลูนลูกดังกล่าวได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศจนลอยออกนอกเส้นทาง
————————————————————————————————————————————————————————————————–
ที่มา : PPTV Online / วันที่เผยแพร่ 6 ก.พ.66
Link : https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/189952