กอ.รมน. ประชุมร่วม มิตรอาเซียน ป้องกัน ปัญหาก่อการร้าย-อาชญากรรมข้ามชาติ

Loading

  กอ.รมน. ประชุมร่วม มิตรประเทศอาเซียน ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ   24 ก.พ. 66 – ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) นางทศยาพร ดิเรกวุฒิ รองโฆษก (กอ.รมน.) เปิดเผยว่า พล.อ.อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ เลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เป็นประธานเปิดการประชุมความร่วมมือด้านการต่อต้านการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติกับกลุ่มประเทศอาเซียน ประจำปี พ.ศ. 2566 (ASEAN Counter Terrorism and Transnational Crime Coordination Conference – ACTC 2023) จัดโดยศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 3 กอ.รมน. ซึ่งรับผิดชอบในการอำนวยการ บูรณาการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ   การประชุมครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมกว่า 100 คน ประกอบด้วยผู้ช่วยทูตทหารอาเซียนประจำประเทศไทย ผู้แทนจากหน่วยงานความมั่นคง อาทิ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.), ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล (ศตก.), กองบัญชาการตำรวจสันติบาล (บช.ส.),…

80% ของคดีฆาตกรรมในสหรัฐฯ เกิดจากแนวคิดเหยียดเชื้อชาติ

Loading

  องค์กรสิทธิมนุษยชนเผย 80% ของคดีฆาตกรรมที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มหัวรุนแรงในสหรัฐฯ ปี 2022 เกิดจากแนวคิดเหยียดเชื้อชาติ   ปี 2022 ที่ผ่านมา เป็นอีกหนึ่งปีที่เกิดเหตุฆาตกรรมจำนวนมากในสหรัฐฯ โดยเฉพาะความรุนแรงจากอาวุธปืน ซึ่งเกิดบ่อยจนแทบจะกลายเป็นเหตุการณ์ปกติที่ไม่ควรปกติในดินแดนแห่งเสรีภาพไปแล้ว และหนึ่งในรากเหง้าของปัญหานี้ ก็คือรากเหง้าเชิงทัศนคติความเชื่อ   สมาคมต่อต้านการหมิ่นประมาท (ADL) เปิดเผยว่า ในปี 2022 สหรัฐฯ มีเหตุฆาตกรรมที่ถูกจัดประเภทว่า “เกี่ยวข้องกับกลุ่มหัวรุนแรง” อยู่ทั้งหมด 25 คดี และมีมีหลายคดีที่ “มีมูลเหตุทั้งหมดหรือบางส่วนมาจากแนวคิดความเชื่อ”   และแนวคิดความเชื่อที่นำไปสู่ความรุนแรงมากที่สุดในสหรัฐฯ คือแนวคิดเหยียดเพศ และแนวคิดเหยียดเชื้อชาติที่เชื่อว่าคนผิวขาวเป็นผู้ที่มีสถานะสูงสุดในสหรัฐฯ หรือ White Supremacy นั่นเอง   ตัวอย่างเช่น เหตุกราดยิงในเดือน พ.ค. 2022 ที่เมืองบัฟฟาโล รัฐนิวยอร์ก ซึ่งผู้ที่มีความเชื่อ White Supremacy ก่อเหตุยิงคนผิวสีเสียชีวิต 10 คน และอีกเหตุการณ์ในเดือน พ.ย. 2022 ที่โคโลราโดสปริงส์…

มีคลิป : ระทึก! “สถานทูตสหรัฐฯ” ในลอนดอนถูก “ล็อกดาวน์” ระบบเตือนภัยข้างในดัง ทุกคนถูกสั่งหลบให้ห่างจากหน้าต่างเพื่อความปลอดภัย

