อื้ออึง!! นายกฯ อิรักซูดานี เรียกร้อง “สหรัฐฯ” ประจำการทหารอเมริกันในประเทศไม่มีกำหนด อ้างเอาไว้ต่อต้านก่อการร้าย IS

Loading

    เอเอฟพี/เอเจนซีส์ – เมื่อวานนี้ (15 ม.ค.) นายกรัฐมนตรีอิรัก โมฮัมเหม็ด เชีย อัล-ซูดานี (Mohammed Shia Al-Sudani) ออกมาปกป้องการเรียกร้องให้สหรัฐฯ ประจำการทหารภายในอิรักแบบไม่มีกำหนด ยืนยันพร้อมส่งคณะผู้แทนไปเจรจาอย่างเป็นทางการกับวอชิงตัน   เอเอฟพีรายงานวานนี้ (15 ม.ค.) ว่า ผู้นำอิรัก โมฮัมเหม็ด เชีย อัล-ซูดานี (Mohammed Shia Al-Sudani) ให้สัมภาษณ์กับวอลล์สตรีทเจอร์นัลซึ่งตีพิมพ์เผยแพร่วันอาทิตย์ (15) โดยยืนยันว่า มีความตั้งใจเพื่อส่งคณะผู้แทนไปเยือนกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อเจรจาหารือในเร็ววันนี้   ซูดานีกล่าวให้สัมภาษณ์ปกป้องข้อเรียกร้องที่เขาต้องการให้ทหารสหรัฐฯ และทหารชาติอื่นๆ ประจำการอยู่ในอิรักแบบไม่มีกำหนดว่า “ผมคิดว่าเราจำเป็นต้องมีกองกำลังต่างชาติ”   ซึ่งที่ผ่านมา กองกำลังสหรัฐฯ และกองกำลังชาตินาโต้ได้ฝึกกองทหารอิรักในการผลักดันกลุ่มก่อการร้าย IS   ผู้นำอิรักกล่าวว่า “การกำจัดก่อการร้าย IS จำเป็นต้องใช้เวลามากกว่านี้”   อ้างอิงจากอัลญะซีเราะฮ์ สื่อกาตาร์ ในการให้สัมภาษณ์เขายืนยันว่า ข้อเรียกร้องของเขาไม่มีความตั้งใจที่จะให้มีปฏิบัติการทหารต่างชาติยังคงมีอยู่ในอิรักแต่ชี้ว่า…

อังกฤษเล็งเพิ่มอำนาจตำรวจเพื่อยุติการประท้วง หวั่นส่งผลกระทบประชาชน

Loading

    รัฐบาลอังกฤษภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี ริชี ซูนัค จะประกาศข้อเสนอใหม่ ๆ เพื่อปราบปรามการประท้วง ในวันนี้ (16 ม.ค.) โดยจะมอบอำนาจพิเศษให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเข้ามาดำเนินการเพื่อป้องกันเหตุการณ์ชะงักงันอันเนื่องมาจากการประท้วง   ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การประท้วงในอังกฤษมักเกี่ยวข้องกับปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่งส่งผลให้มีการปิดพื้นที่ส่วนใหญ่ใจกลางกรุงลอนดอนและปิดกั้นการจราจรบนทางหลวงสายสำคัญ ซึ่งทำให้ต้องออกกฎเพิ่มอำนาจพิเศษให้ตำรวจเพื่อเข้ามาหยุดยั้งความวุ่นวาย   รัฐบาลอังกฤษได้ผ่านกฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหานี้ในปี 2565 แต่กำลังวางแผนที่จะดำเนินการเพิ่มเติมด้วยกฎหมายชุดใหม่ที่รู้จักกันในชื่อ ร่างกฎหมายความสงบเรียบร้อยของประชาชน (Public Order Bill)   ร่างกฎหมายดังกล่าวได้รับการเผยแพร่เมื่อปีที่แล้ว และกำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการอภิปรายในรัฐสภา ซึ่งได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากกลุ่มอิทธิพลเมืองที่กล่าวว่าเป็นการต่อต้านประชาธิปไตยและให้อำนาจแก่ตำรวจมากเกินไป   รัฐบาลต้องการแก้ไขร่างกฎหมายความสงบเรียบร้อยของประชาชนก่อนที่จะออกเป็นกฎหมาย เพื่อขยายคำจำกัดความทางกฎหมายของ “การหยุดชะงักอย่างร้ายแรง” เพื่อให้ตำรวจมีความยืดหยุ่นมากขึ้น และให้ความชัดเจนทางกฎหมายว่าอำนาจใหม่จะถูกนำมาใช้เมื่อใด   นายซูนัคกล่าวในแถลงการณ์เมื่อค่ำวานนี้ว่า “สิทธิในการประท้วงเป็นหลักการพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตยของเรา แต่สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องที่แน่นอน เราไม่สามารถปล่อยให้การประท้วงจากคนส่วนน้อยส่งผลกระทบต่อชีวิตของประชาชนส่วนใหญ่ได้ เราจะต้องดำเนินการให้เรื่องนี้ยุติลง”   ทั้งนี้ รัฐบาลอังกฤษกล่าวว่า หากกฎหมายใหม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา ก็จะช่วยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเข้ายุติการประท้วงได้ทันที       ——————————————————————————————————————————————————————– ที่มา :       …

