เอกสารจากศาลเเสดงการสอดแนมข่าวกรองต่างประเทศ (ฟีซา) เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) มักละเมิดความเป็นส่วนบุคคลของชาวอเมริกัน ด้วยการลักลอบเข้าถึงฐานข้อมูล เพื่อค้นหาชื่อของเหยื่ออาชญากรรม และผู้เข้าร่วมการประท้วง
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ว่า ฐานข้อมูลดังกล่าว ซึ่งเอฟบีไอเข้าถึงราว 278,000 ครั้ง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ประกอบด้วยอีเมลส่วนตัว, ข้อความ และการสื่อสารอื่น ๆ ที่สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ (เอ็นเอสเอ) ใช้ค้นหา เมื่อมีการสอดแนมชาวต่างชาติ
ถึงแม้ว่าเอฟบีไอควรเข้าถึงฐานข้อมูลของเอ็นเอสเอ เฉพาะเมื่อมีการสืบสวนปัญหาข่าวกรองต่างประเทศ แต่ความคิดเห็นของศาล แสดงให้เห็นว่า พวกเขาใช้ฐานข้อมูลนี้อย่างไม่เป็นทางการ เพื่อสอบสวนคดีภายในประเทศด้วย ซึ่งในบางกรณี มันไม่มีข่าวกรองต่างประเทศ หรืออาชญากรรมในประเทศ ที่เป็นเหตุผลรองรับ ให้เอฟบีไอใช้สิทธิเข้าถึงฐานข้อมูลได้
อนึ่ง เอกสารข้างต้นถูกเผยแพร่ ขณะที่สภาคองเกรสกำลังอภิปราย เรื่องการต่ออายุมาตรา 702 ซึ่งเป็นกฎหมายที่อนุญาตให้เอ็นเอสเอ สามารถเข้าถึงบัญชีอินเทอร์เน็ตที่มีสหรัฐเป็นเจ้าของ เพื่อสอดแนมเป้าหมายข่าวกรองต่างประเทศ โดยสมาชิกสภาหลายคนกล่าวว่า มาตราข้างต้น จำเป็นต้องได้รับการแก้ไข เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของชาวอเมริกันให้ดียิ่งขึ้น
Breaking news: A newly unsealed court document shows the FBI wrongly searched a vast digital database for information about U.S. citizens and others more than 278,000 times in 2020 and early 2021.https://t.co/Sq9jRCUYrJ
— The Washington Post (@washingtonpost) May 19, 2023
แม้หน่วยข่าวกรองหลายแห่งกังวลว่า การเปิดเผยของฟีซา อาจทำให้การดำเนินงานของพวกเขาหยุดชะงัก แต่บรรดาผู้สันทัดกรณีด้านสิทธิทางกฎหมาย และพรรคเดโมแครต ระบุว่า มันแสดงให้เห็นถึงความจำเป็นของการปฏิรูป
“รัฐบาลสหรัฐขยายการสอดแนมภายใต้มาตรา 702 อย่างมาก ในรูปแบบที่สภาคองเกรสไม่เคยพิจารณา แต่กลับปฏิเสธที่จะบอกชาวอเมริกันว่า พวกเขากำลังทำอะไรอยู่” นายแพทริค ทูมีย์ จากสหภาพเสรีภาพพลเมืองอเมริกัน (เอซีแอลยู) กล่าว
ขณะที่ นายรอน ไวเดน สมาชิกวุฒิสภาผู้วิจารณ์มาตรา 702 มาอย่างยาวนาน กล่าวว่า เอกสารของศาลข่าวกรอง เผยให้เห็นถึง “การละเมิดกฎหมายอย่างน่าตกใจ” พร้อมกับเสนอแนะว่า หากมีการบังคับใช้มาตรา 702 ใหม่อีกครั้ง มันจะต้องมีการปฏิรูปทางกฎหมาย และทำให้แน่ใจว่า มีการตรวจสอบกับการถ่วงดุล เพื่อยุติการละเมิดเหล่านี้
——————————————————————————————————————————————
ที่มา : dailynews / วันที่เผยแพร่ 22 พ.ค. 2566
Link : https://www.dailynews.co.th/news/2357946/