ช็อก ระเบิดโจมตีงานรำลึกสงครามโลก 1 ในซาอุฯ จนท.ต่างชาติเจ็บอื้อ

Loading

มือมืดวางระเบิดโจมตีพิธีรำลึกการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่เมืองเจดดาห์ ในซาอุดีอาระเบีย ซึ่งมีทูตต่างชาติเข้าร่วมจำนวนมาก ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า สถานทูตของประเทศฝรั่งเศส, กรีซ, อิตาลี, สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ ในกรุงริยาด ของซาอุดีอาระเบีย ออกแถลงการณ์ร่วมในวันพุธที่ 11 พ.ย. 2563 เปิดเผยว่าเกิดการโจมตีด้วยระเบิดแสวงเครื่องที่พิธีรำลึกการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งไม่มีชาวมุสลิมเข้าร่วม ที่เมืองเจดดาห์ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา และประณามว่าเป็นการโจมตีที่ “ขี้ขลาด” “เมื่อเช้า พิธีรำลึกการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 1 ในเมืองเจดดาห์ ตกเป็นเป้าการโจมตีด้วยระเบิดแสวงเครื่อง” แถลงการณ์ร่วมระบุ “การโจมตีผู้บริสุทธิ์เช่นนี้ เป็นเรื่องน่าไม่อาจและไม่มีเหตุผลสมควรใดๆ รองรับทั้งสิ้น เราขอให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหายโดยไว และขอบคุณชาวซาอุฯ ผู้กล้าหาญที่เข้ามาช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในจุดเกิดเหตุ” ด้านนาง แคลรอง โรดริเกวซ นักข่าวฝรั่งเศสซึ่งประจำการอยู่ในซาอุดีอาระเบีย ทวีตภาพที่จุดเหตุหลังเกิดการระเบิด พร้อมข้อความระบุว่า “มีผู้บาดเจ็บหลายราย…13 วันหลังจากเหตุมีดโจมตีที่สถานกงสุล ฝรั่งเศสตกเป็นเป้าอีกครั้งหรือไม่!?” นางโรดริเกวซเผยด้วยว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสถานกงสุลกรีซ ได้รับบาดเจ็บสาหัส การเปิดเผยของนางโรดริเกวซสอดคล้องกับรายงานของเจ้าหน้าที่ซาอุฯ ซึ่งระบุว่ามีเจ้าหน้าที่สถานกงสุลกรีซ กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชาวซาอุฯ บาดเจ็บ ด้าน บีบีซี…

ตำรวจลับสหรัฐฯเร่งให้การอารักขา “ไบเดน” หลังส่อแววขึ้นเป็น ปธน.สหรัฐฯ คนใหม่

Loading

เอเจนซีส์/รอยเตอร์ – หลังผลการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯที่มีแนวโน้มว่าอดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต จะชนะการเลือกตั้งวันอังคาร (3 พ.ย.) ส่งผลทำให้ตำรวจลับสหรัฐฯส่งกำลังไปยังรัฐเดลาแวร์ของไบเดน เพื่อเพิ่มการอารักขา CNN สื่อสหรัฐฯรายงานว่า ไบเดนขึ้นนำประธานาธิบดีทรัมป์ในสนามรัฐแบทเทิลกราวนด์สเตท จอร์เจีย อยู่ 917 คะแนน หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานวันนี้ (6 พ.ย.) ว่า สำนักงานตำรวจลับสหรัฐฯเรียกให้เอเยนต์ของทางหน่วยให้ไปทำหน้าที่อารักขา อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ที่เมืองวิลมิงตัน รัฐเดลาแวร์ โดยจะเริ่มตั้งแต่วันศุกร์ (6) แหล่งข่าวใกล้ชิด 2 รายชี้ เกิดขึ้นหลังทีมหาเสียงของไบเดนได้แจ้งไปยังสำนักงานตำรวจลับสหรัฐฯว่า ไบเดนจะยังคงใช้ศูนย์การประชุมวิลมิงตันไปอย่างน้อยอีก 1 วัน และอาจจะมีการแถลงใหญ่ในวันศุกร์ (6) ทั้งนี้พบว่ามีเอเยนต์ตำรวจลับสหรัฐฯหลายสิบนายถูกส่งเข้ามาเพื่อให้การอารักขาสำหรับทีมหาเสียงไบเดนที่ศูนย์เชส เซ็นเตอร์ (Chase Center) ภายในศูนย์การประชุมริเวอร์ฟรอนต์ (Riverfront convention center) เมืองวิลมิงตัน รัฐเดลาแวร์ ทั้งนี้ พบว่า การให้อารักขาไบเดนที่จะเริ่มในวันศุกร์ (6) แต่ยังไม่ใช่การให้การอารักขาแบบเต็มรูปแบบที่ให้กับผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่เป็นการเคลื่อนไหวที่จะเดินหน้าไปสู่จุดนั้น ขณะเดียวกัน รอยเตอร์รายงานวันนี้…

