ระแวงไปหมด! สหรัฐฯ เล็งขึ้นบัญชีแบล็กลิสต์การค้า ‘บ.คลาวด์ของจีน’ อ้างเป็นภัยความมั่นคง

Loading

    จีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เอ่ยเตือนในวันพุธ (26 เม.ย.) ว่าบริษัทด้านคลาวด์คอมพิวติ้งของจีนอย่าง หัวเว่ย คลาวด์ (Huawei Cloud) และอาลีบาบา คลาวด์ (Alibaba Cloud) อาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ และเตรียมที่จะพิจารณาเพิ่มรายชื่อบริษัทเหล่านี้ลงในบัญชีควบคุมการส่งออก   เมื่อวันอังคาร (25) วุฒิสมาชิกรีพับลิกัน 9 คนได้เรียกร้องให้รัฐบาลประธานาธิบดี โจ ไบเดน ใช้มาตรการคว่ำบาตรกับหัวเว่ย คลาวด์ อาลีบาบา คลาวด์ รวมถึงผู้ให้บริการคลาวด์เซอร์วิสรายอื่นๆ ในจีน อีกทั้งยังเสนอให้ ไรมอนโด เพิ่มชื่อบริษัทเหล่านี้ลงในบัญชีดำ ‘Entity List’ ซึ่งหมายถึงกลุ่มองค์กรหรือบุคคลที่สหรัฐฯ เชื่อว่ามีความเชื่อมโยงหรืออาจก่อความเสี่ยงต่อความมั่นคงหรือผลประโยชน์ด้านนโยบายต่างประเทศของอเมริกา   ล่าสุด ไรมอนโด ได้ออกมากล่าวหาบริษัทคลาวด์ของจีนมีแนวโน้มที่จะเป็นภัยคุกคามต่ออเมริกาจริง   “ดิฉันได้เพิ่มรายชื่อบริษัทจีนกว่า 200 รายลงในบัญชี Entity List และเรายังคงทำงานอย่างแข็งขันและต่อเนื่องเพื่อตรวจสอบภัยความมั่นคงเพิ่มเติม และหากเราเชื่อว่ามีบริษัทไหนที่จำเป็นต้องถูกขึ้นบัญชีดำ เราก็จะไม่ลังเลเลย” เธอแถลงต่อคณะกรรมาธิการการจัดสรรงบประมาณของวุฒิสภาสหรัฐฯ (Senate…

ทริคใหม่ ติด AI ให้กล้องจับความร้อน หารหัสผ่านจากคีย์บอร์ดได้

Loading

  อีกหนึ่งวิธีแฮ็กรหัสผ่าน ก็คือการเช็คร่องรอยจากอุปกรณ์โดยตรง ซึ่งผู้ใช้มักจะเหลือไว้โดยไม่รู้ตัว จนเปิดโอกาสให้ผู้ไม่หวังดีแอบสังเกตเห็นได้ และนำไปสู่การแฮ็กรหัสผ่านได้ในที่สุด   นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยกลาสโกลว์ (Glasglow) เผยวิธีการเดารหัสผ่านจากแป้นคียบอร์ดและหน้าจอสมาร์ทโฟน ด้วยการใช้กล้องตรวจจับความร้อน มาค้นหาร่องรอยการกดรหัสผ่านได้   ส่วนนี้คนร้ายสามารถจ้องเล่นงานเหยื่อ ที่ใช้คอมฯ ในที่สาธารณะ หรืออาจขโมยสมาร์ทโฟนมา จากนั้นก็ใช้กล้องตรวจจับความร้อน หาตำแหน่งรอยนิ้วมือที่มีการกดรหัสผ่าน และใช้ระบบ AI ที่ชื่อ ThermoScure มาช่วยคาดเดาอีกที จนได้รหัสผ่านที่ถูกต้องในที่สุด   มีรายงานด้วยว่า ThermoScure สามารถคาดเดารหัสผ่านได้ถูกต้องอย่างน้อย 62 – 93% และยังใช้เวลาวิเคราะห์ได้เร็วสุดภายใน 20 วินาทีด้วย แต่ก็ขึ้นอยู่กับความยาวของรหัสผ่าน โดยยิ่งมีความยาวมาก ก็ยิ่งใช้เวลา   ส่วนคียบอร์ดหากใช้ Keycab หรือปุ่มกดแบบทำจากพลาสติก PBT ก็จะลดอัตราความสำเร็จลงเหลือ 14% ในขณะที่พลาสติกแบบ ABS จะมีอัตราความสำเร็จ 50%   สุดท้ายนี้ตัวระบบ AI ดังกล่าว เป็นเพียงเครื่องมือทดสอบสำหรับการวิจัยนี้เท่านั้น ยังไม่ได้หลุดไปยังกลุ่มแฮ็กเกอร์…

เลขาธิการ ‘นาโต’ ลั่น ยานหุ้มเกราะ-รถถัง ร่วม 1,900 คัน ถึงยูเครนแล้ว!

