รัสเซียยิงจรวดโจมตีท่อส่งก๊าซในยูเครน ปชช.ปิดบ้านหนีควันพิษ

Loading

  รัสเซียยิงขีปนาวุธถล่มถังเก็บเชื้อเพลิงและท่อส่งก๊าซ 2 แห่งในทางตอนเหนือของยูเครนเมื่อช่วงคืนวันเสาร์ (26 ก.พ.) ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้เกิดระเบิดรุนแรงและไฟไหม้ลุกท่วม กองกำลังรัสเซียได้ยิงขีปนาวุธเข้าใส่ท่อส่งก๊าซหลักในเมืองคาร์คิฟ ซึ่งเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นลำดับที่ 2 ของยูเครนช่วงคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดระเบิดใหญ่รุนแรงจนรัฐบาลออกมาประกาศกับผู้ที่อยู่อาศัยในละแวกดังกล่าวว่า “เหตุที่เกิดขึ้นไม่ใช่ระเบิดนิวเคลียร์” เนื่องจากแรงระเบิดและเปลวไฟที่ลุกท่วมนั้นดูน่ากลัวราวกับว่าเป็นอาวุธนิวเคลียร์ พร้อมกันนี้ รัฐบาลยังได้เตือนให้ประชาชนปิดหน้าต่างให้สนิท และใช้เครื่องฟอกอากาศหากเป็นไปได้ รวมถึงสวมหน้ากากที่เปียกน้ำเพื่อลดปริมาณการสูดดมควันพิษ นอกจากนี้ เมืองวาซิลกอฟ ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองคาร์คิฟไปทางตะวันตกราว 250 ไมล์ ก็ถูกกองทัพรัสเซียโจมตีถังเก็บเชื้อเพลิงด้วยเช่นกัน ทำให้รัฐบาลต้องออกมาประกาศเตือนประชาชนซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากควันพิษที่ลอยมาในอากาศ การโจมตีด้วยขีปนาวุธของรัสเซียส่งผลให้เมืองวาซิลกอฟไม่สามารถรับหรือจ่ายก๊าซได้ อีกทั้งยังเกิดระเบิดใหญ่จนสามารถมองเห็นได้แม้อยู่ในกรุงเคียฟ ขณะการสู้รบที่ดุเดือดระหว่างกองกำลังรัสเซียและยูเครนยังเป็นอุปสรรคที่ทำให้หน่วยปฏิบัติการฉุกเฉินไม่สามารถดับไฟได้ เหตุโจมตีท่อส่งน้ำมันเกิดขึ้นในขณะที่กองทหารรัสเซียเข้าปะทะกับกองกำลังยูเครนในช่วงสุดสัปดาห์นี้ โดยรัสเซียหวังที่จะยึดเมืองทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ กรุงเคียฟ เมืองคาร์คิฟ และเมืองเคอร์ซอน —————————————————————————————————————————————————— ที่มา : เดลินิวส์    /   วันที่เผยแพร่ 27 ก.พ.65 Link : https://www.bangkokbiznews.com/world/990686

ไม่เลี้ยง! ศาลอินเดียสั่งประหารชีวิต 38 คนร้าย จุดระเบิดป่วนเมืองที่ ‘คุชราต’

Loading

เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานอินเดียเข้าตรวจสอบจุดที่คนร้ายใช้ระเบิดโจมตีโรงพยาบาล Civil Hospital ในเมืองอาห์เมดาบัด เมื่อเดือน ก.ค. ปี 2008 ซึ่งเกิดขึ้นตามหลังเหตุระเบิดต่อเนื่องที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมกว่า 50 คน (แฟ้มภาพ – AFP)   ศาลอินเดียพิพากษาประหารชีวิต 38 คนร้าย ซึ่งพัวพันกับเหตุลอบวางระเบิดหลายจุดที่เมืองอาห์เมดาบัด (Ahmedabad) รัฐคุชราต เมื่อปี 2008 ซึ่งคร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปกว่า 50 คน   ศาลมีคำตัดสินเมื่อวันที่ 8 ก.พ. ว่า ผู้ต้องหาจำนวน 49 ราย มีความผิดฐานร่วมกันวางแผนใช้ระเบิดแสวงเครื่องที่บรรจุชิ้นส่วนโลหะแหลมคมโจมตีย่านตลาด รถประจำทาง และสถานที่สาธารณะอีกหลายแห่งในเมืองอาห์เมดาบัด ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าของรัฐคุชราต   อามิต ปาเทล อัยการพิเศษ ระบุว่า ผู้พิพากษาได้สั่งประหารชีวิตจำเลย 38 คน ส่วนอีก 11 คนที่เหลือถูกจำคุกตลอดชีวิต   กลุ่มซึ่งเรียกตัวเองว่า “มุจาฮิดีน อินเดีย” ได้ประกาศอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุโจมตีเหล่านี้ โดยอ้างว่าทำไปเพื่อแก้แค้นการก่อจลาจลต่อต้านชาวมุสลิมที่รัฐคุชราตเมื่อ…