Loading

  เอเจนซีส์ – สถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงลอนดอนถูกล็อกดาวน์เช้าวันพุธ (22 ก.พ.) หลังจากระบบเตือนความปลอดภัยจากด้านในเกิดดังขึ้น ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ทูต พนักงาน และผู้มาติดต่อทุกคนถูกสั่งให้หลบออกห่างจากหน้าต่างเพื่อความปลอดภัย ล่าสุด สถานทูตสหรัฐฯ ทวีตทุกอย่างกลับเข้าสู่ความปกติเรียบร้อย   หนังสือพิมพ์ดิอิฟนิงสแตนดาร์ดของอังกฤษรายงานวันนี้ (22 ก.พ.) ว่า ระบบเตือนความปลอดภัยภายในสถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงลอนดอนเกิดดังขึ้นในเช้าวันพุธ (22) สำนักงานตำรวจนครบาลอังกฤษ หรือสกอตแลนยาร์ด แถลงว่า ระบบเตือนภัยเกิดดังขึ้นหลังมีการพบวัตถุสิ่งของต้องสงสัยถูกทิ้งไว้ด้านใน แต่ในแถลงการณ์กล่าวว่า ในท้ายที่สุดเป็นการเตือนผิดพลาด     ตำรวจติดอาวุธอังกฤษ พร้อมสุนัขดมกลิ่นเดินทางเข้าไปหลังได้รับแจ้งเหตุ ภาพถ่ายและวิดีโอคลิปที่เผยแพร่ไปทั่วโซเชียลมีเดียแสดงแถวยาวของผู้มาติดต่อที่มีทั้งเด็กในรถเข็นให้ออกห่างจากหน้าต่างกระจกเพื่อความปลอดภัย   เดลีเอ็กซเพรส สื่ออังกฤษอีกสำนักรายงานว่า หนึ่งในผู้อยู่ในเหตุการณ์ เอโร โคโรล (Aro Korol) ได้เปิดเผยทางทวิตเตอร์ว่า “เสียงเตือนภัยดังขึ้นที่สถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงลอนดอน พวกเขาสั่งให้พวกเราหลบออกมาให้ห่างจากหน้าต่าง เหตุยังคงดำเนินอยู่ต่อไป”     โคโรลโพสต์วิดีโอคลิปแสดงให้เห็นแถวของผู้มาติดต่อกำลังยืนเรียงราย หรือนั่งชิดติดผนังด้านในของอาคาร   ทั้งนี้ ตำรวจสุนัขอังกฤษถูกพบเดินลาดตระเวนด้านในท่ามกลางตำรวจอังกฤษติดอาวุธถือปืนไรเฟิลสังหารกำลังพูดคุยกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย G4S  …

ชักยังไง! ‘เบลารุส’ ตั้งกองทหารอาสา 100,000-150,000 นาย อ้างฝึกประชาชน ‘จับอาวุธ’ ป้องกันชาติ

Loading

  ประธานาธิบดี อเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก แห่งเบลารุส มีคำสั่งจัดตั้งกองทหารอาสาป้องกันดินแดน โดยมุ่งให้ประชาชน “เรียนรู้การใช้อาวุธ” เพื่อพร้อมสำหรับการป้องกันประเทศ และรักษาความสงบเรียบร้อยในยามปลอดศึกสงคราม   “สถานการณ์ตอนนี้ไม่ง่าย ผมเคยพูดไปมากกว่า 1 ครั้งแล้วว่า ผู้ชายทุกคน ไม่ใช่แค่ 1 คน อย่างน้อยๆ ต้องใช้อาวุธเป็น” ลูคาเชนโก กล่าวในที่ประชุมสภาความมั่นคงเมื่อวานนี้ (20 ก.พ.)   “อย่างน้อยก็จะได้ปกป้องครอบครัว บ้านเรือน ที่ดิน หรือแม้กระทั่งประเทศชาติ หากมีความจำเป็น”   ลูคาเชนโก ซึ่งเคยอนุญาตให้รัสเซียส่งทหารผ่านดินแดนเบลารุสเข้าไปยูเครนเมื่อปีที่แล้ว เอ่ยย้ำเสมอว่ากองทัพของเขาจะจับอาวุธสู้ก็ต่อเมื่อเกิดการโจมตีดินแดนของเบลารุสเท่านั้น เขายังระบุด้วยว่า “ประสบการณ์” ในยูเครนทำให้จำเป็นต้องเสริมกำลังป้องกันประเทศ   “หากมีการรุกรานเกิดขึ้น มาตรการตอบสนองจะต้องรวดเร็ว เด็ดขาด และเหมาะสม” ลูคาเชนโก กล่าว   วิกเตอร์ เครนิน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมเบลารุส ระบุว่า กองทหารอาสาป้องกันดินแดนจะมีจำนวนระหว่าง 100,000-150,000 นาย หรือมากกว่านั้นหากมีความจำเป็น โดยรัฐบาลตั้งเป้าให้มีกองกำลังเหล่านี้อยู่ในทุกๆ…

