วันที่ 6 พ.ย.66 เวลา 13.30 น. นำโดย พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. รรท.รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พร้อมด้วย ผู้บังคับบัญชาระดับรองผู้บัญชาการ และ ผู้บังคับการในสังกัด บช.สอท. ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPC) และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องแถลงผลการปฏิบัติการ “DATA GUARDIANS OPERATION ปฏิบัติการล่าทรชน คนค้าข้อมูล” ณ อาคารประชุมสัมมนาและฝึกอบรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (เมืองทองธานี) ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเดือน ก.ค.66 ที่ผ่านมา ตำรวจไซเบอร์ กก.3 บก.สอท.5 ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายผดุงเกียรติ อายุ 28 ปี วิศวะกรหนุ่ม ได้ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งนายผดุงเกียรติฯ ทำงานเป็นแอดมินดูแลระบบหลังบ้านของเว็บการพนันออนไลน์และได้นำฐานข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้นำไปขายต่อให้แก่พวกธุรกิจสีเทาและเครือข่ายมิจฉาชีพรวมกว่า 2 ล้านรายชื่อนั้น
ต่อมา ช่วงเดือน ส.ค.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการขยายผลจนสามารถจับกุม นายศุภากรณ์ หรือ ปลื้ม อายุ 24 ปี ซึ่งทำหน้าที่เป็นพ่อค้าคนกลาง ที่รับซื้อข้อมูลจากกลุ่มลูกค้าที่เคยซื้อขายอาหารเสริมยี่ห้อดังแบรนด์หนึ่ง โดยอ้างว่า ได้ซื้อข้อมูลมากว่า 15 ล้านรายชื่อ แล้วนำมาแบ่งขายเป็นแพ็คเกจให้แก่กลุ่มที่สนใจใน Dark Web ทำรายได้กว่า 4 แสนบาทต่อเดือน
จากปฎิบัติการทั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ได้ทำการขยายผลต่อเนื่อง โดยประสานความร่วมมือกับ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPC) และ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช) จนสามารถสืบสวนพบหลักฐานความเชื่อมโยงของกลุ่มคนร้าย จนเมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 พ.ย.66 ได้ร่วมกันนำกำลังเข้าตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาสำคัญที่เกี่ยวข้องได้ 3 ราย ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี จ.กาฬสินธุ์ และ จ.อุดรธานี รายละเอียดดังนี้
นายพศิน อายุ 41 ปี ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ของบริษัทประกันภัยชื่อดัง ลักลอบนำข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าประกันนับล้านรายชื่อไปขายให้กับกลุ่มมิจฉาชีพ ซึ่งข้อมูลของลูกค้าประกันถือว่าเป็นข้อมูล เกรด A เป็นข้อมูลในเชิงลึกที่มีมากกว่าแค่ชื่อ-นามสกุล, เลขบัตรประชาชน 13 หลัก และเบอร์โทร แต่มีข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีธนาคารด้วย โดยจากการสืบสวนพบว่านายพศินเป็นผู้ขายข้อมูลเหล่านี้ ให้กับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้
ผู้ต้องหารายที่ 2 คือ นายณัฐพงษ์ อายุ 28 ปี เป็นโปรแกรมเมอร์ ที่ได้ทำการพัฒนาโปรแกรม API Bypass Face Scan และนำโปรแกรมนี้ไปขายให้กลุ่มมิจฉาชีพ โดยเป็นโปรแกรมที่สามารถเข้าไปแก้ไขโค้ดของแอปพลิเคชันธนาคาร ให้ยกเลิกเงื่อนไขการสแกนใบหน้า เมื่อมีการโอนเงินจำนวนมากกว่า 5 หมื่นบาท สร้างความสะดวกให้กลุ่มมิจฉาชีพมากยิ่งขึ้น
ผู้ต้องหารายที่ 3 คือ นายยอดชาย อายุ 24 ปี ทำหน้าที่เป็นแอดมินกลุ่มเฟซบุ๊กซื้อขายข้อมูลส่วนบุคคล โดยมีข้อมูลที่ใช้ซื้อขายมากกว่า 15 ล้านรายชื่อ ซึ่งนายยอดชายรับทำหน้าที่ไลฟ์สดให้แก่เว็บไซต์พนันออนไลน์ และได้นำข้อมูลมาจากฐานข้อมูลของเว็บพนันออนไลน์ มาขายในกลุ่มดาร์กเว็บ
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย มีความเชื่อมโยงกับผู้ต้องหาที่จับกุมไป 2 รายก่อนหน้านี้ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์เชื่อว่า อาจมีผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องอีก โดยจะทำการขยายผลจับกุมเพิ่มเติมต่อไป
——————————————————————————————————————————————
ที่มา : สวพ.FM91 / วันที่เผยแพร่ 8 พ.ย.66
Link : https://www.fm91bkk.com/newsarticle/19451