ปราจีนบุรี – ผวจ.ปราจีนบุรี เตรียมแถลงกรณีท่อวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 หายจากโรงไฟฟ้าไอน้ำ บริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด คาดถูกนำไปขายเป็นของเก่า ชี้อันตรายรุนแรงถึงขั้นผู้สัมผัสเนื้อเน่าภายใน 3 วัน ขณะบริษัทเจ้าของโรงงานตั้งรางวัล 5 หมื่นบาท ผู้แจ้งเบาะแสนำสู่การตามกลับคืน
จากกรณีที่มีกระแสข่าวท่อวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 ได้หายไปจากโรงไฟฟ้าพลังไอน้ำ ซึ่งเป็นของบริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 1 ม.2 ถนนทางหลวง 3079 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งประกอบธุรกิจประเภทไฟฟ้า ก๊าซ ไอน้ำ และระบบการปรับอากาศ โดยให้บริการด้านการจ่ายไฟฟ้า ติดตั้งวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม 137 (Cesium-137, Cs-137) ซึ่งวัสดุดังกล่าวมีลักษณะเป็นท่อกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 นิ้ว ยาว 8 นิ้ว น้ำหนัก 25 กิโลกรัม โดยใช้เป็นเครื่องมือวัดระดับของขี้เถ้าในไซโลของโรงไฟฟ้า
โดยหากนำไปกำจัดไม่ถูกวิธีจะเป็นอันตรายอย่างมากต่อผู้ที่ได้สัมผัสถึงขั้นทำให้เนื้อเน่าภายใน 3 วัน และในเบื้องต้น บริษัทเจ้าของท่อกัมมันตรังสีดังกล่าวได้ตั้งรางวัลสำหรับผู้แจ้งเบาะแสที่นำไปสู่การติดตามกลับคืนเป็นเงินจำนวน 5 หมื่นบาทนั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ได้เตรียมที่จะเปิดแถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าน่าจะถูกคนเก็บของเก่านำไปขายเป็นเศษเหล็ก แต่สิ่งที่น่ากังวลคือหากผู้ที่รับซื้อนำไปกำจัดไม่ถูกวิธีจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ที่ได้สัมผัสธาตุกัมมันตรังสีดังกล่าว
เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ท่อวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 อาจจะทำให้ผิวหนังของผู้สัมผัสเกิดอาการเน่าภายใน 3 วัน ในกรณีที่รังสีมีความเข้มข้น และผู้ที่เก็บวัสดุดังกล่าวไปไม่ควรผ่าท่อรังสีโดยเด็ดขาด
ขณะที่บริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด ได้ทำการติดตั้งท่อดังกล่าวตั้งแต่ปี 2534 รวมจำนวน 10 ท่อ แต่เพิ่งทราบว่าหายไปจากโรงไฟฟ้าเมื่อ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา จนทำให้มีข้อกังวลว่าหากผู้ที่นำออกไปจากโรงงานนำวัสดุดังกล่าวไปขายหรือนำไปกำจัดไม่ถูกวิธีจะมีผลกระทบด้านสุขภาพของผู้ที่สัมผัส เนื่องจากทางการแพทย์ยืนยันว่าสารดังกล่าวอันตรายต่อสุขภาพ
อีกทั้งเมื่อพิจารณาจากสภาพภายนอกของท่อบรรจุสารกัมมันตรังสี หรือนิวเคลียร์ ซีเซียม-137 ซึ่งมีลักษณะเป็นเครื่องเก่า อาจเชื่อได้ว่าน่าจะหลุดหล่นลงมาจากการติดตั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าผู้ที่พบเห็นอาจไม่รู้ว่าคืออะไร จึงเก็บไปขายโดยยังไม่รู้ถึงวัตถุประสงค์ของการใช้สารซีเซียม-137 ที่มีไว้เพื่อตรวจสอบรอยร้าวของท่อในโรงงานไฟฟ้าไอน้ำ
ทั้งนี้ สารกัมมันตรังสี ในท่อซีเซียม-137 มีลักษณะพิเศษที่รังสีที่ปล่อยออกมาจะมองไม่เห็น และการตรวจวัดระดับความเข้มข้นรังสีในธรรมชาติไม่เกิน 7 Rem แต่ในธรรมชาติไม่ควรเกิน 1 มิลลิเร็มต่อชั่วโมง ที่สำคัญสารชนิดนี้ไม่มีกลิ่น ไม่มีสี จึงทำให้ผู้ที่สัมผัสในครั้งแรกจะไม่มีอาการ แต่ภายใน 3 วัน จุดที่สัมผัสจะเริ่มเปื่อยเน่า และภูมิต้านทานในร่างกายจะค่อยๆ ลดลงและหายไป เนื่องรังสีจะเข้าไปทำลายแอนติบอดี้ในร่างกาย และต่อมาผมจะเริ่มร่วง