‘ไบเดน’ เตือนพลเมืองอเมริกัน รีบเดินทางออกจากยูเครนทันที

Loading

  วอชิงตัน (เอพี/รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์) -ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ เตือนว่า พลเมืองอเมริกันทุกคนที่อยู่ในยูเครนควรเดินทางออกจากประเทศทันที เนื่องจากยังคงมีสัญญาณจากรัสเซียว่าจะบุกรุกยูเครนในเร็วๆ นี้ แต่ยืนยันจะไม่ส่งทหารไปรับพลเมืองอเมริกันออกจากยูเครน เพราะจะทำให้กลายเป็น “สงครามโลก”   ประธานาธิบดีไบเดนให้สัมภาษณ์ในรายการข่าว “เอ็นบีซี นิวส์” เมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเป็นการให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์เป็นครั้งแรกของไบเดนในปีนี้ว่า พลเมืองอเมริกันที่อาศัยอยู่ในยูเครนควรเดินทางออกจากประเทศทันที สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ไม่ใช่การรับมือกับกลุ่มก่อการร้าย แต่เป็นประเทศหนึ่งที่มีกองทัพขนาดใหญ่ที่สุดของโลก และสถานการณ์อาจพลิกผันได้อย่างรวดเร็ว   ผู้นำสหรัฐยังระบุว่า สหรัฐฯ จะไม่ส่งกองทัพเข้าไปช่วยอพยพพลเมืองอเมริกันออกจากยูเครน เพราะการกระทำเช่นนั้นจะมีขึ้นก็ต่อเมื่อเกิดสงครามโลกโดยที่สหรัฐฯ หรือรัสเซียเริ่มเปิดฉากยิงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เขากล่าวด้วยว่า โลกปัจจุบันนั้นแตกต่างจากอดีตที่เคยเป็น อย่างไรก็ดี ไบเดนยังกล่าวถึงประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียว่า เขาเชื่อว่าปูตินไม่โง่พอที่จะบุกยูเครน และฉลาดพอที่จะไม่ทำสิ่งใดที่จะส่งผลกระทบในทางลบต่อคนอเมริกันในยูเครน ทั้งนี้ มีชาวอเมริกันอยู่ในยูเครนประมาณ 30,000 คน   ก่อนหน้านี้ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา สหรัฐฯ เคยเตือนชาวอเมริกันในยูเครนให้รีบออกจากยูเครนมาแล้ว โดยระบุเหตุผลเดียวกันคือ ภัยคุกคามเพิ่มมากขึ้นจากการเคลื่อนไหวทางทหารของกองทัพรัสเซียรวมไปถึงการระบาดของโควิด-19 ด้วยแต่คำเตือนในเดือนที่แล้ว ยังไม่ถึงขั้นให้เดินทางออกจากยูเครนทันทีเหมือนครั้งล่าสุดนี้   อย่างไรก็ดี เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาเช่นกัน คำพูดของไบเดนเคยทำให้รัฐบาลยูเครนตกใจมาก…

เด็กรัสเซียวัย 16 ปี วางแผนระเบิดตึกในเกมส์ดัง โดนโทษจำคุก 5 ปี

Loading

  เด็กรัสเซียวัย 16 ปี วางแผนระเบิดตึกในเกมส์ดัง โดนโทษจำคุก 5 ปี เมื่อเด็กชายวัย 16 ปีคนหนึ่งในประเทศรัสเซียถูกโทษจำคุกเป็นเวลา 5 ปี หลังจากที่เขาพยายามวางระเบิดอาคารในเกมส์เสมือนจริงที่ชื่อว่า “Minecraft”     นิกิตา อูวารอฟ วัย 16 ปีถูกศาลทหารตัดสินให้จำคุก 5 ปีในข้อหา‘ฝึกปฏิบัติการก่อการร้าย’ พาเวล ชิคอฟ ผู้เป็นทนายความเด็กชายกล่าวยังมีจำเลยอีก 2 คนที่ต้องถูกดำเนินคดีแต่ทว่าพวกเขาให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ พวกเขาจึงถูกตัดสินให้รอลงอาญา ในขณะที่อูวารอฟเป็นคนเดียวที่ส่งตัวเข้าห้องขัง     อูวารอฟและเพื่อนๆ ถูกจับในข้อหาก่อกวนในช่วงฤดูร้อนปีที่ผ่านมาโดยพวกเขาได้ทำการแจกใบปลิวบนอาคารท้องถิ่นของหน่วยความมั่นคงกลาง โดยเอกสารดังกล่าวว่าด้วยเรื่องสนับสนุนนักคณิตศาสตร์และนักเคลื่อนไหวอนาธิปไตยชาวมอสโก ซึ่งถือได้ว่าเป็นความผิดเกี่ยวกับกฎหมายด้านการก่อการร้าย     เมื่อทั้ง 3 ถูกจับเรียบร้อยแล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ของพวกเขาไปตรวจสอบ จึงพบว่าทั้ง 3 ได้สร้างแบบจำลองอาคาร FSBขึ้นมาในเกมส์ Minecraft เพื่อวางแผนระเบิด       อย่างไรก็ตามอูวารอฟได้ทำการปฏิเสธข้อกล่าวหา เขาไม่ได้สารภาพผิดและหากได้รับโทษจำคุก เขากล่าวว่าเต็มใจจะยอมรับมันด้วยเกียรติและศักดิ์ศรี “สำหรับช่วงเวลาสุดท้ายในศาลแห่งนี้…