ภัยคุกคามใหม่! สหรัฐคุมเข้มกฎเปลี่ยนปืนพกเป็นปืนยาว

Loading

  เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทางการสหรัฐประกาศว่า กำลังกระชับกฎเกี่ยวกับภัยคุกคามจากปืนที่ค่อนข้างใหม่ ซึ่งกลายเป็นสิ่งที่น่าสังเกตมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นั่นคือ การเปลี่ยนปืนพกให้กลายเป็นปืนไรเฟิลลำกล้องสั้นที่เป็นอันตรายถึงชีวิตมากกว่าเดิม   สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 15 ม.ค. ว่า กฎระเบียบใหม่มุ่งเป้าไปที่การใช้ซองปืนสะพายไหล่แบบติดได้ หรือสายโยง กับปืนที่ถูกจัดว่าเป็นปืนพก ซึ่งมีการควบคุมที่แตกต่างจากปืนยาว และหมวดหมู่แยกของปืนไรเฟิลลำกล้องสั้น หรือปืนที่มีลำกล้องยาวต่ำกว่า 16 นิ้ว   ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีการขาย “ปืนพกที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้” จำนวนหลายล้านกระบอก ซึ่งบ่อยครั้งเป็นอาวุธกึ่งอัตโนมัติที่เมื่อติดตั้งด้วยสายสะพายไหล่แบบถอดได้และอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ แล้ว มันจะมีการทำงานที่คล้ายกับปืนยาว เพียงแต่จะมีลำกล้องที่สั้นกว่า   กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ ร่วมกับสำนักงานสุรา ยาสูบ และอาวุธปืน (เอทีเอฟ) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ควบคุมปืน กล่าวว่า ปืนพกใด ๆ ที่มีสายสะพายไหล่ติดอยู่ จะถือว่าเป็นปืนไรเฟิลลำกล้องสั้น   “เป็นเวลาหลายทศวรรษแล้ว ที่รัฐบาลกลางวางกฎระเบียบที่เข้มงวดต่อปืนไรเฟิลลำกล้องสั้น มากกว่าอาวุธปืนประเภทอื่น ๆ เพราะปืนไรเฟิลลำกล้องสั้นมีความแม่นยำเหมือนปืนไรเฟิลทั่วไป และเก็บซ่อนได้ง่ายเหมือนกับปืนพก” กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อเร็ว…

ชาวยิวชุมนุมใหญ่ใน 3 เมือง ต่อต้าน “นโยบายขวาจัด” ของเนทันยาฮู

Loading

  ประชาชนในเมืองใหญ่ 3 แห่งของอิสราเอล พร้อมใจกันจัดการประท้วง ต่อต้านนโยบายหลายด้าน ที่ประกาศโดยรัฐบาลขวาจัดของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู   สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 15 ม.ค. ว่า การประท้วงต่อต้านรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ซึ่งกลับมานำรัฐบาลขวาจัดที่สุดในประวัติศาสตร์ของอิสราเอล โดยเข้ารับตำแหน่งเมื่อปลายเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว เกิดขึ้นในเมืองใหญ่สามแห่ง ได้แก่ กรุงเทลอาวีฟ นครเยรูซาเลม และเมืองไฮฟา เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา   ด้านสื่อท้องถิ่นหลายแห่งรายงานโดยอ้างเป็นสถิติของตำรวจ ว่า จำนวนประชาชนเข้าร่วมการประท้วงในเมืองทั้งสามแห่ง มีจำนวนรวมกันไม่ต่ำกว่า 80,000 คน ถือเป็นการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลอิสราเอลครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ   ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมการเดินขบวนร่วมกันชูแผ่นป้ายข้อความ ที่มีเนื้อหาส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการต่อต้านฟาสซิสต์ คัดค้านการเหยียดผิว และแสดงความกังวลต่อการที่ “ประชาธิปไตยของอิสราเอลกำลังตกอยู่ในอันตราย” ตลอดจน “การแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม”         นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมการชุมนุมจำนวนไม่น้อยชูธงชาติปาเลสไตน์ เพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ต่อต้านการที่ นายอิตามาร์ เบน-กวีร์ รมว.ความปลอดภัยแห่งชาติของอิสราเอล…

ไอเอส-เคโว “ระเบิดพลีชีพ” โจมตีกระทรวงต่างประเทศในคาบูล-ดับทะลุ 20 ศพ!

