ฮามาสยิงเป้า 2 ชาวปาเลสไตน์ ฐานเป็นสายลับให้อิสราเอล

Loading

  กลุ่มฮามาสประหารชีวิตชาวปาเลสไตน์ 5 คน ด้วยการยิงเป้า รวมถึง 2 คน ซึ่งทำหน้าที่จารกรรมข้อมูลให้กับอิสราเอล   สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองกาซาซิตี ฉนวนกาซา เมื่อวันที่ 5 ก.ย.ว่า กลุ่มฮามาสออกแถลงการณ์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เกี่ยวกับการประหารชีวิตชาวปาเลสไตน์ 5 คน ด้วยการยิงเป้า นับเป็นการประหารชีวิตนักโทษ “อย่างเป็นทางการ” ครั้งแรกในฉนวนกาซา นับตั้งแต่เดือน พ.ค. 2560   2 Palestinians accused of supplying Israel with intelligence were among 5 people executed on Sunday morning in Gaza Activist @RamiAman1 tells our @PiaSteckelbach that Hamas uses the…

Samsung เผยมีการเจาะข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าครั้งใหญ่เมื่อเดือนกรกฎาคม

Loading

  Samsung บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จากเกาหลีใต้ ออกโรงเตือนลูกค้าเกี่ยวกับเหตุโจมตีทางไซเบอร์เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยระบุว่า เกิดจากการที่บุคคลภายนอกเข้ามาดูดข้อมูลจากระบบโครงข่ายของบริษัทในสหรัฐอเมริกาโดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้ก่อเหตุได้ข้อมูลสำคัญของลูกค้าไปเป็นจำนวนมาก รวมถึง ชื่อ วันเกิด ข้อมูลการติดต่อ และข้อมูลการลงทะเบียนผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้ Samsung เพิ่งจะพบว่ามีเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา และอยู่ระหว่างการสืบสวนร่วมกับบริษัทด้านไซเบอร์รายใหญ่ แต่ได้ส่งอีเมลไปให้ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบโดยตรงแล้ว Samsung เผยว่า ลูกค้าแต่ละรายได้รับผลกระทบที่แตกต่างกัน แต่ก็ย้ำว่าไม่มีการรั่วไหลของเลข Social Security ของผู้ใช้งานในสหรัฐฯ (คล้ายเลขบัตรประชาชนหรือบัตรประจำตัวผู้เสียภาษี) และเลขบัตรเดบิต/เครดิตแน่นอน ทางบริษัทระบุว่าลูกค้าที่ได้รับผลกระทบไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนรหัสผ่านหรือเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยของบัญชี เนื่องจากการเจาะข้อมูลที่เกิดขึ้นไม่ได้กระทบตต่ออุปกรณ์ของผู้ใช้ แต่เป็นการโจมตีระบบของ Samsung โดยตรง อย่างไรก็ดี ข้อมูลที่แฮกเกอร์ได้ออกไปก็สามารถนำไปใช้ในการหลอกเอาเงินหรือข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้เสียหายได้ อย่างการใช้อีเมลในการส่งอีเมลปลอมเพื่อหลอกถามรายละเอียดทางการเงินเพิ่มเติม Samsung ขอให้ลูกค้าคอยระวังความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นต่อบัญชีผู้ใช้ รวมถึงอีเมลแปลก ๆ ที่อาจส่งมาด้วย ที่มา The Verge พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส     ที่มา : beartai   /   วันที่เผยแพร่…