อนึ่ง ซีเซียม-137 คือสารไอโซโทปของซีเซียมซึ่งเป็นสารกัมมันตรังสี ที่มีเลขอะตอมเท่ากับ 55 มีครึ่งชีวิต 30 ปี สลายโดยปล่อยรังสีบีตา และรังสีแกมมา เป็นหนึ่งในผลผลิตการแบ่งแยกนิวเครียสและซีเซียม-137 ยังเป็นสารก่อมะเร็ง ซึ่งโอกาสที่จะเป็นมะเร็งต้องได้รับสารปนเปื้อน เมื่อได้รับเข้าไปจะกระจายไปทั่ว ส่วนใหญ่จะสะสมอยู่ในเนื้อเยื่อ ตับ และไขกระดูก
@@ปราจีนฯ ตั้งศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม 137 สูญหาย รับมือเหตุอันตราย
ปราจีนบุรี – ผวจ.ปราจีนบุรี สั่งตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์แก้ไขปัญหาวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม 137 สูญหาย รับมือเหตุอันตราย ยกระดับป้องกันภัยจากระดับ 1 เป็น 2 ขณะบริษัทเจ้าของวัสดุชี้ยังไม่มีสัญญาณซีเซียม 137 หลุดจากเครื่องกำบัง ยันให้รางวัล 50,000 บาท คนแจ้งเบาะแสสู่การติดตามกลับคืน
จากกรณีที่มีกระแสข่าวท่อวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 ได้หายไปจากโรงไฟฟ้าพลังไอน้ำ บริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 1 ม.2 ถนนทางหลวง 3079 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งวัสดุดังกล่าวมีลักษณะเป็นท่อกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 นิ้ว ยาว 8 นิ้ว น้ำหนัก 25 กิโลกรัม ใช้เป็นเครื่องมือวัดระดับขี้เถ้าในไซโลของโรงไฟฟ้า ซึ่งหากนำไปกำจัดไม่ถูกวิธีจะเป็นอันตรายอย่างมากต่อผู้ที่ได้สัมผัสนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (14 มี.ค.) นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี พร้อมด้วยนายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) และนายกิตติพันธ์ จิตต์เป็นธรรม ผู้แทนบริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด ได้ร่วมกันแถลงข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อคลายข้อสงสัยของประชาชน ณ ห้องประชุม 402 ศูนย์ราชการจังหวัดปราจีนบุรี
โดย นายกิตติพันธ์ จิตต์เป็นธรรม ผู้แทนบริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด เผยว่า วัสดุกัมมันตรังสีได้สูญหายไปจากบริษัทประมาณวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมาและจากการสอบถามพนักงานขับรถที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ทราบว่า ได้ยินเสียงดังคล้ายมีโลหะตกลงพื้นแต่ไม่คิดว่าเป็นวัตถุอันตราย
ทั้งนี้ วัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม 137 ติดตั้งอยู่บนถังไซโลเก็บขี้เถ้าที่มีความสูงจากพื้นดินประมาณ 16-17 เมตร และคาดว่าจะตกอยู่ในพื้นที่ 200 ตารางเมตรจากจุดที่มีการติดตั้ง ซึ่งวัสดุกัมมันตรังสีมีลักษณะเป็นแท่งทรงกระบอกมีตะกั่วปกป้องอยู่ชั้นใน และห่อหุ้มด้วยเหล็กขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 นิ้ว ความยาว 8 นิ้ว น้ำหนัก 25 กิโลกรัม
และยังมีป้ายติดรายละเอียดแสดงข้อมูลของวัสดุกัมมันตรังสี รวมทั้งมีสัญลักษณ์ทางรังสีขนาดเล็กติดอยู่ ซึ่งวัสดุกัมมันตรังสีดังกล่าวผ่านการใช้งานมาแล้วประมาณ 28 ปี