มะกันช็อก! FBI ทลายแผนลักพาตัว-ยึดอำนาจผู้ว่าการรัฐมิชิแกน กระพือสงครามกลางเมือง

Loading

(แฟ้มภาพ) พวกติดอาวุธกลุ่มหนึ่งยืนอยู่บริเวณประตูด้านหน้าของสำนักงานผู้ว่าการรัฐมิชิแกน หลังจากพวกผู้ประท้วงต่อต้านประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและคำสั่งหยุดอยู่บ้านสกัดการแพร่ระบาดโควิด-19 ของผู้ว่าการรัฐเกรทเชน วิทเมอร์ บุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาประจำรัฐ เมื่อวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งในกลุ่มติดอาวุธดังกล่าว มีนายพีท มิวซิโค รวมอยู่ด้วย และในวันที่ 8 ตุลาคม เขาถูกต้องข้อหาฐานมีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนลักพาตัวผู้ว่าการรัฐมิชิแกน โจมตีอาคารรัฐสภารัฐและปลุกปั่นความรุนแรง สำนักงานสืบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) เปิดเผยว่าได้ทลายแผนลักพาตัวและโค่นอำนาจ เกรทเชน วิทเมอร์ ผู้ว่าการรัฐมิชิแกน จากพรรคเดโมแครต ผู้ที่บังคับใช้มาตรการอันเข้มข้นสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ผู้ว่าการหญิงแห่งรัฐมิชิแกน เกรทเชน วิทเมอร์ สังกัดพรรคเดโมแครต ตกเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์โจมตีจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากเธอพยายามบังคับใช้มาตรการควบคุมที่เข้มงวดเพื่อป้องกันการระบาดของโควิด-19 ในรัฐของเธอตั้งแต่ช่วงต้นปี วิทเมอร์ เริ่มตกเป็นเป้าหมายของบรรดาผู้กังขาต่อโควิด-19 มากยิ่งขึ้น หลังจากมาตรการควบคุมที่เข้มงวดที่เธอบังคับใช้นั้น ถูกลบล้างโดยผู้พิพากษารายหนึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จากคำให้การที่เป็นลายลักษณ์อักษรของเอฟบีไอ แหล่งข่าวสายลับของเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายได้เข้าร่วมการประชุมหนึ่งในเมืองดับลิน มลรัฐโอไฮโอ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยในครั้งนั้นกลุ่มสมาชิกนักรบซึ่งมีฐานบัญชาการในมิชิแกน ได้หารือกันเกี่ยวกับการโค่นผู้บริหารรัฐ “ที่พวกเขาเชื่อว่าละเมิดรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ” “สมาชิกหลายคนพูดเกี่ยวกับการฆาตกรรมผู้ปกครองเผด็จการหรือลักพาตัวผู้ว่าการรัฐที่กำลังดำรงตำแหน่ง” เอกสารคำฟ้องระบุ และในวิดีโอหนึ่ง พบเห็นผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งประณามบทบาทของรัฐในการตัดสินใจเกี่ยวกับการปิดโรงยิมระหว่างมาตรการล็อกดาวน์สกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทีมสืบสวนเปิดเผยว่า คนกลุ่มนี้พบปะกันที่ห้องใต้ดินแห่งหนึ่ง ซึ่งเข้าทางประตูกลที่ซุกซ่อนไว้ใต้พรม โดยโทรศัพท์ของพวกเขาจะถูกนำไปรวมไว้อีกห้อง เพื่อป้องกันการแอบบันทึกภาพหรือเสียงสนทนา…

ประกายไฟลุกพรึบ! เครื่องบินรอง ปธน.สหรัฐฯ มีเสียว ชนนกขณะเทกออฟ

Loading

เครื่องบินของรองประธานาธิบดี ไมค์ เพนซ์ แห่งสหรัฐฯ ในวันอังคาร (22 ก.ย.) เกิดชนนกระหว่างขึ้นบินจากท่าอากาศยานในรัฐนิวแฮมป์เชียร์ ส่งผลให้นักบินต้องพาเครื่องบินวนกลับมาลงจอดที่เดิมแบบที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ จากการเปิดเผยของทำเนียบขาว รายงานข่าวระบุว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะที่ เพนซ์ กำลังบินจากท่าอากาศยานภูมิภาคแมนเชสเตอร์-บอสตัน (Manchester-Boston Regional Airport) ในรัฐนิวแฮมป์เชียร์ กลับสู่วอชิงตัน หลังเดินทางไปร่วมกิจกรรมหาเสียงหนึ่งนิวแฮมป์เชียร์ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนามเปิดเผยว่า ตอนที่เครื่องบินแอร์ฟอร์ซ 2 ขึ้นบินจากสนามบินภูมิภาคแมนเชสเตอร์-บอสตัน มันเกิดชนนก อย่างไรก็ตาม รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ และคณะทำงานไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายใดๆ ท้ายที่สุดแล้ว เพนซ์ ต้องบินกลับวอชิงตันด้วยเครื่องบินขนส่งสินค้า ที่หน่วยสืบราชการลับใช้สำหรับลำเลียงยานพาหนะของเขาเอง ภาพวิดีโอของการเทกออฟที่บันทึกไว้ได้โดย Daniel Cerritos และ MHT Aviation พบเห็นนกชนเครื่องบิน หลังจากเครื่องบินเทกออฟได้ราวๆ 7 วินาที ทำให้เครื่องบินต้องหันหัวกลับไปยังท่าอากาศยานต้นทาง —————————————————- ที่มา : MGR Online / 23 กันยายน 2563 Link : https://mgronline.com/around/detail/9630000097348