สงครามยุคใหม่! ยูเครนระดมทุนสู้รัสเซียด้วย ‘คริปโต’

Loading

กลุ่ม NGO และแฮ็กเกอร์ที่สนับสนุนยูเครนได้รับบริจาคคริปโตเพิ่มขึ้นอย่างมาก หลังเกิดวิกฤตตึงเครียดกับรัสเซีย   Reuters อ้างรายงานจากบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลด้านบล็อกเชน Elliptic ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ที่ผ่านมา ระบุว่า องค์กรเอกชนและกลุ่มนักแฮ็กข้อมูลทางไซเบอร์ที่ให้การสนับสนุนยูเครน สามารถระดมทุนในรูปแบบสกุลเงินดิจิทัลเพิ่มขึ้นอย่างมาก หลังเกิดความตึงเครียดบริเวณชายแดนยูเครน ท่ามกลางความกังวลว่ายูเครนจะถูกโจมตีโดยกองทัพรัสเซีย   รายงานระบุว่าในปี 2021 มีการบริจาคสกุลเงินดิจิทัลไปยังองค์กรเอกชนเหล่านี้มูลค่ากว่า 550,000 เหรียญสหรัฐ โดยบางส่วนใช้ในการจัดหาอุปกรณ์ให้แก่กองกำลังยูเครน ซึ่งเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับ 6,000 เหรียญสหรัฐในปี 2020   Elliptic ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดิจิทัลบนบล็อกเชน พบว่ากลุ่ม Come Back Alive ซึ่งมีฐานอยู่ในเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน เริ่มระดมทุนคริปโตในปี 2018 แต่ในช่วงครึ่งหลังของปี 2021 ได้รับบริจาคคริปโตไปแล้วมูลค่าเกือบ 200,000 เหรียญสหรัฐ   โดยกลุ่ม Come Back Alive กล่าวว่าได้จัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์และเวชภัณฑ์ให้แก่กองทัพยูเครน รวมถึงโดรน กล้องติดปืนไรเฟิลซุ่มยิง และระบบเฝ้าระวัง   “เราสร้างกระเป๋าเงิน…

ผู้นำ 3 ชาติยุโรปจับมือหาวิธีหลีกเลี่ยงสงคราม รัสเซียปรามยูเครนขอระบบต่อสู้ขีปนาวุธ ‘ธาด’จากอเมริกา

Loading

  ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส (ขวา) พูดในที่ประชุมแถลงข่าวร่วมกับประธานาธิบดีอันเดรจ์ ดูดา ของโปแลนด์ (ซ้าย) และนายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ ของเยอรมนี (กลาง) ณ สำนักนายกรัฐมนตรีเยอรมนีในกรุงเบอร์ลิน เมื่อวันอังคาร (8 ก.พ.)   บรรดาผู้นำยุโรปให้คำมั่นที่จะสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวกันในเป้าหมายของพวกเขาที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดสงครามขึ้นในทวีปนี้ ขณะที่ “มาครง” ย้ำเห็นช่องทางในการผ่อนคลายความตึงเครียดกับรัสเซียกรณียูเครน กระนั้น ล่าสุดมอสโกออกมาเตือนว่า ยูเครนกำลังยั่วยุด้วยการร้องขอระบบป้องกันขีปนาวุธ “ธาด” จากอเมริกา และหากมีการพิจารณาคำขอนั้นอย่างจริงจังก็อาจบ่อนทำลายโอกาสในการแก้ไขวิกฤตยูเครนด้วยแนวทางการทูต   หลังจากเยือนมอสโกและต่อด้วยการไปกรุงเคียฟ ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส เดินทางถึงกรุงเบอร์ลินเมื่อวันอังคาร (8 ก.พ.) และพบเจรจากับผู้นำเยอรมนีและโปแลนด์   ประมุขของฝรั่งเศสเรียกร้องให้เจรจากับรัสเซียอย่างแข็งขันและต่อเนื่อง เพราะเป็นวิธีเดียวในการผ่อนคลายความกังวลว่า รัสเซียอาจบุกยูเครน   มาครงที่หารือกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ราว 5 ชั่วโมงเมื่อวันจันทร์ (7) เสริมว่า ผู้นำแดนหมีขาวยืนยันว่า รัสเซียจะไม่เป็นต้นเหตุให้สถานการณ์ความขัดแย้งบานปลาย แม้ขณะนี้สะสมอาวุธและกำลังพลกว่า 100,000 นาย ใกล้ชายแดนยูเครนก็ตาม…