รัสเซียจับนักข่าวอเมริกัน ต้องสงสัยเป็นสายลับ-สหรัฐฯประณามหนัก

Loading

    วอชิงตัน (เอพี/รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์) – รัสเซียจับกุมผู้สื่อข่าวอเมริกันฐานต้องสงสัยว่าเป็นสายลับ ซึ่งถือเป็นสื่ออเมริกันคนแรกที่ถูกจับนับตั้งแต่ปี 1986 ขณะที่ทางสหรัฐฯ ประณามการเคลื่อนไหวนี้ในระดับรุนแรงที่สุด   หน่วยความมั่นคงกลางรัสเซีย หรือเอฟเอสบี เปิดเผยว่า ได้จับกุม อีวานเกอร์สโควิช วัย 31 ปี ซึ่งเป็นผู้สื่อข่าวของ เดอะวอลล์ สตรีท เจอร์นัล หนังสือพิมพ์ในสหรัฐอเมริกา ฐานต้องสงสัยว่าเป็นสายลับอเมริกัน โดยถือเป็นการปราบปรามสื่อมวลชนจากต่างประเทศที่โจ่งแจ้งที่สุด นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนเมื่อกว่า 1 ปีก่อน และตั้งแต่ช่วงสงครามเย็นเป็นต้นมา   เอฟเอสบีและกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ระบุว่า ได้เริ่มดำเนินคดีอาญาเกอร์สโควิชฐานต้องสงสัยจารกรรม โดยกล่าวหาว่าเขารวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับโรงงานผลิตยุทโธปกรณ์ที่เป็นความลับของชาติ โดยไม่ได้ระบุชื่อโรงงานและสถานที่ตั้ง แต่เปิดเผยว่าจับกุมผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวที่เมืองเยคาเตรินเบิร์กระหว่างกำลังพยายามหาข้อมูลความลับโดยเอฟเอสบีอ้างว่าเข้าไปยับยั้งการกระทำความผิดทางกฎหมาย ซึ่งไม่ได้มีการแสดงหลักฐานยืนยันการกระทำผิดแต่อย่างใด   ขณะที่รัฐบาลรัสเซีย ระบุว่า ได้รับข้อมูลว่าเกอร์สโควิชถูกจับได้คาหนังคาเขา และการเดินทางไปเยคาเตรินเบิร์กของเขาไม่เกี่ยวข้องกับการทำหน้าที่สื่อมวลชน ส่วนผู้สื่อข่าวคนอื่นๆ ที่ทำงานให้ เดอะวอลล์ สตรีท เจอร์นัล สามารถทำงานต่อไปได้หากได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง ตราบเท่าที่ทำหน้าที่ของสื่อมวลชนตามปกติ   เกอร์สโควิช ถูกนำตัวไปขึ้นศาลในมอสโก และศาลสั่งให้ควบคุมตัวไปจนถึงวันที่…

ข้อมูลหลุด 55 ล้านคน ปิดกั้นเว็บแฮ็กเกอร์แล้ว

Loading

Cyber crime, A hacker using a virus to attack software   แฮ็กเกอร์เหิมปล่อยคลิปเรียกค่าไถ่ ข้อมูลคนไทย 55 ล้านคน รมว.ดีอีเอส สั่งตั้งทีมล่าแฮกเกอร์พร้อมปิดกั้นเว็บไซต์แล้ว ด้าน ธปท.ยันไม่พบข้อมูลรั่วไหลจากธนาคารแห่งประเทศไทย   จากกรณีมีผู้ใช้งานบัญชี 9near โพสต์ขายข้อมูลที่อ้างว่าเป็นข้อมูลส่วนตัวของคนไทยกว่า 55 ล้านรายการ บนเว็บไซต์ Bleach Forums อ้างเป็นไฟล์ข้อมูลรายชื่อ วันเกิด ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ และมีการแอบอ้างใส่ชื่อนายปริญญา หอมเอนก เป็นผู้สนับสนุน และให้ผู้คิดว่าข้อมูลของตนรั่วไหล ติดต่อกลับไปก่อนวันที่ 5 เม.ย. 16.00 น. เวลาประเทศไทย ไม่เช่นนั้นจะทําการเผยแพร่ข้อมูล ทั้งนี้ อ.ปริญญาฯ ได้เข้าแจ้งความกับกองบังคับการ ปราบปรามการกระทําผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) แล้ว ในวันเดียวกัน   ล่าสุดวานนี้ (31 มี.ค. 2566)…