รัสเซียระงับร่วมมือตามกรอบ “ข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับสุดท้าย” กับสหรัฐ

Loading

    ผู้นำรัสเซียประกาศ “พักความร่วมมือ” กับสหรัฐ ตามเงื่อนไขของ “นิว สตาร์ต” สนธิสัญญาที่ถือกันว่า “เป็นข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับสุดท้าย” ระหว่างสองประเทศมหาอำนาจ   สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ว่า ในช่วงหนึ่งของการแถลงประจำปี ต่อที่ประชุมสภาแห่งสหพันธรัฐ เมื่อวันอังคาร ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ประกาศระงับความร่วมมือกับสหรัฐ ตามกรอบสนธิสัญญาสันติภาพระดับทวิภาคี ว่าด้วยการลดจำนวนอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งมีชื่อเรียกกันในทางการทูตว่า “นิว สตาร์ต”   ทั้งนี้ ผู้นำรัสเซีย เน้นย้ำว่า ท่าทีของรัฐบาลมอสโกเกี่ยวกับเรื่องนี้คือ “การระงับ” หรือ “พักชั่วคราว” ไม่ใช่ “การถอนตัว” หรือ “การยุติข้อตกลง” ขณะเดียวกัน ปูติน กล่าวถึงการดำเนินงานของ โรซาตอม ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจด้านพลังงานนิวเคลียร์ของรัสเซีย ต้องมีความพร้อมทุกเมื่อ “ในยามถึงคราวจำเป็น” ที่รัสเซียต้องทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งปูติน ยืนยันว่า รัสเซียจะไม่เป็นฝ่ายดำเนินการก่อน แต่เมื่อใดก็ตามที่สหรัฐทดสอบ รัสเซียจะทำเช่นกัน…

รัสเซียทราบล่วงหน้า ไบเดนจะเดินทางเยือนยูเครน

Loading

    ทำเนียบขาวเผย ได้มีการแจ้งรัสเซียไว้ล่วงหน้าแล้วว่า ปธน.สหรัฐฯ โจ ไบเดน จะเดินทางเยือนยูเครน   การเดินทางเยือนยูเครนสุดเซอร์ไพรส์โดยไม่บอกล่วงหน้าของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน เมื่อวานนี้ (20 ก.พ.) กลายเป็นที่จับตาและพูดถึงทั่วโลก เพราะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สงครามรัสเซีย-ยูเครนเริ่มต้น ที่ผู้นำสหรัฐฯ ได้มาเยือนยูเครน   แทบจะไม่มีใครทราบถึงการเดินทางครั้งนี้เลย ไบเดนปรากฏตัวครั้งสุดท้ายช่วงค่ำวันเสาร์ แล้วหายตัวไปในวันอาทิตย์ โดยทางทำเนียบขาวสับขาหลอกบรรดาสื่อด้วยการแจ้งว่า ไบเดนมีกำหนดการออกเดินทางเยือนโปแลนด์ในวันจันทร์     การเดินทางครั้งนี้กินเวลานานหลายสิบชั่วโมง ไบเดนโดยสารเครื่องบินจากฐานทัพแอนดรูว์สในเวลาประมาณ 04.00 น. ของวันอาทิตย์ มุ่งหน้าไปยังเยอรมนีเพื่อแวะเติมน้ำมัน จากนั้นบินต่อไปยังโปแลนด์ และนั่งรถไฟมุ่งหน้าไปยังกรุงเคียฟใช้เวลาอีก 10 ชั่วโมง   เขาขึ้นรถไฟจากโปแลนด์ในช่วง 22.00 น. ของคืนวันอาทิตย์ โดยคณะเดินทางเหมาตู้รถไฟไว้ 8 ตู้ การเดินทางตลอดทั้งคืนไม่ได้มีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น เพียงต้องจอดที่จุดแวะพัก 2-3 แห่ง จนกระทั่งรถไฟมาถึงสถานีเคียฟในเวลา 8.00 น. ของวันจันทร์ ตามเวลาท้องถิ่น  …