หลังเกิดเหตุบริษัทได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินภายในโรงงานตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา และจัดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจำนวน 50 คน โดยมีสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติให้การสนับสนุนปฏิบัติการค้นหาวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม 137 ที่สูญหาย โดยไม่พบวัสดุกัมมันตภาพรังสีที่สูญหายอยู่ภายในโรงงาน จึงสามารถสรุปได้ว่าอาจมีการนำวัสดุกัมมันตภาพรังสีออกนอกโรงงานไปแล้ว
“ในวันนี้ชุดปฏิบัติการตรวจสอบวัสดุกัมมันตรังสีสูญหาย โดยเจ้าหน้าที่จาก อ.ศรีมหาโพธิ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ และบริษัทได้ออกค้นหาและตรวจสอบโดยใช้เครื่องมือวัดทางรังสีใน อ.ศรีมหาโพธิ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง เช่น ร้านขายของเก่า ร้านรับซื้อเศษโลหะมือสอง เป็นต้น ซึ่งหากวัสดุกัมมันตรังสียังอยู่ในสภาพเดิมจะไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อม”
แต่หากมีการถอดประกอบ หรือชำแหละเครื่องกำบังที่ห่อหุ้มออกจนทำให้วัสดุกัมมันตรังสีมีลักษณะเปลือยเปล่า จะมีรัศมีการแผ่รังสีออกจากวัสดุประมาณ 1-2 เมตร และหากมีการสัมผัสวัสดุกัมมันตรังสีโดยตรงจะทำให้ผู้สัมผัสเกิดผื่นแดง หรือเป็นแผลไหม้บริเวณที่สัมผัสวัสดุกัมมันตรังสีได้
“จากการประเมินสถานการณ์ ณ ปัจจุบัน ยังไม่มีข้อบ่งชี้ว่าวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม 137 ที่สูญหายได้หลุดออกจากเครื่องกำบัง ดังนั้น จะไม่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนและสิ่งแวดล้อม” ผู้แทนบริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด กล่าว
อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ได้มอบหมายให้หน่วยงานราชการ และบริษัทเตรียมความพร้อมรับมือกรณีวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม 137 สูญหายโดยเบื้องต้น ได้สั่งการให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปราจีนบุรี ดำเนินการยกระดับภัย 1 เป็นระดับ 2 ตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ.2564-2570
โดยให้มีการจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์แก้ไขปัญหาวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม 137 จ.ปราจีนบุรี เพื่อเป็นศูนย์ประสานการปฏิบัติในการแก้ไขปัญหาวัสดุกัมมันตรังสี และให้สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดปราจีนบุรี จัดเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของพนักงานในโรงงานที่อาจได้รับอันตรายจากวัสดุกัมมันตรังสี
รวมทั้งดูแลการจ้างงานในกรณีมีการหยุดการทำงาน ตลอดจนสิทธิสวัสดิการของพนักงานในระหว่างที่หยุดการทำงานในระหว่างตรวจหาและแก้ไขปัญหาวัสดุกัมมันตรังสีสูญหาย รวมทั้งให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี ประสานโรงพยาบาลเตรียมความในการบำบัดรักษาผู้ป่วยที่อาจได้รับผลกระทบจากวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม 137 สูญหาย
ขณะที่บริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด ยังยืนยันว่าจะมอบเงินรางวัล จำนวน 50,000 บาท ให้ผู้ชี้เบาะแสจนสามารถนำวัสดุกัมมันตรังสีที่สูญหายกลับมาได้ โดยสามารถแจ้งข้อมูลได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 08-5835-0190 ตลอด 24 ชั่วโมง
——————————————————————————————————————————————
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 14 มี.ค. 2566
Link :https://mgronline.com/local/detail/9660000023905
https://mgronline.com/local/detail/9660000024035