Loading

  นายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) กล่าวเมื่อวันที่ 27 เมษายนว่า พันธมิตรและหุ้นส่วนนาโตได้ส่งมอบยานพาหนะทางการทหารร่วม 1,900 คัน ซึ่งประกอบไปด้วย ยานหุ้มเกราะจำนวน 1,550 คัน และรถถังอีก 230 คันให้แก่ยูเครน เพื่อใช้ในการจัดตั้งหน่วยปฏิบัติการและช่วยกอบกู้ดินแดนของยูเครนจากกองทัพรัสเซียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว   สโตลเทนเบิร์กแถลงข่าวว่า การส่งมอบยานพาหนะเหล่านี้ นับตั้งแต่ที่รัสเซียบุกโจมตีจนเกิดเป็นสงครามในยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2022 คิดเป็นกว่า 98% ของจำนวนยานรบภาคพื้นดินทั้งหมดที่สัญญาว่าจะสนับสนุนให้แก่เคียฟ   “เบ็ดเสร็จแล้วพวกเราได้ฝึกฝนและติดตั้งกองพลยานเกราะใหม่ของยูเครนมากกว่าเก้ากองพล สิ่งนี้จะทำให้ยูเครนยืนอยู่ในจุดที่แข็งแกร่งในการกอบกู้ดินแดนที่ถูกรัสเซียยึดครองต่อไปได้” เลขาธิการนาโตกล่าว นอกจากนี้ ก่อนหน้านี้ รัฐสมาชิกของนาโตยังได้สนับสนุนระบบป้องกันการโจมตีทางอากาศและปืนใหญ่แก่ยูเครน ขณะที่โปแลนด์และสาธารณรัฐเช็กได้ส่งมอบเครื่องบินขับไล่ มิก-29 ซึ่งถูกออกแบบโดยสหภาพโซเวียตแก่ยูเครนเช่นกัน อีกทั้งนาโตยังได้ฝึกซ้อมนายทหารของยูเครนจำนวนหลายพันนายในการใช้อาวุธต่างๆ   สโตลเทนเบิร์กได้ตอกย้ำการสนับสนุนทางทหารแก่ยุเครนที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนี้ พร้อมเตือนว่า “พวกเราไม่ควรประมาทรัสเซีย” ซึ่งกำลังเคลื่อนพลภาคพื้นดินมากขึ้นและเต็มใจที่จะส่งกองทัพจำนวนหลายพันนายออกไปรบ แม้ว่าพวกเขาจะมีโอกาสที่จะเสียชีวิตสูงก็ตาม   ในการเผชิญหน้ากับสงครามที่มีทีท่าว่าจะยืดเยื้อนี้ สโตลเทนเบิร์กกล่าวว่า สมาชิกนาโตจะต้องอดทนต่อความยากลำบากและสนับสนุนสิ่งที่จำเป็นต่อยูเครนเพื่อให้มีชัยเหนือรัสเซียต่อไป   เลขาธิการนาโตผู้นี้กล่าวด้วยว่า การประชุมสุดยอดนาโตในเดือนกรกฎาคมที่ประเทศลิทัวเนียจะเป็นการวางแผนการสำหรับโครงการสนับสนุนยูเครนไปอีกหลายปี และกล่าวว่า ตนมีความรู้สึกยินดีต่อการที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนและประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี…

‘จีน’ ออกกฎหมายต้านจารกรรม สร้างความเสี่ยงให้บริษัทต่างชาติ

Loading

    จีนได้ขยายขอบเขตของกฎหมายต่อต้านการจารกรรม (Counterespionage Law) ซึ่งเดิมกว้างขวางอยู่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์เตือนว่าอาจสร้างความเสี่ยงทางกฎหมายมากขึ้น หรือเพิ่มความไม่แน่นอนแก่บริษัทต่างชาติ นักข่าว และนักวิชาการ   สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานในวันนี้ (27 เม.ย.) ว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้ขยายคำจำกัดความของการจารกรรมจาก การรวบรวมความลับของรัฐและข่าวกรอง ไปสู่ “เอกสาร ข้อมูล วัตถุ หรือสิ่งของใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงและผลประโยชน์ของชาติ” โดยไม่มีการระบุถึงแนวทางที่เฉพาะเจาะจงสำหรับวิธีการกำหนดเงื่อนไขเหล่านี้   สำหรับการโจมตีทางไซเบอร์ที่มุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลที่สำคัญของจีน ที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานด้านการสอดแนม ก็ถูกจัดประเภทเป็นการจารกรรมภายใต้กฎหมายฉบับใหม่ด้วยเช่นกัน โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ก.ค.   ข้อกฎหมายดังกล่าวซึ่งได้รับการอนุมัติจากสภานิติบัญญัติของจีนเมื่อวานนี้ (26 เม.ย) มีขึ้นท่ามกลางการเพิ่มขึ้นของการเน้นย้ำเรื่องความมั่นคงของชาติภายใต้การนำของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ซึ่งเป็นผู้นำที่เด็ดเดี่ยวที่สุดของจีนในยุคนี้         —————————————————————————————————————————————— ที่มา :                   …

