เป็นเรื่อง ทหารแตกแถวยึดค่าย บุกจับตัวปธน.-นายกฯ มาลี คาดก่อรัฐประหาร

Loading

สถานการณ์ประเทศมาลีตึงเครียด หลังประธานาธิบดีกับนายกรัฐมนตรีของประเทศ ถูกทหารจับกุมตัวเอาไว้ ท่ามกลางการประท้วงขับไล่ผู้นำ สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า โฆษกรัฐบาลมาลียอมรับกับพวกเขาในวันอังคารที่ 18 ส.ค. 2563 ว่า ประธานาธิบดี อิบราฮิม บูบาการ์ เคอิตา กับนายกรัฐมนตรี บูบู ซิสเซ ถูกทหารกบฏจับกุมตัวเอาไว้ ไม่กี่ชั่วโมงหลังเกิดเหตุยิงกันที่ ‘คาติ แคมป์’ ค่ายทหารสำคัญซึ่งห่างจากกรุงบามาโก เพียง 15 กม. เมื่อช่วงเช้า นายกรัฐมนตรี บูบู ซิสเซ กับ ประธานาธิบดี อิบราฮิม บูบาการ์ เคอิตา เหตุยิงกันดังกล่าว ทหารชั้นผู้น้อยนำโดย พันเอก มาลิค ดิว รองผู้บัญชาการ คาติ แคมป์ กับนายพล ซาดิโอ คามารา ผู้บัญชาการอีกคน ร่วมกันจับกุมตัวผู้บังคับบัญชาแล้วยึดค่ายทหารเอาไว้ จากนั้นจึงนำกำลังทหารแตกแถวเดินทางไปยังเมืองหลวง ท่ามกลางเสียงเชียร์ของผู้คนที่มาชุมนุม เรียกร้องให้ประธานาธิบดี เคอิตา ลาออก ในช่วงบ่าย…

‘บิ๊กตู่’เจอดีแล้ว! เก๋งแอคคอร์ดขับรถตามประกบ บีบแตรไล่แต่เช้า ยกระดับรปภ.ขั้นสูงสุด

Loading

17 สิงหาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า หลังมีการชุมนุมปราศรัยของของกลุ่มประชาชนปลดแอกที่ถนนราชดำเนินวานนี้ (16 ส.ค.) และมีขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่งพร้อมไปแก้ไขรัฐธรรมนูญ และล่าสุดโรงเรียนและสถานศึกษาทั่วประเทศ มีการชู 3 นิ้วในโรงเรียน ปรากฏว่าเช้าวันเดียวกันนี้ (17 ส.ค.) ก่อนเดินทางเข้ามาปฎิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาล ระหว่างที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกจากบ้านพักภายใน กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) โดยรถเบนซ์กันกระสุน ทะเบียน 4 กต 29 กรุงเทพมหานคร โดยใช้เส้นทางขึ้นด่วนดินแดงเพื่อมาลงที่ด่วนยมราช ปรากฏว่าได้มีรถยนต์เก๋งฮอนด้า แอคคอร์ด รุ่นเก่าสีเขียวอมฟ้าทะเบียน กรุงเทพมหานคร โดยเมื่อทราบว่าเป็นขบวนของ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ได้พยายามที่จะขับประกบ โดยเปิดไฟผ่าหมากพร้อมบีบแตรไล่เป็นระยะ แสดงออกให้เห็นถึงความไม่พอใจ ในการดำรงตำแหน่งนายกตรีในปัจจุบัน โดยรถยนต์คันดังกล่าวมีคนขับรถ เป็นผู้ชายวัยกลางคน ขับมาเพียงคนเดียว โดยขับตามประกบและบีบแตรไล่ ตลอดทางแม้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพยายามที่จะกันไม่ให้เข้าใกล้ขบวนของนายกรัฐมนตรีก็ตาม โดยรถเก๋งฮอนด้าแอคคอร์ดคันดังกล่าว ก็พยายามขับตามมาจนถึงทางลงด่วนยมราช เจ้าหน้าที่จึงสะกัดอีกครั้ง แต่ก็ยังขับตามไปจนถึงหน้าทำเนียบรัฐบาล บริเวณแยกพาณิชย์ และขับตรงเลยไปยังถนนราชดำเนินและหายไปในที่สุด รายงานข่าวแจ้งว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ได้มีการประสาน…