“เศรษฐพงค์” เห็นด้วย กสทช. คุมเข้มเผยแพร่ข่าวปมควบรวม

Loading

กทม. 29 ส.ค.- “เศรษฐพงค์” เห็นด้วยประธาน กสทช. คุมเข้มการเผยแพร่ข่าวปมควบรวม หลังมือดีปล่อย “5 Facts กรณีควบรวมทรู-ดีแทค” พร้อมแนะ กสทช. ศึกษาข้อบังคับประชุมปี 55 ว่าด้วยการเปิดเผยข้อมูลได้ แต่ต้องไม่ผิดระเบียบ และไม่ทำให้เกิด ความเสียหาย   พันเอก เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานคณะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สภาผู้แทนราษฎร ในฐานะอดีตรองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวถึงกรณี ศ.(คลินิก) นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. ออกบันทึกถึงเลขาธิการ กสทช. เรื่องการเผยแพร่สื่อประชาสัมพันธ์กรณีการควบรวม หลังจากที่มีการเผยแพร่ข่าว ในหัวข้อ “5 Facts กรณีควบรวมทรู-ดีแทค” อ้างที่มาจาก กสทช. ว่า การที่ประธาน กสทช. ตอกย้ำความสำคัญเรื่องการเปิดเผยข้อมูลนั้น ถือเป็นเรื่องดีและทำถูกต้องแล้ว เพราะหากข้อมูลที่อยู่ระหว่างการพิจารณา ข้อมูลที่ยังไม่ได้รับการลงมติ และข้อมูลที่อาจขาดความครบถ้วน…

พักงานบิ๊กอนามัยโลก ปมเหยียดเชื้อชาติ-ลักลอบส่งข้อมูลอ่อนไหว

Loading

  พักงานบิ๊กอนามัยโลก – วันที่ 30 ส.ค. เอพีรายงานว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) มีคำสั่งพักงานนายแพทย์ทาเคชิ คาซาอิ ผู้อำนวยการ WHO ภาคพื้นแปซิฟิกตะวันตก อย่างไม่มีกำหนด หลังผลการสอบสวนภายในพบว่านพ.คาซาอิ มีพฤติกรรมและเคยกล่าววาจาไม่เหมาะสม ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของ WHO เกิดขึ้นให้หลังเพียง 1 เดือน หลังสำนักข่าวเอพีเปิดเผยเรื่องราวเบื้องลึกจากปากของเจ้าหน้าที่ WHO หลายคน ถึงพฤติกรรมอำนาจนิยม ไม่มีมนุษยธรรม และเหยียดหยามเกียรติยศศักดิ์ศรีเพื่อนมนุษย์เชื้อชาติอื่น ส่งผลกระทบต่อความพยายามของสหประชาชาติหรือยูเอ็นในการควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019     นพ.ทาเคชิ คาซาอิ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ภาคพื้นแปซิฟิกตะวันตก ถูกสั่งพักงาน (เอพี) นพ.เทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผอ.ใหญ่ของ WHO ระบุผ่านอีเมลที่ส่งให้กับเจ้าหน้าที่ WHO ในสำนักงานใหญ่ภาคพื้นแปซิฟิกตะวันตกตั้งอยู่ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ว่า นพ.คาซาอิ นั้นอยู่ระหว่างลางาน และว่า พญ.ชุสซานนา ยาค็อบ รอง ผอ.ใหญ่…