สหรัฐสกัดจดหมายใส่สารพิษ’ไรซิน’ส่งถึง’ทรัมป์’

Loading

สื่ออเมริกันรายงานเมื่อวันเสาร์ว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐสกัดจดหมายฉบับหนึ่งที่จ่าหน้าซองถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตามที่อยู่ของทำเนียบขาว หลังผลการตรวจสอบยืนยันว่าจดหมายดังกล่าวมีสารพิษไรซินที่ได้จากเมล็ดละหุ่ง รายงานเอเอฟพีเมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 กันยายนเผยว่า เจ้าหน้าที่ตรวจคัดกรองพบจดหมายฉบับนี้เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่คลังพัสดุชานกรุงวอชิงตัน และไม่ได้ส่งจดหมายนี้ไปทำเนียบขาว นิวยอร์กไทม์รายงานว่าจดหมายฉบับนี้ส่งมาจากแคนาดา ส่วนซีเอ็นเอ็นเผยว่า มีการทดสอบสารที่อยู่ในจดหมายฉบับนี้หลายครั้งและยืนยันว่าเป็นสารพิษจากเมล็ดละหุ่ง คำแถลงของสำนักสอบสวนกลางสหรัฐ (เอฟบีไอ) ในกรุงวอชิงตัน บอกว่า เอฟบีไอ, หน่วยอารักขาประธานาธิบดีสหรัฐ และสำนักตรวจสอบไปรษณีย์ของสหรัฐ กำลังสอบสวนจดหมายต้องสงสัยที่ส่งมาที่หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐ และยืนยันว่าจดหมายฉบับนี้ไม่ได้คุกคามต่อความปลอดภัยสาธารณะ ทั้งนี้ สารพิษจากเมล็ดละหุ่งเป็นสารพิษอันตรายร้ายแรง ทำให้เสียชีวิตได้ในเวลาไม่กี่นาที ถ้ากลืน, สูดดมหรือฉีดเข้าไปในร่างกาย สารพิษนี้จะทำให้อวัยวะล้มเหลว และยังไม่มียาแก้พิษ ————————————————— ที่มา : ไทยโพสต์ / 20 กันยายน 2563 Link : https://www.thaipost.net/main/detail/78067

ระทึก! ระเบิดโจมตีขบวนรถ ‘รอง ปธน.อัฟกัน’ ดับ 4 ศพ-เจ็บกว่า 20 คน

Loading

เกิดเหตุระเบิดโจมตีขบวนรถยนต์ของอัมรุลเลาะห์ ซาเลห์ รองประธานาธิบดีคนที่ 1 ของอัฟกานิสถานในกรุงคาบูลเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (9 ก.ย.) ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บอย่างน้อย 20 คน ขณะที่ตัวรองประธานาธิบดีรอดหวุดหวิด ล่าสุดยังไม่มีกลุ่มใดออกมาประกาศอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุโจมตีซึ่งเกิดขึ้นในขณะที่การเจรจาสันติภาพระหว่างรัฐบาลคาบูลกับกลุ่มติดอาวุธตอลิบานจะเปิดฉากขึ้นที่กรุงโดฮา เมืองหลวงของกาตาร์ “ศัตรูของอัฟกานิสถานพยายามทำร้าย ซาเลห์ อีกครั้งในวันนี้ แต่แผนการชั่วร้ายของพวกเขาล้มเหลว และซาเลห์ไม่ได้รับอันตรายใดๆ” รัซวาน มูราด โฆษกประจำสำนักงานของ ซาเลห์ แถลงผ่านเฟซบุ๊ก พร้อมยืนยันกับรอยเตอร์ว่าระเบิดลูกนี้พุ่งเป้าไปที่ขบวนรถของรองประธานาธิบดี และมีบอดี้การ์ดของซาเลห์ บาดเจ็บไปหลายคน ซาเลห์ อดีตผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรอง เคยตกเป็นเหยื่อความพยายามลอบสังหารมาแล้วหลายครั้ง ล่าสุดคือเหตุโจมตีสำนักงานของเขาเมื่อปีที่แล้วซึ่งมีผู้เสียชีวิตถึง 20 คน โฆษกกระทรวงสาธารณสุขอัฟกานิสถาน ระบุว่า เหตุระเบิดล่าสุดมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย และบาดเจ็บอีก 16 คน เจ้าหน้าที่และนักการทูตต่างออกมาเตือนว่า สถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นอาจบั่นทอนความไว้วางใจของทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในการเจรจาสันติภาพ ที่มา : รอยเตอร์ —————————————————————— ที่มา : MGR Online / 9 กันยายน…