ระทึก! ‘ทรัมป์’ เผ่นหนีออกจากห้องแถลงข่าว หลังเกิดเหตุยิงกันนอกทำเนียบขาว

Loading

รอยเตอร์ – ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ถูกตำรวจอารักขาประธานาธิบดี (ซีเคร็ต เซอร์วิส) พาออกจากห้องแถลงข่าวอย่างกะทันหันเมื่อวานนี้ (10 ส.ค.) หลังเกิดเหตุยิงกันที่ด้านนอกทำเนียบขาว ทรัมป์ กำลังยืนบนโพเดียมและชี้แจงเรื่องตลาดหุ้น ในขณะที่เจ้าหน้าที่ซีเคร็ตเซอร์วิสคนหนึ่งเข้ามาเบรกและเชิญเขาออกไปจากห้อง ส่วนรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง สตีเวน มนูชิน และผู้อำนวยการฝ่ายงบประมาณ รัสส์ วอต ก็ถูกพาออกจากห้องแถลงข่าวเช่นเดียวกัน ผู้นำสหรัฐฯ เดินกลับเข้าไปที่ห้องสื่อมวลชนอีกครั้งในอีกหลายนาทีต่อมา และชี้แจงว่าเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายได้ยิงสกัดบุคคลคนๆ หนึ่งซึ่งมีอาวุธ และนำตัวเขาส่งโรงพยาบาลแล้ว “มีการยิงกันเกิดขึ้นที่ด้านนอกทำเนียบขาว และดูเหมือนจะคุมสถานการณ์ได้แล้ว” ทรัมป์ บอก “แต่มีการยิงเกิดขึ้นจริงๆ และใครบางคนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ผมยังไม่ทราบว่าอาการเขาเป็นอย่างไร” ทรัมป์ เผยด้วยว่า จุดที่มีการยิงกันนั้นอยู่ใกล้กับรั้วด้านนอกทำเนียบ หน่วยซีเคร็ตเซอร์วิสแถลงผ่านสื่อทวิตเตอร์ว่า “เรากำลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ซีเคร็ตเซอร์วิสที่เกี่ยวข้องกับเหตุยิงกันครั้งนี้ ชายผู้ต้องสงสัยและเจ้าหน้าที่ซีเคร็ตเซอร์วิสถูกนำส่งโรงพยาบาลทั้งคู่ แต่เรายืนยันว่าไม่มีใครบุกรุกเข้าไปในพื้นที่ทำเนียบขาว และไม่มีผู้ถูกอารักขาคนใดได้รับอันตราย” ประตูห้องแถลงข่าวของทำเนียบขาวถูกล็อกทันที หลังจากเจ้าหน้าที่พาตัว ทรัมป์ ออกไป ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวชื่นชมตำรวจอารักขาซึ่งปฏิบัติหน้าที่คุ้มครองตนอย่างรวดเร็ว และระบุว่าทางซีเคร็ตเซอร์วิสจะแถลงรายละเอียดให้ทราบในภายหลัง ————————————————————- ที่มา : MGR Online…

สหรัฐสั่งคุก 15 ปี มือวางแผนก่อวินาศกรรมถล่มทำเนียบขาว

Loading

แฟ้มภาพนายแฮเชอร์ ทาเฮบ ผู้ต้องหาในคดีวางแผนโจมตีทำเนียบขาว ซึ่งทั้งสองภาพถ่ายไว้ในปี 2015 (เอพี) สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริกาแถลงเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่า นายแฮเชอร์ ทาเฮบ ชาวเมืองคัมมิง รัฐจอร์เจีย อายุ 23 ปี ถูกศาลตัดสินโทษจำคุกเป็นเวลา 15 ปี จากการวางแผนที่จะก่อวินาศกรรมโจมตีทำเนียบขาวด้วยจรวดต่อต้านรถถังและวัตถุระเบิดต่างๆ และยังมีแผนที่จะโจมตีรูปปั้นเทพีเสรีภาพ อนุสาวรีย์วอชิงตัน อนุสรณ์สถานลินคอล์น และ โบสถ์ยิวในกรุงวอชิงตันด้วย ข่าวแจ้งว่า การตัดสินโทษมีขึ้นหลังจากนายทาเฮบถูกเจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐจับกุมตัวไว้ได้เมื่อวันที่ 16 มกราคมปี 2019 หนึ่งปีหลังจากที่เจ้าหน้าที่เอฟบีไอของสหรัฐได้รวบรวมข้อมูลหลังได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนในชุมชนว่านายทาเฮบซึ่งขณะนั้นมีอายุ 21 ปี มีรากฐานทางความคิดที่เปลี่ยนไป ในคำฟ้องระบุว่านายทาเฮบได้พยายามเกณฑ์ให้ผู้แจ้งข่าวและเจ้าหน้าที่เอฟบีไอนอกเครื่องแบบเข้าร่วมแผนการก่อวินาศกรรมของตนเอง ซึ่งนายทาเฮบกล่าวอ้างว่าเป็นหน้าที่ของเขาในการทำสงครามศักดิ์สิทธิ์เพื่อจะได้เป็นผู้พลีชีพเพื่อศาสนา โดยในตอนแรกนายทาเฮบหวังจะเดินทางไปยังพื้นที่ยึดครองของกลุ่มกองกำลังรัฐอิสลาม(ไอเอส)ในตะวันออกกลาง แต่ได้เปลี่ยนใจที่จะลงมือในสหรัฐ เนื่องจากเขาไม่มีพาสปอร์ต ทั้งนี้การจับกุมนายทาเฮบมีขึ้นขณะเขาถูกเจ้าหน้าที่เอฟบีไอล่อจับในระหว่างรอรับอาวุธที่นายทาเฮบสั่งให้นำมาส่งให้ทั้งอาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติ ระเบิดและอาวุธต่อต้านรถถังเอที-4 —————————————————————- ที่มา : มติชน / 24 กรกฎาคม 2563 LInk : https://www.matichon.co.th/foreign/news_2279229

