มีผลวันนี้! มท.ออกคำสั่งห้ามออกใบอนุญาตพกอาวุธปืน 1ปี

Loading

ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทย ที่ 3877/2566 เรื่อง ห้ามการออกใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว (แบบ ป.12) เป็นการชั่วคราว เป็นระยะเวลา 1 ปี เริ่มมีผลบังคับตั้งแต่วันนี้ (20 ธ.ค. 66) ถึง วันที่ 19 ธ.ค. 67

เสียววูบ! คนขับเก๋งพุ่งชนรถ ในขบวนรถปธน.ไบเดน จนท.ปรี่อารักขา ก่อนส่งกลับบ้านปลอดภัย

Loading

เมื่อค่ำวันอาทิตย์ที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุระทึกขึ้นเมื่อรถยนต์คันหนึ่งพุ่งเข้าชนรถยนต์อเนกประสงค์ (เอสยูวี) ในขบวนรถของประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐอเมริกา ที่ทำให้ผู้นำสะดุ้งตกใจ ขณะออกจากสำนักงานหาเสียงของเขาในเมืองวิลลิงตัน รัฐเดลาแวร์ ประเทศสหรัฐ

รวบ 7 ผู้ต้องสงสัย วางแผนก่อการร้ายโจมตีสถาบันยิวใน 3 ประเทศ

Loading

มีรายงานผู้ต้องสงสัยรวม 7 คนถูกจับกุมในเดนมาร์ก เยอรมนี และเนเธอร์แลนด์ ฐานต้องสงสัยวางแผนโจมตีสถาบันยิวในทั้ง 3 ประเทศ และมีบางคนที่เชื่อว่ามีความสัมพันธ์กับกลุ่มติดอาวุธฮามาส ซึ่งขณะนี้กำลังทำสงครามกับอิสราเอล ในผู้ต้องสงสัยทั้ง 7 คนนี้ มี 3 คนถูกควบคุมตัวในกรุงเบอร์ลิน อีก 1 คนถูกควบคุมตัวในเนเธอร์แลนด์

มท. สั่งทุกจังหวัดคุมเข้ม หลังเหตุใช้อาวุธปืนข่มขู่ – ยิงลูกหนี้นอกระบบ

Loading

ปลัดกระทรวงมหาดไทย สั่งทุกจังหวัดคุมเข้ม หลังมีเหตุใช้อาวุธปืนข่มขู่-ยิงลูกหนี้นอกระบบ ในพื้นที่ต่าง ๆ ย้ำหากพบกระทำความผิด ต้องดำเนินคดีเด็ดขาด ไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างและไม่มีการละเว้นแก่ผู้ใด วันนี้ (12 ธ.ค.2566) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากกรณีมีการใช้อาวุธปืนกราดยิง รวมทั้งกรณีเจ้าหนี้ใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่ลูกหนี้นอกระบบ

ฟิลิปปินส์จับผู้ต้องสงสัยระเบิดยิมมหาวิทยาลัย

Loading

เจ้าหน้าที่กองทัพฟิลิปปินส์จับกุมนายจาฟาร์ กาโม สุลต่าน ฐานต้องสงสัยก่อเหตุระเบิดขณะที่มีพิธีมิสซาในโรงยิมของมหาวิทยาลัยรัฐมินดาเนา เมืองมาราวี บนเกาะมินดาเนา ซึ่งเป็นเมืองที่มีประชากรเป็นชาวมุสลิมมากที่สุดในประเทศ มีผู้เสียชีวิต 4 คน บาดเจ็บ 50 คน นายสุลต่านปรากฏในภาพของกล้องวงจรปิด

‘ไอเอส’ โวอยู่เบื้องหลัง ‘ระเบิดพิธีมิสซา’ ที่มหาวิทยาลัยในฟิลิปปินส์ สหรัฐฯ รุดประณาม ‘ก่อการร้ายสุดชั่วช้า’

Loading

กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ออกมาประกาศอ้างความรับผิดชอบเหตุระเบิดกลางพิธีมิสซาที่มหาวิทยาลัยทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์เมื่อวันอาทิตย์ (3 ธ.ค.) ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย บาดเจ็บอีก 50 คน ขณะที่สหรัฐฯ ประณามสิ่งที่เกิดขึ้นว่าเป็น “การก่อการร้ายอันชั่วช้า” โดยไอเอสซึ่งยังคงมีอิทธิพลอย่างสูงในภาคใต้ของฟิลิปปินส์ประกาศผ่านเทเลแกรมว่า สมาชิกของกลุ่มเป็นผู้จุดชนวนระเบิด