Loading

  ไอเอส-เคโว “ระเบิดพลีชีพ” – บีบีซี รายงานวันที่ 12 ม.ค. ถึงความคืบหน้าหลังเกิดเหตุ ระเบิดพลีชีพ โจมตีด้านนอก กระทรวงการต่างประเทศอัฟกานิสถาน ในกรุงคาบูล เมื่อเวลาราว 16.00 น. ของวันพุธที่ 11 ม.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 ราย ในจำนวนนี้เป็นพลเรือน 5 ราย และหลายสิบคนได้รับบาดเจ็บ   ด้านเจ้าหน้าที่รัฐบาลตาลิบันเปิดเผยว่าคนร้ายพยายามบุกเข้าไปในที่ทำการกระทรวงต่างประเทศ แต่ล้มเหลวและตัดสินใจจุดชนวนระเบิดตัวเองด้านนอกประตูทางเข้า   เหตุการณ์นี้สร้างความหวาดวิตกว่าอาจมีการโจมตีต่อเนื่อง เพราะย่านจุดเกิดเหตุเป็นที่ตั้งของสถานทูตหลายต่างประเทศ รวมถึงสถานทูตตุรกีและจีน   ขณะเดียวกันกลุ่มรัฐอิสลามแห่งจังหวัดโคราซัน (ไอเอส-เค) ในเครือกองกำลังรัฐอิสลาม (ไอเอส) แถลงอ้างว่าอยู่เบื้องหลังเหตุดังกล่าว     Taliban security forces block a road after a suicide blast near Afghanistan’s foreign…

อิสลามาบัดโต้เดือด “เดอะซัน” เศษเหล็กเปื้อนนิวเคลียร์ “ยูเรเนียม” ขนเข้า “สนามบินฮีทโธรว์” เสี่ยงก่อการร้ายไม่ได้ออกมาจาก “การาจี”

Loading

    เอเจนซีส์ – ปากีสถานล่าสุดออกมาตอบโต้การรายงานหนังสือพิมพ์เดอะซัน ของอังกฤษที่อ้างว่า แพ็กเกจปนเปื้อนสารนิวเคลียร์ยูเรเนียมที่พบเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.ปีที่แล้วที่ท่าอากาศยานนานาชาติฮีทโธรว์ ของอังกฤษนั้นไม่ได้ส่งออกมาจากเมืองการาจีอย่างที่เข้าใจ ข้อมูลล่าสุดพบแพ็กเกจแท้จริงเป็นเศษเหล็กปนเปื้อนสารกัมมันตภาพรังสีเตรียมส่งให้บริษัทชาวอิหร่านในอังกฤษ   NDTV สื่ออินเดียวันนี้ (12 ม.ค.) เเถลงว่า กลายเป็นข่าวไปทั่วโลกในวันพุธ (11) ว่า “ปากีสถาน” มีชื่อกลายเป็นต้นทางแพ็กเกจต้องสงสัยปนเปื้อนสารยูเรเนียมที่ถูกตรวจพบในท่าอากาศยานนานาชาติฮีทโธรว์ กรุงลอนดอน อังกฤษ เมื่อค่ำวันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมา   ตำรวจสกอตแลนด์ยาร์ดอังกฤษระบุแพ็กเกจปนเปื้อนยูเรเนียม จำนวนเล็กน้อย และมีผู้รับเป็นบริษัทชาวอิหร่านในอังกฤษ   หนังสือพิมพ์เดอะซันของอังกฤษรายงานเป็นเจ้าแรกระบุว่า แพ็กเกจปนเปื้อนนั้นมีต้นทางจาก “ปากีสถาน” เดินทางเข้าอังกฤษด้วยเครื่องบินโดยสารโอมานแอร์ เที่ยวบิน WY 101 และวันนี้ (12) เดอะซันและสื่ออังกฤษหลายสำนักเปิดเผยเพิ่มเติมว่า แพ็กเกจที่ว่าเป็น “เศษเหล็ก” ปนเปื้อนยูเรเนียมที่ไม่ใช่เกรดสำหรับผลิตอาวุธ   NDTV รายงานว่า มุมตาซ ซาฮรา (Mumtaz Zahra) โฆษกกระทรวงต่างประเทศปากีสถานออกมาปฏิเสธข่าวโดยชี้ว่า ข่าวรายงานที่เผยแพร่ออกไปไม่ใช่เป็นความจริง และชี้ไม่มีการแชร์ข้อมูลอย่างเป็นทางการจากเจ้าหน้าที่อังกฤษให้ทางปากีสถาน…