นักสืบขุดประวัติ “บอดี้การ์ด” ของ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล แชร์ว่อนเน็ต เคยเป็นผู้ต้องโทษ ทำให้ถูกสั่งพักงาน งานนี้คนขุดมีหนาว เพราะ “ข้อมูลอาชญากรรม” เป็นข้อมูลอ่อนไหวที่ได้รับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมาย “PDPA” เอาผิดทั้งแพ่ง อาญา ปกครอง
ชาวเน็ตขุด “ข้อมูลอาชญากรรม” ของบอดี้การ์ดส่วนตัว “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล แชร์ว่อนโลกโซเชียล เคยผ่านการต้องโทษ พร้อมเปิดเผยภาพใบหน้าขณะนำตัวมาแถลงข่าว ทำให้บอดี้การ์ดคนนี้ถูกสั่งพักงาน
คำถามคือ “ข้อมูลอาชญากรรม” เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับการคุ้มครองจาก “พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562” หรือ กฎหมาย “PAPA” ถ้าหากเจ้าของข้อมูลเอาเรื่อง คนเปิดเผยข้อมูลจะได้รับโทษอย่างไรบ้าง
“ดร.ศิวรักษ์ ศิวโมกษธรรม” เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) เคยให้สัมภาษณ์ในเวทีอบรมเสวนาเชิงปฏิบัติการการส่งเสริมองค์ความรู้ด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับสื่อมวลชนเมื่อเร็วๆ นี้ว่า “PAPA” ในส่วน “ข้อมูลอาชญากรรม” เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว หากมีคนนำไปเปิดเผยจนกระทบต่อเจ้าของข้อมูล มีโทษทางแพ่ง อาญา และปกครอง ปรับสูงสุด 5 ล้านบาท
นักข่าวเข้ารับการอบรมเสวนาเชิงปฏิบัติการการส่งเสริมองค์ความรู้ด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับสื่อมวลชน จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ เมื่อวันที่ 21 – 22 ก.ค. 2566
เจ้าของข้อมูลสามารถไปฟ้องศาลแพ่งเพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย ศาลอาญารับโทษทั้งจำและปรับ และร้องเรียนทางปกครอง ผ่าน สคส. ได้เลย
“ข้อมูลอาชญากรรม” เป็น “ข้อมูลอ่อนไหว” ในมาตรา 26 หากกระทำผิดมีโทษปรับทางปกครอง โดย สคส. เป็นผู้มีอำนาจปรับ ซึ่งค่าปรับตั้งแต่ 1-5 ล้านบาท เงินค่าปรับ สคส. ส่งเข้ากองคลังรัฐบาล
ความรับผิด/โทษ
“ข้อมูลอาชญากรรม” เช่น การถูกจับกุม ถูกกักขัง การฉ้อโกง คำสั่งศาล คำพิพากษา ประวัติการติดคดี การกระทำความผิดทางเพศ การติดยาเสพติด เป็นต้น
ส่วน “ข้อมูลอ่อนไหว” ได้แก่ ศาสนา กรุ๊ปเลือด โรคประจำตัว เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใด ที่กระทบต่อเจ้าของข้อมูล
สคส.แนะนำสำหรับเจ้าของข้อมูลที่ได้รับผลกระทบให้ติดต่อไปยังคนที่เปิดเผยโดยตรง เพื่อขอให้ลบข้อมูล ถ้าหากไม่ลบก็ดำเนินการฟ้องแพ่ง อาญา และปกครอง แต่สำหรับใครที่ต้องการจัดการขั้นเด็ดขาด ก็สามารถฟ้องโดยไม่ต้องไปร้องขอให้ลบข้อมูลออก
———————————————————————————————————————————————————–
ที่มา : คมชัดลึก ออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 25 ก.ค.66
Link : https://www.komchadluek.net/quality-life/well-structured/554446