ศาลมาเลเซียประณาม เอกสารคดีเมีย ‘นาจิบ ราซัก’ รั่ว ชี้ของปลอม หวังคุกคามการทำงาน

Loading

  ศาลสูงมาเลเซียออกมาประณามการกระทำของเว็บไซต์มาเลเซียทูเดย์ ที่มีการเผยแพร่เอกสารความยาว 71 หน้า ซึ่งระบุว่าเป็นคำพิพากษาความผิดของนางรอสมาห์ มันซอร์ ภริยาของนายนาจิบ ราซัก อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่เพิ่งสร้างประวัติศาสตร์ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียคนแรกที่ต้องโทษจำคุกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ศาลสูงมาเลเซียมีกำหนดจะพิจารณาคดีการรับสินบนของนางรอสมาห์ในโครงการเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์ มูลค่า 279 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 10,000 ล้านบาท แต่เว็บไซต์มาเลเซียทูเดย์กลับนำเอกสารที่ระบุว่า เป็นการพิพากษาความผิดของนางรอสมาห์มาเผยแพร่เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม โดยกล่าวหาว่าคำพิพากษาถูกเขียนขึ้นโดยบุคคลที่ไม่เป็นที่รู้จัก และไม่ใช่ผู้พิพากษาศาลสูงที่ดูแลคดีของนางรอสมาห์ หัวหน้านายทะเบียนของศาลรัฐบาลกลางออกมาประณามการกระทำของเว็บไซต์ดังกล่าวว่าเป็นการกระทำโดยเจตนาเพื่อสร้างความเสื่อมเสียให้กับศาล โดยได้มีการยื่นเรื่องร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว พร้อมกับให้คำมั่นว่าศาลจะไม่หวาดกลัวกับความพยายามใดๆ ที่จะคุกคามขู่เข็ญการทำงานของกระบวนการยุติธรรม ด้านตำรวจระบุว่า เอกสารที่รั่วไหลออกไปเป็นร่างเอกสารเบื้องต้นที่จัดทำขึ้นโดยหน่วยงานวิจัยของศาลสูงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งเป็นการวิจัยถึงคดีที่กำลังดำเนินอยู่ เป็นมุมมองของหน่วยวิจัยเพื่อใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงของผู้พิพากษา เอกสารดังกล่าวจะต้องมีการแก้ไขตามผลการวิจัยและศึกษาเพิ่มเติม และมันไม่ใช่คำพิพากษาแต่อย่างใด นอกจากนี้ตำรวจยังระบุว่าได้มีการแก้ไขเนื้อหาของเอกสารให้ต่างออกไปจากต้นฉบับด้วย     ที่มา : มติชนออนไลน์   /   วันที่เผยแพร่ 28 ส.ค.65 Link : https://www.matichon.co.th/foreign/news_3531878

เอฟบีไอระบุ ‘ทรัมป์’ เก็บเอกสารลับไม่เหมาะสม

Loading

  วอชิงตัน (เอพี/รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์) – เอกสารคำให้การของสำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) ระบุว่า เอกสาร 15 กล่อง ที่นำออกมาจากบ้านพักของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มี 14 กล่อง ที่เป็นความลับและหลายชิ้นอยู่ในชั้น“ลับสุดยอด” ถูกจัดเก็บอย่างไม่เหมาะสม เพราะพบเก็บไว้รวมกับหนังสือพิมพ์ นิตยสาร และจดหมายส่วนตัว กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เผยแพร่ เอกสารคำให้การของเอฟบีไอที่ชี้แจงต่อศาลเพื่อขออำนาจศาลในการเข้าตรวจค้นบ้านพักของนายทรัมป์ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความจำเป็นในการเข้าตรวจค้นบ้านของอดีตประธานาธิบดี ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน บ้านพักตากอากาศ มาร์อาลาโก ของนายทรัมป์ ในรัฐฟลอริดา ไม่ได้เป็นสถานที่ที่ได้รับอนุญาตให้เก็บเอกสารที่เป็นความลับเอฟบีไอ ระบุว่า เหตุผลหนึ่งในการตรวจค้นที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม เพราะเชื่อว่ามีหลักฐานเกี่ยวกับการขัดขวางกระบวนการยุติธรรมอยู่ในบ้านด้วย เอกสารความยาว 38 หน้าของเอฟบีไอ ถูกขีดฆ่าด้วยหมึกสีดำเป็นจำนวนมาก เพื่อรักษาความปลอดภัยของพยานและเจ้าหน้าที่รักษากฎหมายที่เกี่ยวข้องและเพื่อรักษารูปคดีในการสอบสวน นอกจากนี้ ยังมีการเปิดเผยรายละเอียดใหม่เกี่ยวกับประเภทของเอกสารลับซึ่งถูกจัดเก็บที่บ้านของทรัมป์มาจนถึงเดือนมกราคมปีนี้ มีตั้งแต่บันทึกที่เขียนด้วยลายมือโดยประธานาธิบดีไปจนถึงข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งข่าวกรองแห่งชาติ โดยจากการตรวจสอบกล่องเอกสาร 15 กล่อง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 – 18 พ.ค. พบว่ามีเอกสาร 67 รายการ…