รถ ผบ.ตร.เม็กซิโก ถูกกราดยิงกลางเมืองหลวงของประเทศ

Loading

ในช่วงเช้ามืดของวันศุกร์ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุรุนแรงขึ้นในประเทศเม็กซิโก เมื่อมือปืนหลายสิบคนได้รุมกระหน่ำยิงรถของ ผบ.ตร. เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 63 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายโอมาร์ การ์เซีย ฟาร์ฮุค ผู้บัญชาการตำรวจกรุงเม็กซิโกซิตี้ ถูกมือปืนกระหน่ำยิงขณะกำลังนั่งรถเดินทางภายในเมืองเมื่อช่วงเวลาประมาณ 06.30 นาทีของวันศุกร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น โดยโฆษกอัยการเปิดเผยว่ามือปืน 28 คน ได้ดักรอรถของผู้บัญชาการตำรวจตั้งแต่ช่วงเวลา 04.00 น. ของวันเดียวกัน และเมื่อรถของเป้าหมายมาถึงที่เกิดเหตุ คนร้ายก็ใช้รถบรรทุกปิดเส้นทางและเริ่มลงมือกราดยิงใส่รถยนต์ นางคลอเดีย เชียนบาม นายกเทศมนตรีประจำกรุงเม็กซิโก ซิตี้ได้เปิดเผยว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้นายฟาร์ฮุคได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 2 คน และหญิงที่ใช้ท้องถนนในระหว่างเกิดเหตุอีก 1 คนเสียชีวิต ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และขณะนี้มีอาการทรงตัว โดยผู้ได้รับบาดเจ็บมีแผลที่บริเวณหัวไหล่ หัวเข่า และกระดูกไหปลาร้า ทางเจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับเหตุอุกอาจครั้งนี้ 12 คน และทางเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบด้วยการดูกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้ รวมไปถึงสอบปากคำผู้ต้องสงสัย ทั้งนี้ยังไม่มีการเปิดเผยว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังรวมไปถึงมูลเหตุจูงในการก่อเหตุอุกอาจในครั้งนี้ ด้านนายฟาร์ฮุคได้ทวีตข้อความกล่าวหาว่ากลุ่ม CJNG แก๊งอาชญกรรมในเม็กซิโกเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ ———————————————————– ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ / 27 มิถุนายน…

ระทึก รถนายกฯ อังกฤษหลบผู้ประท้วง ก่อนโดนชนท้ายหน้ารัฐสภา

Loading

รถยนต์ที่บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษโดยสาร ประสบอุบัติเหตุถูกชนท้ายหน้ารัฐสภา หลังเบรกกะทันหันเพราะผู้ประท้วงวิ่งลงมาบนถนน สำนักข่าว แชนเนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า รถยนต์ซึ่งนายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน แห่งสหราชอาณาจักรกำลังโดยสาร ประสบอุบัติเหตุเฉี่ยวชนที่หน้าอาคารรัฐสภาในกรุงลอนดอน เมื่อวันพุธที่ 17 มิ.ย. 2563 หลังจากรถคันดังกล่าวพยายามหลบผู้ประท้วงที่สนับสนุนชาวเคิร์ด ที่วิ่งลงมาบนถนน ทำให้รถที่ขับตามมาพุ่งชนท้าย คลิปวิดีโอที่เผยแพร่บนโลกออนไลน์แสดงให้เห็นว่า รถยนต์จากัวร์ของนายกฯ จอห์นสัน ซึ่งกำลังเดินทางออกจากอาคารรัฐสภา ต้องเบรกกะทันหันเพราะผู้ประท้วงวิ่งลงมาบนถนน ก่อนจะถูกรถยนต์ที่ตามมาชนท้ายจนเกิดรอยยุบขนาดใหญ่ ขณะที่ตำรวจปลุกปล้ำจับกุมผู้ประท้วงที่ก่อเหตุลงกับพื้น ด้านตำรวจเทศบาลกรุงลอนดอนระบุว่า การเฉี่ยวชนเกิดขึ้นในเวลาประมาณ 14.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ผู้ประท้วงผู้ก่อเหตุถูกจับกุมตัวในข้อหาสร้างความไม่สงบในที่สาธารณะ และกีดขวางการจราจรบนท้องถนน ส่วนสำนักงานนายกรัฐมนตรียืนยันว่า นายจอห์นสันที่อยู่ในรถไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ ทั้งนี้ คาดว่าผู้ประท้วงดังกล่าวออกมาเคลื่อนไหวแสดงการต่อต้านตุรกี ที่ตัดสินใจส่งทหารโจมตีกบฏชาวเคิร์ดในซีเรียอีกครั้งในสัปดาห์นี้ ——————————————————- ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ / 18 มิถุนายน 2563 Link : https://www.thairath.co.th/news/foreign/1871317