ยูเครนทลายรังโจรไซเบอร์สร้างตลาดออนไลน์ปลอมหลอกเอาข้อมูลเหยื่อ

Loading

  ตำรวจยูเครนจับกุม 2 ผู้ต้องหา และคุมตัวผู้เกี่ยวข้องอีก 10 ราย สำหรับความเชื่อมโยงกับแก๊งอาชญากรรมไซเบอร์ที่ใช้วิธีฟิชชิ่งและเปิดตลาดออนไลน์ในการขโมยเงินกว่า 4.3 ล้านเหรียญ (ราว 146 ล้านบาท) จากเหยื่อ 1,000 รายทั่วยุโรป   แก๊งที่ว่านี้สร้างเว็บไซต์ดูดข้อมูลมากกว่า 100 แห่งเพื่อหลอกเอาข้อมูลบัตรธนาคารของเหยื่อ และล้วงข้อมูลบัญชี   เว็บไซต์เหล่านี้หลอกว่าขายผลิตภัณฑ์หลายตัวในราคาต่ำกว่าตลาด ซึ่งเมื่อเหยื่อเผลอกรอกข้อมูลทางการเงินเพื่อซื้อสินค้าเหล่านี้ ก็จะถูกขโมยข้อมูลทันที ก่อนจะสูญเงินไปทั้งหมด   นอกจากนี้ ยังมีการเปิดคอลเซ็นเตอร์ 2 แห่ง ตั้งอยู่ในเมืองวินนิตเซีย และลวิฟ ของยูเครน ซึ่งมีการจ้างพนักงานที่มีหน้าที่คอยดึงดูดให้เหยื่อเข้ามาซื้อสินค้า   เหยื่อมาจากหลายประเทศทั่วยุโรป ทั้ง เช็กเกีย โปแลนด์ ฝรั่งเศส สเปน และโปรตุเกส   2 ผู้ต้องหาสำคัญที่เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นหัวโจกถูกตั้งข้อหาฉ้อโกง และสร้างองค์กรอาชญากรรม มีโทษจำคุกสูงสุด 12 ปี ขณะที่เครือข่ายอีก 10 รายถูกเจ้าหน้าที่จากสหภาพยุโรปคุมตัวไว้สอบสวนต่อไป   โดยตำรวจยูเครนได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของเช็กเกียจนนำมาสู่การทลายรังโจรในครั้งนี้…

พบมัลแวร์ MacStealer ที่แอบขโมยรหัส iCloud, ข้อมูลบัตรเครดิต และอื่น ๆ ในเครื่อง​ Mac

Loading

  นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก Uptycs ได้ค้นพบมัลแวร์ตัวใหม่ที่มีชื่อว่า MacStealer ซึ่งเป็นมัลแวร์ที่แอบขโมยข้อมูลบนเครื่อง Mac ที่ใช้งาน macOS Catalina และเวอร์ชันใหม่กว่านี้ ซึ่งตัวมัลแวร์สามารถทั้งานได้ทั้งอุปกรณ์ที่ใช้ Intel และ Apple Silicon   MacStealer สามารถขโมยข้อมูลได้หลากหลาย เช่น รหัส, Cookies และข้อมูลบัตรเครดิตจากเบราว์เซอร์ Firefox, Google Chrome และ Microsoft Brave Browser และมันยังสามารถ extract ไฟล์ได้หลายประเภท อย่าง .txt, .doc, .jpg และ .zip รวมถึงฐานข้อมูลของ KeyChain ด้วย   อ้างอิงข้อมูลจาก Uptycs เผยว่าผู้พัฒนากำลังพยายามทำให้มัลแวร์ดังกล่าวสามารถเก็บข้อมูลจาก Safari เช่นรหัสและ Cookies รวมถึงข้อมูลจากแอป Notes ด้วย   แม้ว่ามัลแวร์ MacStealer…

ส.ส.ญี่ปุ่นเตรียมเสนอให้รัฐบาลแบน ‘ติ๊กต็อก’