เมื่อ AI โคลน ‘เสียงมนุษย์’ เกือบ 100% นักพากย์เสี่ยงตกงาน-มิจฉาชีพใช้เรียกค่าไถ่

Loading

    เมื่อ AI สามารถเลียนแบบตัวตนของมนุษย์ อย่าง “เสียงพูด” ได้สำเร็จ ในระดับที่มนุษย์ไม่สามารถแยกแยะได้ สิ่งนี้จะสร้างผลกระทบเป็นวงกว้างต่อมนุษย์มากน้อยเพียงใด และมีวิธีรับมืออย่างไรบ้าง   Key Points   -บริษัทจ้างมนุษย์พากย์เสียง 30 วินาที ราคา 2,000 ดอลลาร์หรือราว 70,000 บาท ในขณะที่เสียงพากย์จาก AI ราคาเพียงแค่ 27 ดอลลาร์หรือราว 1,000 บาทต่อเดือนเท่านั้น   -นักพากย์เสียงหลายคนเซ็นสัญญาให้บริษัทลูกค้าสามารถใช้เสียงตัวเองได้ไม่จำกัด รวมถึงขายให้ฝ่ายที่สาม ซึ่งอาจใช้เสียงของมนุษย์ในการฝึก AI   -หากเสียงคนในครอบครัวทางโทรศัพท์ ขอให้เราโอนเงินผ่านช่องทางที่ไม่ใช่ธนาคาร ไม่สามารถตรวจสอบเส้นทางการเงินได้ ก็ขอให้ระวังว่า อาจเป็นมิจฉาชีพ   ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) ในปัจจุบันกำลังเป็นดาบสองคม ด้านหนึ่งช่วยแบ่งเบาภาระมนุษย์ ประมวลข้อมูลมหาศาลได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่อีกด้านหนึ่งก็กำลังกลายเป็นภัยคุกคามต่อมนุษย์ เมื่อ AI เข้าสู่จุดที่เรียกว่า “เลียนแบบเสียงพูดมนุษย์”…

เทียบปฏิบัติการระงับเหตุกราดยิงจากโคราชสู่เพชรบุรี

Loading

    นับตั้งแต่เหตุกราดยิงครั้งร้ายแรงที่ จ.นครราชสีมา มาจนถึงเหตุกราดยิงที่ จ. หนองบัวลำภู รวมทั้งกรณีล่าสุดที่ จ. เพชรบุรี ล้วนลงเองด้วยปฏิบัติการวิสามัญฆาตกรรม หรือไม่ก็ผู้ก่อเหตุฆ่าตัวตาย   แต่คำถามที่มักเกิดขึ้นระหว่างปฏิบัติการ คือ เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการทันสถานการณ์และให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบเพียงพอหรือไม่   ในกรณีกราดยิงที่ จ. เพชรบุรี ครั้งล่าสุด พล.ต.ท. ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 7 อธิบายกับสื่อมวลชนว่า   “การปฏิบัติการครั้งนี้เป็นไปตามขั้นตอนยุทธวิธีจากเบาไปหาหนัก พยายามป้องกันประชาชน และดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ปลอดภัยทุกนาย ตามนโยบายที่ พ.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. มอบหมาย เพราะสถานการณ์ยืดเยื้อ ไม่อยากให้เกิดการสูญเสีย พยายามให้โอกาสเกลี้ยกล่อมให้มอบตัวหลายครั้ง ทั้งให้แม่และเพื่อนพยายามเกลี้ยกล่อมแต่ไม่เป็นผล คนร้ายยังยิงต่อสู้อย่างต่อเนื่อง”   จากพฤติกรรมรุนแรงของผู้ก่อเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และผู้บาดเจ็บอีก 3 ราย ทั้งประชาชนและตำรวจ จึงจำเป็นต้องใช้ปฏิบัติการเด็ดขาด ขณะชุดจับกุมเข้าปฏิบัติการพบผู้กระทำผิดยังต่อสู้และยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ กระสุนถูกโล่กันกระสุนถึง…