Loading

  กลุ่ม ส.ส.ญี่ปุ่นจากพรรคแอลดีพี เตรียมเสนอให้รัฐบาลสั่งแบนแอปพลิเคชันยอดนิยมหลายแพลตฟอร์ม ซึ่งรวมทั้ง ‘ติ๊กต็อก’ ด้วย หากพบว่ามีการใช้งานในแง่ลบ   27 มี.ค. 2566 กลุ่ม ส.ส.พรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ของญี่ปุ่น วางแผนรวบรวมข้อเสนอเพื่อยื่นต่อรัฐบาลในเดือนหน้า ให้มีมาตรการสั่งแบนแอปพลิเคชันโซเชียลเน็ตเวิร์กหลายแพลตฟอร์ม ถ้าหากพบว่ามีการนำไปใช้เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท็จ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีแอปพลิเคชันยอดนิยมที่กำลังตกเป็นเป้าหมายของการสั่งแบนในสหรัฐอย่าง ‘ติ๊กต็อก’ รวมอยู่ด้วย   ส.ส.ของสหรัฐเ รียกร้องรัฐบาลของประธานาธิบดีพิจารณาสั่งห้ามการใช้แอปพลิเคชันติ๊กต็อกที่มีต้นตอมาจากประเทศจีน โดยกล่าวหาว่ามีการใช้แอปพลิเคชันดังกล่าวเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลผู้ใช้ รวมถึงเซ็นเซอร์เนื้อหาและเป็นอันตรายต่อสุขภาพจิตของเยาวชน   โนริฮิโระ นากายามะ ส.ส.พรรคแอลดีพี กล่าวว่า ถ้าหากมีการพิสูจน์ได้ว่ามีการใช้งานแอปพลิเคชันใด ๆ โดยเจตนา เพื่อผลประโยชน์เฉพาะกลุ่มหรือเฉพาะประเทศใดประเทศหนึ่ง เพื่อเผยแพร่อิทธิพลในทางประสงค์ร้าย ก็ควรพิจารณาสั่งให้เลิกใช้แอปพลิเคชันนั้นๆ   นากายามะ กล่าวว่า หากมีความชัดเจนว่าแอปพลิเคชันจะโดนสั่งปิดได้ ถ้าทำผิดกฎเกณฑ์ ก็จะช่วยให้บริษัทผู้พัฒนาและเป็นเจ้าของแอปพลิเคชันคอยตรวจสอบการใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น แอปติ๊กต็อก ซึ่งมีผู้ใช้งานชาวญี่ปุ่นเป็นจำนวนมากถึง 17 ล้านคน ก็จะเข้าถึงแอปไม่ได้ นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยป้องกันความปลอดภัยของผู้ใช้งานได้   นากายามะ กล่าวว่าควรมีการพิจารณาจำกัดการใช้งานแอป เพิ่มเติม…

คลุมเครือต่อไป! สหรัฐฯ ไม่อนุญาตเผยคลิปยิงสอย ‘วัตถุบินปริศนา’ เหนืออะแลสกา อ้างเป็นข้อมูล ‘ชั้นความลับ’

Loading

    กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ อ้างคลิปบันทึกเหตุการณ์ขณะที่เครื่องบินของกองทัพยิงสอยวัตถุบินปริศนาเหนือรัฐอะแลสกาเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ยังถือเป็นข้อมูลชั้นความลับ (classified) และไม่สามารถเผยให้สาธารณชนรับรู้ได้   “คลิปการยิงทำลายวัตถุปริศนาในบรรยากาศชั้นสูงมีอยู่จริง” โฆษกเพนตากอนให้สัมภาษณ์กับ Fox News Digital แต่ย้ำว่า “ยังไม่มีคลิปไหนที่ได้รับอนุญาตให้เผยแพร่ได้ และมันยังจัดเป็นข้อมูลชั้นความลับอยู่”   คำยืนยันจากโฆษกผู้นี้มีขึ้นหลังจากที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ออกมาระบุเมื่อเดือน ก.พ. ว่า มีวัตถุบินจำนวนมากถูกกองทัพยิงตกเหนือรัฐอะแลสกาตามคำสั่งของประธานาธิบดี โจ ไบเดน   “วัตถุดังกล่าวลอยอยู่ที่ระดับความสูง 40,000 ฟุต และก่อความเสี่ยงต่อเครื่องบินพลเรือน” แพทริก ไรเดอร์ เลขานุการฝ่ายสื่อมวลชนของเพนตากอน ออกมาให้สัมภาษณ์หลังจากที่มีการยิงวัตถุบินลึกลับชิ้นหนึ่งตก   เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์ หลังสหรัฐฯ พบ “บอลลูนสอดแนมจีน” เคลื่อนผ่านน่านฟ้าหลายรัฐตั้งแต่ภาคตะวันตกเรื่อยไปจนถึงตะวันออก จนสุดท้ายไปถูกเครื่องบินขับไล่อเมริกันยิงตกที่นอกชายฝั่งรัฐเซาท์แคโรไลนา   ในขณะที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ มีการปล่อยภาพนิ่งของบอลลูนจีน ทว่าจนถึงขณะนี้กลับยังไม่ยอมเผยคลิปหรือภาพอย่างเป็นทางการของวัตถุบินปริศนาเหนือรัฐอะแลสกา   “คลิปของวัตถุดังกล่าว รวมถึงคลิปการยิงทำลายยังไม่ได้รับอนุญาตให้เผยแพร่ และผมเองก็ไม่สามารถระบุกรอบเวลาสำหรับการเผยแพร่ในอนาคตด้วย” โฆษกเพนตากอนระบุ   การออกมาให้ข้อมูลที่คลุมเครือเช่นนี้ทำให้หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่า จริงๆ แล้วกองทัพสหรัฐฯ ยิงอะไรตกกันแน่? และล่าสุดมีสมาคมบอลลูนสมัครเล่นแห่งหนึ่งออกมาระบุว่า…